วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม วัดอุโมงค์อีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนมักจะไปทำบุญ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ทำให้จิตใจให้สงบ และบางคนก็มาเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ มาเที่ยวชมแหล่งประวัติศาสตร์ ตลอดจนศิลปะหัตกรรมต่าง ๆ จิตรกรรมฝาผนังของวัดอุโมงค์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มาชมความสวยงามของปริศนาธรรม ที่แฝงอยู่ในทั่วทั้งบริเวณวัดแห่งนี้ และที่นี่ยังมีความสำคัญในเรื่องประวัติศาสตร์อย่างมากเช่นกัน "Photo by I-MEM" วัดอุโมงค์ เดิมชื่อว่า “วัดเวฬุกัฏฐาราม” แปลว่าวัดป่าไผ่ 11 กอ และตามตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งที่พระญามังรายได้สร้างเมืองเชียงใหม่เสร็จแล้ว ก็ได้สร้างวัดบริเวณป่าไผ่ 11 กอ เพื่อถวายเป็นที่พำนักแด่พระภิกษุนามเถรจันทร์และพระภิกษุชาวสิงหลและต่อมาในสมัยพญากือนา ก็โปรดสร้างอุโมงค์ขึ้นในบริเวณวัดแห่งนี้ภายหลังจึงเรียกกันว่าวัด “อุโมงค์เถรจันทร์” หรือ “วัดอุโมงค์” นั่นเอง (เรื่องเล่าจากศิลาจารึกหน้าอุโมงค์) "Photo by I-MEM" จุดเด่นของวัดอุโมงค์ แน่นอนก็ต้องเป็นอุโมงค์ 3 ช่อง ที่สามารถทะลุหากันได้ทั้ง 3 ช่อง ตรงกลางจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ 1 องค์ และแต่ละปีกข้างของอุโมงค์ก็มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เช่นกันและจะมีอีก 1 ช่องทางที่สามารถเดินไปทะลุถึงเจดีย์วัดอุโมงค์ ซึ่งอยู่ด้านบนของอุโมงค์ด้านล่าง เป็นอุโมงค์ที่สร้างมาจากดิน อิฐ ปูน และมีการฉาบปูนวาดลวดลายอย่างสวยงาม แต่ด้วยกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนไป ผนังที่ฉาบปูนและลวดลายต่าง ๆ ก็เสื่อมสภาพไป ยังคงหลงเหลือไว้บ้าง แต่ความสวยงามของอุโมงค์ก็ยังคงมีอยู่ และข้างฝาผนังด้านในอุโมงค์ จะมีช่องสำหรับจุดประทีปให้เกิดความสว่างเป็นระยะ (ปัจจุบันทางวัดได้ติดโคมไฟสีส้ม เสมือนเป็นเทียนไว้ตลอดทางเดิน เพื่อให้สะดวกแก่พระ และผู้ที่มาปฏิบัติธรรม เดินในการจงกรมและภาวนาอยู่ข้างใน) และอุโมงค์แห่งนี้เคยมีการถ่ายทำภาพยนต์หลาย ๆ เรื่อง เช่น เรืองอุโมงค์ผาเมือง เป็นต้น "Photo by I-MEM" และภายด้านหน้าของอุโมงค์นั้นก็จะมีลานข้าง ๆ เป็นลานพระพุทธรูป มีทั้งเศียรพระ ตัวพระ วางเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ เศียรพระพุทธรูปเหล่านั้น สร้างขึ้นโดยช่างเมืองพะเยาประมาณ ซึ่งเจ้าชื่น สิโรรส และผู้ที่ศรัทธาวัดอุโมงค์ได้ทยอยนำมาจากวัดร้างในจังหวัดพะเยาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2511 – พ.