ในปัจจุบันการหางานฟรีแลนซ์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากมีเว็บที่ให้บริการพื้นที่ประกาศและหางานอย่างหลากหลาย ซึ่งมีระบบกลางในการจ้างงานอย่างรัดกุม ทำให้ฟรีแลนซ์และผู้จ้างงานปลอดภัยจากการถูกโกง สำหรับเด็กหญิงพิมมี่ไม่ได้เป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว จึงต้องอาศัยเว็บเหล่านี้ในการหางานค่ะ ด้วยความอยากท้าทายความสามารถตนเอง เด็กหญิงพิมมี่จึงลองหางานฟรีแลนซ์จากต่างประเทศโดยใช้เว็บที่เป็นสื่อกลางทั่วโลกอยู่สักพักหนึ่ง และอยากรีวิวประสบการณ์การทดลองหางานฟรีแลนซ์จากเว็บต่างประเทศให้เพื่อน ๆ อ่านค่ะ โดยได้ทดลองใช้งานอยู่ 3 เว็บ ซึ่งทุกเว็บการันตีตัวเองว่ามีลูกค้าระดับบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Microsoft, Facebook, Netflix และอื่น ๆ มาใช้บริการเลยทีเดียว ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยค่ะ1. Freelancer.comเด็กหญิงพิมมี่เริ่มต้นหางานจากเว็บ Freelancer.com ก่อนเลยค่ะ หน้าแรกของเว็บจะให้เลือกสถานะผู้จ้างงานหรือฟรีแลนซ์ และสมัครใช้งานผ่านอีเมลหรือเฟซบุ๊ก เมื่อผ่านขั้นตอนการสมัครและยืนยันตัวตนในเบื้องต้นแล้ว จะเข้าสู่หน้าบัญชีการใช้งานของเราค่ะ ต้องใส่ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย แนะนำตัวเอง ทักษะและสายงานที่ต้องการทำ นอกจากนี้ต้องยืนยันบัตรเครดิต การชำระเงินผ่าน PayPal บัตรประจำตัวประชาชน เมื่อเราให้ข้อมูลในแต่ละส่วน แถบเปอร์เซ็นต์ความน่าเชื่อถือของฟรีแลนซ์จะเพิ่มขึ้น เมื่อกรอกข้อมูลจนเปอร์เซ็นต์ขึ้นในระดับที่น่าเชื่อถือแล้ว ทีนี้มาหางานกันค่ะ โดยดูที่บอร์ดประกาศหางาน มีผู้จ้างงานมาโพสต์หาฟรีแลนซ์ในสายงานที่เราเลือกไว้ตั้งแต่แรก และให้ฟรีแลนซ์เข้าไปประมูลค่าจ้างและข้อเสนอในการทำงานเพื่อให้ผู้จ้างงานเลือกตนเอง หากเราเป็นฟรีแลนซ์หน้าใหม่ ผู้จ้างงานจะมีโอกาสในการเห็นข้อเสนอของเราน้อยมาก เมื่อมีข้อเสนอใหม่ ข้อเสนอของเราจะถูกดันตกลงไปข้างล่าง แต่ถ้าข้อเสนอของเราตรงความต้องการของผู้จ้างงาน จะมีโอกาสได้งานสูง แต่ก่อนประมูลต้องดูสัญลักษณ์การยืนยันตัวตน รายละเอียดของงาน ค่าจ้าง หากไม่มีและไม่ชัดเจนให้หลีกเลี่ยงค่ะ เพราะอาจเจอมิจฉาชีพแฝงตัวมากับการจ้างงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะคนที่โพสต์งานถี่ ๆ เหมือนสแปมค่ะหลังจากที่เราประมูลและยื่นข้อเสนอไป ถ้าผู้จ้างงานสนใจเรา เขาจะติดต่อกลับมา เมื่อพูดคุยรายละเอียดงานกันแล้ว จะสร้างสัญญาการทำงานที่ขอบเขตการทำงาน กำหนดส่ง และการชำระเงินแบบ Milestone คือ แบ่งชำระเป็นงวด ๆ ตามความคืบหน้าของงาน ซึ่งค่าจ้างนี้จะเป็นเงินสกุลใดขึ้นอยู่กับผู้จ้างงานค่ะ แต่ทันทีที่เรากดยืนยันการทำงาน หากผูกบัญชี PayPal ไว้ ระบบจะตัดเงินค่า Service Charge ไว้เลย (โหดมาก) แต่เด็กหญิงพิมมี่ทำงานไม่สำเร็จนะคะ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องติดต่อไม่ได้ ยังไม่ทันเริ่มงานเลยก็มีปัญหาแล้ว แต่พอทราบกระบวนการถอนเงินออกเพื่อเข้าบัญชี คือ PayPal ได้โดยมีค่าธรรมเนียมค่ะ 