เมื่อฤดูร้อนมาเยือนสถานที่ที่ช่วยผ่อนคลายความร้อนนอกจากทะเลที่สวยงามกับท้องฟ้าสีครามแล้ว น้ำตกท่ามกลางป่าเขาอันร่มรื่นและเงียบสงบก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่หลายคนใฝ่หาเพื่อพักผ่อนกายา พักร่างกายไปกับสายน้ำฉ่ำเย็น ซึ่งหากเอ่ยถึงดินแดนแห่งสายน้ำอันสวยงามของจังหวัดเชียงใหม่หลายคนที่มาเยือนคงจะนึกถึงอำเภอจอมทองตามถนนเส้นทางที่ไปดอยอินทนนท์ ที่มีน้ำตกขนาดใหญ่ใหญ่เย็นสวยงามให้แวะเยี่ยมชมอยู่หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร และน้ำตกสิริภูมิ แต่การเดินทางครั้งนี้ ผมจะพาทุกคนไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของสายน้ำที่ซ่อนเร้นความงดงามอยู่ท่ามกลางป่าอันเงียบสงบของอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ แน่นอนว่าหลายคนคงยังไม่คุ้นเคยและแปลกใจว่านอกจากเขื่อนแม่งัดที่เลื่องชื่อแล้วอำเภอแห่งนี้ยังมีน้ำตกแอบซ่อนอยู่ด้วยหรือนี่ ซึ่งน้ำตกที่ซ่อนเร้นความงามแห่งนี้ มีชื่อว่า “น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี” “น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี โดยเส้นทางไปน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี จะใช้ถนนหมายเลข 1001 สายเชียงใหม่-พร้าว ในพื้นที่ ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อผ่านทางแยกซ้ายมือที่เป็นเส้นทางไปยังเขื่อนแม่งัด ซึ่งหากมีเวลาเดินทางมาแต่เช้าจะแวะเข้าชมวิวที่สันเขื่อนยามเช้าก่อนก็ย่อมได้ หรือถ้าอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติและความสงบเย็นของสายน้ำให้นานๆ ก็ให้ตรงต่อไปตามถนนหมายเลข 1001 อีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อีกประมาณ 3 กิโลเมตร การเข้ามายังพื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายในมีร้านค้าสวัสดิการให้จับจ่ายซื้อไว้นั่งรับประทานภายในลานกว้างบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 “น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี” เป็นน้ำตกที่มีแร่แคลเซียมคาร์บอเนตไหลผ่าน เมื่อนานไปจึงเกิดเป็นหินปูนที่มีความสากจับเกาะหินไว้ทำให้ไม่มีตะไคร่น้ำยึดเกาะก้อนหิน จึงมักเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติในการมาทำกิจกรรมปีนผาน้ำตกบริเวณชั้นที่ 1 ลงไปยังชั้นที่ 2 ต้นทางสายน้ำตกนั้นไหลมาจากตาน้ำพุเย็นธรรมชาติที่เรียกว่า “น้ำพุเจ็ดสี” เหนือธารน้ำตกชั้นแรกไปประมาณ 200 เมตร และสาเหตุที่เรียกว่า “น้ำพุเจ็ดสี” นั้น เนื่องจากพื้นที่ตาน้ำนั้นเป็นโพลงหินปูนใต้ดินขนาดใหญ่ที่น้ำซึมออกมาตลอดทั้งปี เมื่อต้องแสงอาทิตย์จึงเปล่งประกายระยิบระยับเหมือนสายรุ้ง "น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี" เป็นพื้นที่ที่ผูกพันด้วยตำนานพื้นถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับธิดาของกษัติริย์ในหัวเมืองล้านนาแต่โบราณ 2 พระองค์ ที่มีนามว่า บัวแก้ว-บัวตอง ซึ่งได้มีการทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ในเขตแดนล้านนา ทำให้กษัตริย์เจ้าเมืองและพระมเหสีถูกสังหารสิ้นชีวิตในศึกสงคราม ขุนผาดำทหาราชองครักษ์จึงได้นำพาพระธิดา 2 พระองค์ คือ พระธิดาบัวแก้ว–พระธิดาบัวตอง (ภาษากลางก็คือ ทอง แต่สำเนียงเมืองเหนือออกเสียงว่า ตอง) หลบหนี พร้อมพลเมืองและชาวบ้านที่รอดตายหนีเพื่อให้รอดพ้นจากข้าศึก เมื่อเดินทางมาถึงเขตพื้นที่ ต.แม่หอพระในปัจจุบัน ได้มาพบถ้ำแห่งหนึ่งจึงให้พระธิดาทั้ง 2 พระองค์อาศัยอยู่ในถ้ำพร้อมด้วยบริวารและคนรับใช้ ซึ่งถ้ำดังกล่าว ปัจจุบันเรียกว่า “ถ้ำบัวตอง” ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณเขตวัดถ้ำบัวตองตรงปากทางเข้าตัวอุทยานด้านขวามือไม่ไกลจากตัวน้ำตกมากนัก สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ ส่วนพวกชาวบ้านที่อพยพมาพร้อมกับพระธิดาทั้ง 2 พระองค์ก็ได้สร้างบ้านพักอาศัยอยู่โดยรอบเขาที่มีถ้ำนั้น เนื่องจากพื้นที่เป็นที่ราบเหมาะแก่การเพาะปลูกแต่ยังขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ทั้งการอุปโภคและบริโภค พระธิดาทั้ง 2 พระองค์จึงได้อธิฐานขอให้เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขานี้เนรมิตบันดาลดลให้เกิดอัศจรรย์เป็นแหล่งน้ำเพื่อชาวบ้านได้อาศัยใช้ดื่มกินและทำการเกษตร ดังนั้นพระแม่ธรณีจึงบันดาลดลเปิดทะลุช่องเขาใต้ดินเกิดเป็น“ตาน้ำพุ” ขึ้นมาจนเห็นเป็น “น้ำพุเจ็ดสี” ในปัจจุบัน “น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี” ถือได้ว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีตำนานเล่าขานกันต่อมาเนิ่นนาน ดังนั้น ผู้มาเยือนควรจะให้ความเคารพสถานที่ด้วยการไม่รบกวนหรือทำลายธรรมชาติและรักษาความสะอาดของพื้นที่กันด้วยนะครับ ขอบคุณภาพประกอบการเดินทางทั้งหมดจากเพจนักเขียน Thip_Traveller