ช่วงเดือนพฤศจิกายนปี2019 ดิฉันได้ไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางจากกรุงเทพไปถึงเชียงใหม่ประมาณ 9 ชั่วโมงโดยไม่ได้แวะระหว่างทางเลย ดิฉันเคยไปเยือนก่อนหน้าตอนช่วงเป็นเด็ก ปัจจุบันก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่ยังจำจุดหลักๆได้คะ อย่างเช่นการไปไหว้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ด้านหลังจะเป็นหอศิลป์วัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เป็นอาคารเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีมีสภาพสมบรูณ์มีการบูรณะซ่อมแซม ภายในจะมีการแสดงนิทรรศการศิลปะต่างๆ วิถีชีวิตของชุมชนเมืองล้านนา การอพยพมาอยู่อาศัยบนดอยของชนกลุ่มน้อยต่างๆ การทอผ้า เครื่องดนตรี อาหารการกินต่างๆ หมุนเวียนไปในแต่ละเดือน อย่างนิทรรศการตอนนั้นที่ได้ชมจะเป็น นิทรรศการสมดุลภาพแห่งชีวิต โดยศิลปินคุณสิรญาน สายรุ้งธรรม ผู้ถ่ายทอดแนวคิดการใช้ชีวิตของเขาลงบนผ้าใบแคนวาส มีอยู่ด้วยกันประมาณ30-40รูปและยังมีการแสดงปฏิมากรรมด้วย เดินถัดจากนิทรรศการนี้ไปก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึก เช่นเสื้อผ้า พวงกุญแจ ของประดับชิ้นเล็กๆ พกสะดวกเหมาะสำหรับการซื้อเป็นของฝากร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดห้าโมงเย็น คนมาเดินส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติจะชอบมาดู คนไทยมีมาเดินบ้างเล็กน้อยเท่าที่เห็นจะมาจากสถานศึกษาต่างอำเภอรอบๆเมืองเชียงใหม่ ถัดไปจะเป็นการแสดงภาพถ่ายของช่างถ่ายภาพ ถ่ายภาพในอดีตการค้าขายทางน้ำ การสันจรไปมาของเจ้าเมืองต่างๆในสมัยโบราณ ถัดไปจากห้องแสดงภาพถ่ายก็จะเป็นการแสดงข้าวของเครื่องใช้ของชนกลุ่มน้อยต่างๆที่อาศัยบนภูเขา เช่น กระเหรี่ยง ม้ง อาข่าเป็นต้น มีการสร้างบ้านเเบบเรียบง่าย หลังคามุ้งจากยกใต้ถุนสูง แยกห้องหญิง-ชาย ปลูกพืชเพื่อนำมาทำเป็นผ้า ทอผ้าเป็นกระโปรง ทำเป็นย่ามใส่ของ อุปกรณ์ทอผ้า ในตัวเมืองเชียงใหม่มีการทำพิธีแก้เคราะห์ ส่งเสริมดวงชะตาของเมืองโดยตั้งชื่อเป็นแจ่งต่างๆเช่นเเจ่งศรีภูมิเป็นต้น มีภาพปลูกข้าวและทำฝายเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้นแล้วชาวบ้านจะทยอยนำมาวางขายที่ตลาด เช่น ตลาดหลวงปัจจุบันเรียกว่า กาดวโรรส เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่สำคัญ ร้านขายของชำในสมัยก่อน ร้านขายกาแฟโอเลี้ยงแบบโบราณ ร้านทำอุปกรณ์เครื่องเงิน ที่อยู่อาศัยสมัยก่อน การละเล่นพื้นบ้านของเด็กในสมัยนั้น นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิศทรรศการ เดินทั้งวันเลยคะ ปวดขาพักเท่านี้ก่อนนะคะ