ศ. 2513 "Photo by I-MEM" ถัดมาจากร้านพระพุทธรูปตรงด้านหน้าของลานกว้างหน้าอุโมงค์จะเจอกับรูปปั้นของพระพุทธทาสภิขุ ผู้ที่เป็นพระภิกษุในศาสนาพุทธที่มีคณะศรัทธาเลื่อมใส เคารพและมีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นอนุสาวรีย์เพื่อนึกถึงการที่ท่านเป็นผู้บุกเบิกในการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างศาสนาให้กับเหล่าศาสนิกชน "Photo by I-MEM" และด้านหน้าของอนุสาวรีย์พระพุทธทาสภิกขุนั้น ก็จะมีเสาอโศกตั้งอยู่ด้านหน้าซึ่งเป็นเพื่อนที่ระลึกถึงพระเจ้าอโศกมหาราชกษัตริย์ของประเทศอินเดียผู้เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกแห่งพุทธศาสนา เสานี้จึงเป็นเครื่องหมายที่สำคัญ เมื่อเสานี้ตั้งอยู่ที่ใดก็เสมือนว่าสถานที่นั้นมีความสำคัญกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและศาสนาพุทธนั่นเอง จึงได้มีการจำลองขึ้นอยู่ในวัดอุโมงค์แห่งนี้ "Photo by I-MEM" ใกล้ๆกับเสาอโศกก็จะเจอธรรมศาลา เป็นสถานที่เผยแพร่ธรรมด้วยภาพเขียนและภาพถ่ายการฉายภาพนิ่งต่างๆและยังมีสำนักพุทธนิคมเป็นโรงพิมพ์ของชาวพุทธเพื่อจำหน่ายหนังสือธรรมะ เปิดให้เข้าชมเวลา 08:00 - 17:00 น. เท่านั้น "Photo by I-MEM" เจดีย์วัดอุโมงค์ เจดีย์วัดอุโมงนี้มีอายุร่วมกว่า 700 ปี เป็นเจดีย์ทรงรูประฆังทรงกลม เป็นรุ่นแรก ๆ ในสมัยนั้น ที่ถูกจาลึกในประวัติศาตร์ และช่วงระยะเวลาต่อมาด้วยแรงศรัทธาก็มีการสร้างปูนปั้นครอบฐานเจดีย์ มีรูปทรงดอกบัวหงายและดอกบัวคว่ำ ตกแต่งอย่างสวยงาม มีทางขึ้น 2 ทาง ทางแรกเป็นบันไดนาค บันไดสูงหลายขั้น แต่ก็ไม่สูงจนมากนัก สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวได้สบาย ๆ ขึ้นไปแล้วบางครั้งก็จะเจอศาสนิกชนขึ้นไปนั่งสมาธิบ้างเพราะข้างบนจะเงียบสงบเป็นพิเศษ เราก็เคยไปนั่งสมาธินั่งพิจารณาตนเองอยู่บนนั้นรู้สึกว่าค่อนข้างเงียบสงบอย่างมาก และในบริเวณพื้นที่ยังมีสถานที่อีกมากมาย ทั้งให้อาหารปลา สถานที่ทำบุญ ปฏิบัติธรรม เยอะแยะมากมาย รอบบริเวณ "Photo by I-MEM" พิกัด : วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) เลขที่ 135 หมู่ 10 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200 (ใครอยากมาเที่ยวชมก็สามารถกด GPS มาได้เลยมีความแม่นยำสูงในพิกัด หาไม่ยาก) "Photo by I-MEM" ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรแก่การมาปฏิบัติธรรมมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาพุทธมาเข้าใจในหลักของศาสนาที่แท้จริง และไม่ว่าท่านจะมาปฏิบัติธรรม มาดูความยิ่งใหญ่ของโบราณสถาน มาเที่ยวถ่ายรูปเล่น อย่างน้อยก็ได้แง่คิดต่าง ๆ ไปบ้าง ได้ความสงบ และบางครั้งก็อาจได้บุญกลับไปอีกด้วยอีกด้วย ในชีวิตนี้แนะนำว่าควรมาสักครั้งจริง ๆ