อื่นๆ

รีวิวหนังสือ โลกเก้าใบในร้านหนังสือ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวหนังสือ โลกเก้าใบในร้านหนังสือ

หนังสือขนาด A5 หน้าปกโดดเด่นด้วยสีน้ำเงินเข้มจากท้องฟ้าอันแจ่มใสตัดกับหาดทรายสีอ่อน หญิงสาวคนหนึ่งยืนถือหนังสืออยู่บนเก้าอี้ มีกองหนังสือตั้งอยู่บนโต๊ะและพื้นข้าง ๆ ตัว ประดับด้วยโคมไฟและป้ายหนังสือ ที่ดูแล้วเหมือนมุมอ่านหนังสือดี ๆ ที่ไหนสักแห่ง บนท้องฟ้าของหน้าปกมีตัวอักษรบาง ๆ เขียนว่า "โลกเก้าใบในร้านหนังสือ" และมีคำอธิบายในก้อนเมฆคือ "รวมความเรียงลำดับที่ 3 ว่าด้วยเรื่องร้านหนังสือของเหล่ามิตรร้านเล่า" ส่วนด้านล่างสุดคือรายชื่อของนักเขียนเจ้าของโลกทั้งเก้าใบ ที่ฉันกำลังจะเข้าไปสัมผัสในไม่ช้านี้

"โลกเก้าใบในร้านหนังสือ" เป็นหนังสือรวมความเรียง (ตามคำที่เขานิยาม) เก้าเรื่องจากนักเขียนเก้าคน ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านหนังสือ โดยนำเสนอแก่นของเรื่องเหมือนกัน คือ ความผูกพันของตัวละครที่มีต่อร้านหนังสือซึ่งตัวละครที่ปรากฏในเรื่องสั้นแต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งเด็กขายพวงมาลัย นักศึกษา นักท่องเที่ยว นักวิชาการ ตัวละครที่ไม่ทราบสถานะ หรือแม้กระทั่งแมลงสาบ ทุกตัวละครล้วนแต่ถ่ายทอดเรื่องราวของตนเองที่มีร้านหนังสือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในแบบที่แตกต่างกัน

Advertisement

Advertisement

หน้าปกตัวละครที่ดูแล้วโดดเด่นมากกว่าเรื่อง ๆ อื่นในความคิดของฉันคือเรื่อง "เหมือนฝันในร้านหนังสือ" เล่าเรื่องในมุมมองแมลงสาบที่เติบโตและอาศัยอยู่ในร้านหนังสือ การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแหล่งความรู้ดี ๆ ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองไม่ใช่สัตว์ และรู้สึกแปลกแยกกับเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของตนเอง จนกระทั่งเจอกับตุ๊กแกที่มีมุมมองชีวิตที่คล้ายกัน แม้ตอนจบของเรื่องจะทำให้ฉันผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าสัญชาตญาณเป็นที่ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนตัวละครอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่เรื่องราวของเขาทำให้ฉันรู้สึกสะเทือนใจคือ เด็กขายพวงมาลัยจากเรื่อง "โลกนอกหนังสือ" ที่อยากอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่มในร้านหนังสือ ณ ริมถนนที่เขาเห็นอยู่ทุกวันขณะทำงาน แต่เขาไม่มีเงินพอสำหรับซื้อหนังสือเล่มนั้น จึงแอบขโมยออกมาจากร้าน ตอนจบของเรื่องนั้นเป็นไปตามที่คาดคิดและสภาพความเป็นจริงของสังคม ฉันไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ผิด ๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า แม้เราพยายามส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่างเท่าเทียม แต่ความเป็นจริงแล้ว ในสังคมเรายังมีความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นอยู่มาก ทำให้แนวคิดเหล่านี้เป็นจริงไม่ได้ และเหตุการณ์ในเรื่องนี้ก็สะท้อนความเป็นจริงที่สะเทือนใจออกมา เทียบกับเรื่องสั้นเรื่องอื่น ๆ แล้ว ร้านหนังสือคงไม่ใช่สถานที่ที่มีความทรงจำดี ๆ สำหรับเขาเท่าไรนัก แต่จะเป็นบทเรียนที่ดีในชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
ร้านหนังสือ

