ถ้ารู้สึก เหนื่อย แสดงว่าเรายังสู้อยู่ เอาจริงๆพอมาทำงานสายการตลาด #ไม่ง่ายเลยนะ ความถูกต้องและความต้องการของลูกค้าสำคัญพอๆกันเลย กว่าจะได้ Content ออกมาต้องหาข้อมูลจากหลายที่มาก + ความเป็นตัวเอง ใส่มุมมองการเป็นลูกค้า + มุมมองการเป็นเจ้าของ แต่ละกระบวนการมีวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลย ต้องใส่ใจทุกๆอย่าง ภาพ สี เนื้อหา ท้ายที่สุดคือต้องถูกใจลูกค้าถึงจะถือว่าส่งมอบได้เสร็จ มองเป็นข้อดี 1. เรามีสติมากขึ้นกับการหาข้อมูล 2. เราได้อ่านตัวหนังสือมากขึ้น 3. เราสามารถอธิบาย Product เสมือนผู้ใช้งานจริง 4. เรามีรูปแบบการคิด Content ในรูปแบบของเราเอง ฯลฯ สรุปข้อคิดที่ได้จากการเริ่มงานสายนี้ ทำทุกงานให้ออกมาดีที่สุด เพราะงานที่ส่งมอบให้ลูกค้าคืองานของเรา ถ้าเราทำดี ลูกค้าก็จะได้รับผลดีตามมาด้วย เราจะช่วยหรือส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าได้ยังไงบ้างจากงานของเรา ทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกว่าการมีเราทำให้ลูกค้าวางใจในงานแล้วไปทำอย่างอื่นได้ นี่คือโพสต์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ของผู้เขียน วันนี้กลับมาแจ้งเตือนอีกครั้งทำให้ผู้เขียนคิดอะไรบางอย่างได้เลยอยากแบ่งปันผู้อ่านทุกท่าน บทเรียนที่ผู้เขียนได้จากความทรงจำเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปีพบว่าในทุกๆต้นปีผู้เขียนจะทำการตั้งเป้าหมายชีวิตบางอย่างในปีที่นั้น และปฏิเสธไม่ได้ว่า การวางแผนต้นปีถือเป็นต้นทางที่ดี แต่แผนที่ดีจะต้องบอกได้ว่าเรากำลังเดินถูกทางไหม ยอมรับว่าปีที่ผ่านมาวางแผนไว้ดีมากต้นปี แต่พอสถานการณ์โควิด-19 มันเริ่มแย่ ก็ทำให้ผู้เขียนไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย ไม่ได้ปรับแผนและไม่ได้ทำต่อเนื่องอีกเลย มาถึงปี 2564 นี้ เป็นปีที่ผู้เขียนตั้งใจทำธุรกิจของตัวเอง ผู้เขียนใช้เวลาร่วมสัปดาห์กับการวางแผนของปีนี้และไม่รู้ว่าเราเสียเวลากับแผนมากไปไหม เราคิดแทนลูกค้าไปก่อนเยอะมาก ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าลูกค้าคิดขนาดนี้หรือเปล่า จนทำให้เราไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรมากนัก เพราะก็ไม่รู้ว่าปีนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อผู้เขียนมีโอกาสมีโอกาสได้คุยกับเจ้าของธุรกิจท่านหนึ่ง คำถามที่ได้รับจากเจ้าของธุรกิจคือ เป้าหมายของเราคืออะไรจากงานที่เราทำ และเรามีเป้าหมายทางการเงินในปีนี้เท่าไหร่ คำถามนี้ทำเอาผู้เขียนถึงกับนิ่งอยู่เหมือนกัน นี่ผู้เขียนลืมอะไรไปหรือเปล่าทั้งที่ผู้เขียนก็ทำงานกับเจ้าของธุรกิจคนนี้มามากกว่า 3 ปี ผ่านผู้ประกอบการเจ้าของมาไม่รู้กี่ร้อยคน แต่กลับลืมคิดเรื่องนี้อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของค่าจ้างเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องเป้าหมายเลย คิดแต่ว่าเราทำอะไร เราอยากทำอะไร และเราทำอะไรได้ดีก็อยากจะต่อยอดไปทางนั้น จากการที่ได้พูดคุยเกือบ 2 ชั่วโมง (เป็น 2 ชั่วโมงที่มีค่ามาก) สิ่งที่ผู้เขียนได้กลับมาคือ เอาใหม่ คิดใหม่ เป้าหมายเราคืออะไรกันแน่ เราฝันอะไรไว้บ้างกางมันออกมา อย่าคิดว่าสิ่งที่เราฝันเป็นไปไม่ได้ แต่เราแค่ต้องคิดให้ไกลกว่านั้น การคิดแทนลูกค้าถือเป็นสิ่งดี แต่จะดีกว่าถ้าเราคิดให้ลูกค้าเลยว่างานที่เราทำให้ลูกค้าจะสร้างมูลค่าให้ลูกค้าได้อย่างไร เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าลูกค้าได้ประโยชน์จากงานของเรา เราก็มีโอกาสได้ดูแลลูกค้ารายนี้ในระยะยาว รวมไปถึงการแนะนำบอกต่อให้ลูกค้าใหม่อีกด้วยที่สำคัญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปีนั้น อย่าทิ้งแผนที่ตัวเองวางไว้เด็ดขาด เอามาดูใหม่ ปรับใหม่ แล้วเดินต่อเพราะการทำต่อเนื่องจะเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดในปีต่อไป คำแนะนำของผู้เขียนคือแนะนำให้ผู้อ่านหรือผู้ที่วางแผน หาเพื่อสักคนที่จะรับฟังแผนของเรา เล่าแผนให้เค้าฟัง หากต้องปรับตรงไหนจะได้เข้าใจในมุมของคนอื่นด้วย แล้วทุกท่านจะได้เห็นแผนของตัวเองว่ามีมูลค่ามาก ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : pexels ขอบคุณภาพที่ 1 จาก : pexels ขอบคุณภาพที่ 2 จาก : pexels ขอบคุณภาพที่ 3 จาก : pexels ขอบคุณภาพที่ 4 จาก : pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !