ผมมีโอกาสได้ไปเข้าร่วมงาน Korea Design Festival 2019 ที่จัดออกไปนอกกรุงโซลหน่อย ๆ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เข้าร่วมงานอยู่ สามวันเต็มๆ กว่าจะได้มีโอกาสเข้ามาพักผ่อนและท่องเที่ยวในตัวเมืองกรุงโซลจริงๆก็หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้ว ผมเดินทางเข้ามาพักกับเพื่อนเกาหลีซึ่งที่ห้องพักของเพื่อนอยู่แถวสถานี ซินโดลิน (Sindorim station) โดยตั้งโจทย์ให้เพื่อนเลยว่าอยากไปเที่ยวที่ ๆ คนท้องถิ่นชอบไปเที่ยวกัน เพื่อนผมเลยปิ๊งไอเดียเลยว่าจะพาไปเที่ยวบาร์ที่กำลังอินเทรนด์อยู่ในตอนนี้ เพราะครั้งก่อนที่ผมมาโซล ก็พาไปเมาจนถึงเช้าแถวอีแทวอน แต่ครั้งนี้ผมขอไปอะไรที่ชิว ๆ หน่อย เค้าเลยปิ๊งไอเดียเลยว่า ลองไปตามหาบาร์ฮิป ๆ แถวย่านอิวจิโร่ดู อธิบายให้ฟังอยู่นาน กว่าจะเข้าใจว่าทำไมบาร์แนวนี้จึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลัก ๆ น่าจะมาจากราคาค่าเช่าที่ถูกและสามารถเปิดทดลองก่อนได้ว่าร้านจะอยู่ได้มั้ย เพราะถ้าไม่ได้ก็ถอดตัวแบบไม่เจ็บตัวเหมือนไปเช่าที่ย่านอื่น ๆ ซึ่งมีราคาสูงกว่ามาก ย่านสุดฮิปในกรุงโซลที่ผมจะมาแนะนำให้วันนี้เป็นย่านที่อยู่ระหว่างเมียงดงกับทงแดมุน ที่เรียกว่า " อิวจิโร่" ( Euljiro ) โดยที่ย่านนี้เดิมทีก็เป็นตึกเก่าเปิดเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง โคมไฟ และ โรงพิมพ์ ซึ่งไม่ได้เป็นย่านที่น่าสนใจเท่าไรสำหรับคนหนุ่มสาว แต่ว่าตั้งแต่ปี 2016 ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ด้วยจำนวนร้านคาเฟ่ใต้ดินและร้านอาหารที่เปิดในย่านนี้เพิ่มขึ้น พร้อมกับวัยรุ่นที่เข้ามาใช้เวลาในย่านนี้มากขึ้น แต่สิ่งที่เจ้าของตึกย่านนี้จะต้องตอบคำถามวัยรุ่นชาวเกาหลีบ่อย ๆ คือ บาร์ลับนี่อยู่ตึกไหน? ซึ่งก็แน่นอนว่าแม้กระทั่งผู้คนที่ใช้ชีวิตหรือทำงานอยู่แถวนี้จริงๆก็อาจจะตอบไม่ได้เลยก็เป็นได้ เพราะอะไรนะหรอ ? เพราะว่าบาร์แต่ละที่ๆเปิดในย่านนี้ต้องหาคำใบ้จากหน้าตึกเองว่ามีร้านลับซ่อนอยู่ในตัวอาคารเก่า ๆ รึเปล่า เชื่อมั้ยครับว่าตอนเพื่อนเกาหลีผมพูดให้ฟังเรื่องบาร์ลับในย่านนี้ ผมนี่ก็สงสัยจริง ๆ ว่า เฮ้ย! จะไปดื่มทั้งทีเนี่ย ต้องเล่นเกมหาร้านแล้วมาซุ่มอีกทีว่าเปิดรึเปล่าด้วยนะ ยังไม่พอร้านลับ ๆ ส่วนใหญ่ที่เปิดก็จะไม่มีป้ายร้านบอกเลย แต่จะแฝงเป็นคำใบ้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ป้ายเขียนว่า Gin & Tonic ตรงกระจกแล้วมีคำภาษาอังกฤษแบบนี้ต้องลองขึ้นไปดูครับว่า มีร้านเปิดอยู่ร้านบนจริง ๆ รึเปล่า ลืมบอกว่าไปว่าเราควรไปกับคนเกาหลีนะครับ กรณีถ้าเราพูดเกาหลีไม่ได้ เพราะทุกบาร์คำใบ้ส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลีเกือบทั้งหมด ผมถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนที่นี่ ไม่งั้นคิดว่าคงไม่รู้ย่านนี้แน่นอน ฮ่า ๆ บางร้านที่ผมเข้าไปดูในร้านกับเพื่อนก็อาจจะไม่มีที่นั่งนะครับ เพราะต้องจองแล้วบางร้านก็ปิดเร็วด้วย ผมมีความสงสัยว่าทำไมเทรนด์บาร์ลับลักษณะนี้ถึงเป็นที่นิยมขึ้นมาได้ ผมได้คำตอบจากเพื่อนว่าวัยรุ่นคนเกาหลีมองหาร้านใกล้ ๆ ที่ตอบโจทย์ lifestyle พวกเค้ามากขึ้นแต่ต้องมาพร้อมดีไซน์ที่ดีและราคาไม่สูงจนเกินไป ประกอบการร้านค้าไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟหรือร้านอาหาร หรือบาร์ที่เลือกเข้ามาเช่าพื้นที่ในย่านนี้เพราะราคาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับการเปิดร้านในย่านอย่างเมียงดงกับทงแดมุน ซึ่งราคาจะค่อนข้างแพงเลยทีเดียว ซึ่งนับวันก็จะยิ่งมีราคาที่สูงขึ้นอย่างปฎิเสธไม่ได้ ตึกเก่าในย่านอิวจิโร่จึงเป็นตัวเลือกใหม่ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุดนั้นเอง ซึ่งการทำร้านลักษณะนี้กำลังเป็นเทรนด์การ hangout ที่วัยรุ่นและวัยทำงานต้น ๆ ที่เกาหลีชอบไปกัน อีกขอสังเกตหนึ่งคือ การไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอกอาคารเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าจะทำการเช่าเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ตาม ป้ายร้านก็ไม่มี บางร้านก็จะเอาโคมตั้งโต๊ะมาเปิดแล้วเขียนคำใบ้ ถ้าเป็นคนต่างชาติคิดว่าน่าจะยากที่จะหาบาร์ลับเหล่านี้เจอ เพราะขนาดผมมากับเพื่อนเกาหลียังพาผมหลงเลย ฮ่า ๆ กว่าจะหาเจอ ซึ่งร้านที่ได้ที่ร้านก็ไม่ได้เขียนชื่อร้านไว้ ณ ตอนที่ไป แต่ผมกลับมาหาข้อมูลผ่านทางออน์ไลน์ก็พบว่าร้านมีชื่อภาษาอังกฤษว่า " Binzip Beerhouse" ร้านจะอยู่ชั้นสองของตึกเก่า ๆ โดยที่ข้างในจะแต่งร้านแนววินเทจยุค 70 เหมาะทั้งมาดื่มเป็นแก๊งค์เพื่อนหรือ พาสาวมาเดทก็ได้ ถ้าใครพูดภาษาเกาหลีได้บ้างก็จะเป็นประโยชน์มากเพราะส่วนใหญ่พนักงานพูดแต่ภาษาเกาหลีแล้ว ไม่มีต่างชาติเข้ามาเลย ต้องบอกก่อนว่าผมชอบร้านนี้มาก เพราะด้วยความที่ตัวผมเป็นคนชอบสไตล์วินเทจอยู่แล้ว แล้วร้านก็ตกแต่งได้ดี มีมุมเปียโนกับเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ ให้คนได้ถ่ายรูปด้วย เครื่องดื่มที่ทางร้านแนะนำก็จะเป็น Port Wine สั่งเป็นแก้วได้ ดื่มเสร็จค่อยไปจ่ายเงินที่เคาร์เตอร์ ร้านจะปิดประมาณเที่ยงคืนตรง แต่บางทีก็ปิดก่อน แล้วแต่เจ้าของ เฮ้ย! อินดี้ไปอีก ฮ่า ๆ ส่วนใหญ่จากที่ผมไปเดินสำรวจมาคอนเซ็ปร้านส่วนใหญ่จะเป็นแนวย้อนยุค ผมเดาว่าน่าจะให้เข้ากับลักษณะตึกเก่า ซึ่งช่วยคงเสน่ห์ของตึกไว้ได้ดีทีเดียวเลยครับ ผมดื่มและพูดคุยกับเพื่อนจนถึงเกือบเที่ยงคืนแล้วพวกผมก็จะรีบจ่ายเงินเพื่อวิ่งไปขึ้นรถไฟให้ทัน เอาเป็นว่าใครที่อยากลองมาหาดูแต่ไม่มีเพื่อนคนเกาหลี แนะนำให้มาลงที่สถานีชื่อ "Euljiro 3 Ga station" แล้วก็ลองถามวัยรุ่นแถวนั้นดูนะครับ เผลอ ๆ ก็อาจจะหาเจอก็ได้นะครับ หรือดูข้อมูลอ้างอิงร้านอื่นๆได้จากลิงค์ที่ผมจะแชร์ด้านล่างได้เลยครับ สำหรับวันนี้ไปก่อนละครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ :) ข้อมูลอ้างอิง http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180704000822 https://www.herenow.city/en/seoul/article/euljiro/3 https://blog.trazy.com/euljiro-instagrammable-places/