2. Upworkเด็กหญิงพิมมี่สมัครใช้งาน Upwork หลังจากทดลองใช้งาน Freelancer.com ได้ไม่นานค่ะ ลักษณะการทำงานของเว็บนี้ก็คล้าย ๆ กันคือ สมัครเป็นฟรีแลนซ์ ยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลในแต่ละส่วนให้ครบถ้วน จัดทำ Portfolio เพื่อเพิ่มแถบเปอร์เซ็นต์ความน่าเชื่อถือ แต่การยืนยันตัวตนของ Upwork จะเข้มงวดกว่า คือ ต้องวีดิโอคอลคุยกับเจ้าหน้าที่ของ Upwork โดยตรง เพื่อยืนยันตัวตนที่แท้จริง ถ้ากรอกข้อมูลครบและผ่านการยืนยันในส่วนนี้ จะได้เปอร์เซ็นต์ความน่าเชื่อถือเกือบเต็มร้อยเลยค่ะ สำหรับการลงประกาศงานและการหางานในเว็บนี้เป็นลักษณะของการประมูลงาน แต่จะพบโพสต์สแปมน้อยกว่า เพราะผู้จ้างงานต้องจ่ายค่าพื้นที่ประกาศงานที่เรียกว่า Connect ส่วนฟรีแลนซ์เองก็ต้องใช้หน่วย Connect ในการประมูลงานเช่นกัน สำหรับสมาชิกฟรีแลนซ์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย จะได้รับ 20 Connect จาก Upwork ถ้าหมดแล้วคือหมดเลย ต้องซื้อเพิ่มเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสมาชิกแบบเสียเงิน จะได้รับ 70 Connect ในแต่ละเดือน ซึ่งเด็กหญิงพิมมี่ใช้แบบฟรีไปก่อนเพื่อทดลองใช้งานเบื้องต้น ในการประมูลงานบน Upwork จะยากกว่า Freelancer.com ตรงที่ไม่ใช่แค่เสนอราคาให้ตรงกับความต้องการของผู้จ้างงานเท่านั้น เราต้องเขียน Proposal ให้ผู้จ้างงานเห็นถึงทักษะของเราให้ได้มากที่สุด และแนบ Portfolio ผลงานของเราให้ตรงกับสายงานนั้นด้วย เราจะไม่มีโอกาสได้เห็น Proposal ของคู่แข่ง จึงประเมินแนวโน้มได้ยากว่าต้องทำอย่างไรให้ผู้จ้างงานเลือกเรา และด้วยความที่มี Connect จำกัด เราต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เพราะถ้าผู้จ้างงานไม่เลือกเรา จะเสีย Connect ไปฟรี ๆ แต่สำหรับคนที่มีโปรไฟล์โดดเด่นติดอันดับในหน้าเว็บ จะมีโอกาสได้รับเชิญให้เข้าร่วมประมูลงานโดยไม่ต้องใช้ Connect เลย และมีโอกาสได้งาน 100% ค่ะ หลังจากที่ลงประมูลไปหลายงานแล้วก็ไม่มีใครเลือกเลย ฮือ ๆ เหลืออยู่แค่ 4 Connect สุดท้าย จึงลองเสี่ยงไปอีกสักครั้งสองครั้ง สุดท้ายเด็กหญิงพิมมี่ก็ได้งานนะคะ ได้ค่าจ้าง $10 หักค่า Service Charge $2 เหลือ $8 เผลอมือลั่นไปซื้ออีก 10 Connect มาลองเล่น $1.50 เหลือ $6.5 สำหรับการถอนเงินสามารถถอนเข้า PayPal หรือเข้าบัญชีในประเทศไทยได้เลย ซึ่งเด็กหญิงพิมมี่เลือกอย่างหลัง เพราะคำนวณจากค่าธรรมเนียมแล้ว เข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยโดยตรง เสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่าคือแค่ $0.99 ในขณะที่ถอนเข้า PayPal และโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของเรา ต้องเสียค่าธรรมเนียมสองต่อค่ะ 3. Fiverrหลังจากที่ทดลองใช้งาน Freelancer.com และ Upwork ไปสักระยะ เด็กหญิงพิมมี่ก็ไปเจออีกเว็บหนึ่งคือ Fiverr ค่ะ ซึ่งต่างไปจาก 2 เว็บแรกอย่างสิ้นเชิง ลักษณะการทำงานของ Fiverr จะคล้ายกับเว็บหางานฟรีแลนซ์ในไทยคือ Fastwork กับ FruityJob เราสามารถสมัครใช้งาน Fiverr ในฐานะผู้จ้างงานและฟรีแลนซ์ได้ผ่านอีเมลหรือเฟซบุ๊ก เมื่อสมัครแล้วให้ปรับแต่งข้อมูลพื้นฐานของเราก่อนเช่นเดียวกับเว็บฟรีแลนซ์อื่น ๆการหางานของเว็บนี้จะแตกต่างจาก 2 เว็บ แทนที่ผู้จ้างงานจะลงประกาศและให้ฟรีแลนซ์ยื่นข้อเสนอพร้อมราคา ใน Fiverr ฟรีแลนซ์ต้องลงประกาศงานที่ตนเองจะทำแทน เรียกว่า Gig โดยเลือกหมวดหมู่ของงาน ลงรายละเอียดการทำงาน โดยมีค่าจ้างเริ่มต้นที่ $5 สำหรับที่นี่สามารถลงประกาศงานได้หลากหลายประเภทตามที่ Fiverr กำหนดหมวดหมู่มาให้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นของเว็บ Fiverr คือ มีหมวดงานแปลก ๆ ให้ฟรีแลนซ์สร้างสรรค์งานได้ตามใจชอบ เช่น ฉันจะสวดมนต์ให้คุณเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในราคา $5 ซึ่งเด็กหญิงพิมมี่เห็นครั้งแรกถึงกับร้องเฮ้ยหนักมาก แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ และไม่น่าเชื่อว่างานพวกนี้ก็ขายได้จริงนะคะ เพราะมีคนให้คะแนนรีวิวที่ดูแล้วไม่ใช่หน้าม้าแน่นอน ซึ่งในเว็บนี้เด็กหญิงพิมมี่ไม่ได้จริงจังกับการหางานทำมากนัก แค่อยากลองลงประกาศงานแปลก ๆ ก็เลยจัดไป 2 Gig ค่ะ Gig แรกคือ ฉันจะสอนการไหว้อย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกาย เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่วนอีก Gig คือ ฉันจะตั้งชื่อของคุณเป็นภาษาไทย โดยอ้างอิงจากชื่อจริงของคุณนั่นแหละ เรียกได้ว่าไม่เน้นขายงานได้ แต่เน้นขายความตลกเข้าไว้ ถ้ามีคนมาจ้างทำงานนี้จริงก็ถือว่าโชคช่วยสุด ๆ ไปเลย แต่แล้วโชคไม่ช่วย ไม่มีใครจ้างงานค่ะ (สมควรแล้ว ฮ่า ๆ) จึงไม่สามารถรีวิวถึงกระบวนการจ้างงานและการจ่ายเงินได้ และอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่ได้เข้าใช้งานนานเกินไป ระบบได้ซ่อน Gig ของเด็กหญิงพิมมี่ไปแล้วทั้งหมดนี้คือประสบการณ์จากการใช้งานเว็บหางานฟรีแลนซ์ทั้ง 3 เว็บนะคะ แม้ว่าเว็บฟรีแลนซ์ต่างประเทศจะมีโอกาสในการทำงานที่หลากหลาย และได้ค่าจ้างที่สูงกว่าในประเทศไทย แต่เด็กหญิงพิมมี่ไม่สามารถทำรายได้จากเว็บต่างประเทศได้เยอะอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากประสบการณ์การทำงานที่น้อยเกินไป ไม่เข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของต่างประเทศ และสื่อสารภาษาอังกฤษได้ไม่ค่อยดี ทำให้เสนองานได้ไม่ตรงความต้องการของผู้จ้างงานเท่าไรนัก จึงพลาดโอกาสในการทำงานไปอย่างไรก็ตาม การทดลองเป็นฟรีแลนซ์ในเว็บต่างประเทศเหล่านี้ ทำให้เด็กหญิงพิมมี่ได้เรียนรู้ถึงทักษะการทำงานที่หลากหลาย เทคนิคการนำเสนองานที่ทำให้ตนเองได้งาน รวมไปถึงพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารให้ดีขึ้น ซึ่งหลาย ๆ อย่างนี้ เด็กหญิงพิมมี่ได้นำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานประจำและงานเสริมเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การทำงานกับคนหลายชาติหลายภาษา ลองสมัครใช้งานเว็บฟรีแลนซ์เหล่านี้ดูค่ะ ไม่แน่เพื่อน ๆ อาจจะสร้างเครือข่าย เพิ่มทักษะ และรายจากเว็บฟรีแลนซ์เหล่านี้ก็ได้ค่ะภาพปกและภาพประกอบจาก Freelancer.com / Upwork / Fiverr บันทึกหน้าจอโดยผู้เขียน (เด็กหญิงพิมมี่)