Advertisement

Advertisement

นอกจากตัวละครที่ทำหน้าที่เดินเรื่องให้น่าสนใจแล้ว ฉากร้านหนังสือก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะใจความหลักของหนังสือเล่มนี้คือร้านหนังสือนั่นเอง ซึ่งร้านหนังสือที่ปรากฏในเรื่องสั้นที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเรื่อง "ร้านหนังสือ-หนังรัก-ณ ตลาดนัด" ผู้เขียนใช้สรรพนามแทนตัวละครในเรื่องว่า ฉัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าหมายถึงตัวผู้เขียนเอง หรือตัวละครสมมติ โดยได้เล่าถึงการท่องเที่ยวในตลาดนัดศิลปะบนถนนพอร์ทเทอเบลโลในย่าน Notting Hill เพื่อตามหาร้านหนังสือ The Travel Bookshop ซึ่งเป็นฉากที่อยู่ภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Nothing Hill ผู้เขียนได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นและทราบว่าร้านที่เป็นฉากในภาพยนตร์นั้นไม่ใช่สถานที่จริง เป็นเพียงการสร้างฉากขึ้นมาจากร้าน The Travel Bookshop ที่เคยมีอยู่จริงในอดีต แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นร้านขายของที่ระลึกชื่อ Notting Hill แล้ว และสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ละแวกนั้นก็ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาตามรอย แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของผู้ชมภาพยนตร์ที่มีต่อร้านหนังสือ และอยากจะสัมผัสบรรยากาศนั้นจริง ๆ บ้าง

Advertisement

Advertisement

หน้าปกหลังผู้เขียนเรื่องสั้นแต่ละเรื่องใช้กลวิธีนำเสนอเรื่องเชื่อมโยงตัวละครกับร้านหนังสือเข้าด้วยกัน จนดูแล้วเหมือนร้านหนังสือไม่ได้เป็นแค่ฉากหลังของเรื่องเท่านั้น แต่ดูแล้วเหมือนคนคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวละครหลักของเราได้อย่างน่าทึ่ง ยกตัวอย่างเรื่อง "คนรักภายใน" เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความผูกพันกับร้านหนังสืออย่างถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องนี้ผู้เขียนใช้สำนวนภาษาบรรยายความรู้สึกของตัวละครที่มีต่อร้านหนังสือ เหมือนชายหนุ่มกำลังเพ้อรำพันถึงหญิงสาวที่ตนหลงรัก และรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวเป็นอย่างยิ่งที่มีเหตุทำให้พลัดพรากไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกินจริงไปสักเล็กน้อย แต่ฉันคิดว่า ผู้เขียนสร้างตัวละครและเรื่องราวนี้ขึ้นมาเป็นตัวแทนทำหน้าที่บอกเล่าความรู้สึกของคนทั้งหลายที่รักและผูกพันกับหนังสือว่าในใจของพวกเขาคิดอย่างไรกับร้านหนังสือ ซึ่งคนทั่วไปอาจไม่เข้าใจเท่าไรนัก จนกระทั่งได้มาอ่านเรื่องนี้

หน้าปกหลังเมื่อฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง รู้สึกประทับใจกับทุก ๆ เรื่องที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ เพราะฉันเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือ และมีความทรงจำดี ๆ กับร้านหนังสือ ทั้งในฐานะลูกค้าและคนทำงาน ฉันคิดว่าสิ่งที่สร้างความผูกพันระหว่างเรากับร้านหนังสือ อยู่ที่การเลือกหนังสือมาขายในร้าน ที่ไม่ได้เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพ อาจไม่ใช่หนังสือที่ขายดีที่สุดในขณะนั้น แต่เป็นหนังสือที่มีเรื่องราวหรือความหมายกับลูกค้าอย่างชัดเจน มีเจ้าของร้านที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องหนังสือ ที่ทำให้เราเชื่อว่า เขาคือคนรักหนังสือเหมือนเรา ย่อมแนะนำหนังสือดี ๆ ให้เราอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความผูกพันกับร้านหนังสือได้ แม้จะไม่ใช่คนที่รักหนังสือมาก่อน และสักวันหนึ่ง คุณอาจจะอยากเล่าเรื่องความผูกพันกับโลกสักใบในร้านหนังสือให้คนอื่นได้อ่านก็เป็นได้


หนังสือรวมเรื่องสั้น "โลกเก้าใบในร้านหนังสือ" โดย FILMSICK | วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา | รุ้งกาญจน์ แก้วสุวรรณ | สุวิชานนท์ รัตนภิมล | เสี้ยวจันทร์ แรมไพร | รวิวาร | อรินธรณ์ | นฆ ปักษนาวิน | ปิยศักดิ์ ประไพพร | อิษฏ์ ปักกันต์ธร จากสำนักพิมพ์ร้านเล่า

ภาพปกและภาพประกอบบทความถ่ายโดยผู้เขียน (ยกเว้นภาพร้านหนังสือจาก Pixabay โดย AnnetteG)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์