วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับอาหารโรงพยาบาลกันนะคะ เมื่อเราไปโรงพยาบาลหรือไปนอนโรงพยาบาล เราก็จะได้กินอาหารที่โรงพยาบาลจัดเตรียมให้ แต่เราไม่รู้ว่ามันมาจากไหนใครเป็นคนทำและเราได้กินเหมือนกับคนอื่น ๆ หรือเปล่า อาหาร เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งที่โรงพยาบาลต้องจัดเตรียมไว้บริการให้กับบุคลากร เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วย การทำอาหารในโรงพยาบาลจึงมีความแตกต่างออกไปจากการดำเนินงานด้านอาหารในสถานที่อื่น ๆ โรงพยาบาลจึง ควรมีความรู้ในเรื่องการประกอบการในโรงพยาบาลเพื่อช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) วิธีการดำเนินการจัดการอาหารในผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วไปนั้นจะต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้ การสั่งอาหาร ผู้สั่งคือแพทย์ผู้รักษาเท่านั้นที่ เพราะ แพทย์รู้อาหาร รู้ลักษณะของโรคจึงเป็นผู้เดียวที่สามารถสั่งอาหารได้เหมาะสมกับอาการของโรคมิใช่พยาบาลหรือนักโภชนาการเป็นผู้สั่ง โดยปกติแพทย์จะเป็นผู้สั่งอาหารให้ผู้ป่วยและพยาบาลเป็นผู้ขัดคำสั่งลงในใบสั่งอาหารเพื่อส่งมายังหน่วยงานบริการอาหาร ดำเนินการจัดการต่อไป การกำหนดรายการอาหารในโรงพยาบาล กำหนดหรือ แยกประเภทของผู้มารับบริการซึ่งแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ ผู้ป่วยและผู้ไม่เจ็บป่วยดังนั้น การกำหนดรายการอาหารในโรงพยาบาลจึงต้องจัดเป็นสองประเภทคือ อาหารสำหรับผู้ป่วย และ อาหารสำหรับบุคคลทั่วไป ผู้ป่วยโรคทั่วไปการให้อาหารประเภทลักษณะใดต้องขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของผู้ป่วยและ โรคที่ต้องผ่านการพิจารณาของแพทย์ส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งออกเป็นดังนี้ -อาหารธรรมดา -อาหารธรรมดาย่อยง่าย -อาหารอ่อน -อาหารเหลวใส -อาหารเหลวข้น (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) วันนี้เราจะมายกตัวอย่างอาหารอ่อนให้ดูนะคะ ลักษณะ ของอาหารอ่อนเป็นอาหารที่มีลักษณะอ่อนนุ่มรสอ่อน เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย ไม่มีกาก ไม่ระคายเคืองต่ออวัยวะการย่อยอาหาร ไม่ทำให้ท้องอืด จุกแน่นคนทั่วไปเมื่อกล่าวถึงอาหารอ่อนมักจะหมายถึงข้าวต้มเสมอซึ่งความเป็นจริงแล้วก็เป็นเช่นนั้นแต่สิ่งที่ต้องระวังคือสิ่งที่รับประทานกับข้าวต้มซึ่งจะต้องมีลักษณะเปื่อยนุ่ม ไม่ใช่ยำกุ้งแห้ง หรือถั่วลิสงทอดเพราะลักษณะของอาหารดังกล่าวไม่เปื่อยหรือนุ่ม (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ชนิดของอาหารอ่อนสำหรับผู้ป่วย ข้าว ต้องเป็นข้าวสุกที่หนึ่งจนนิ่ม ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวที่ลวกจนนิ่ม มักกะโรนี บะหมี่ วุ้นเส้น ขนมปัง เนื้อสัตว์ต้องสับ บดละเอียด ต้องไม่มีเอ็นหรือพังผืดยกเว้นเนื้อปลาที่ไม่ต้องบดหรือสับ ผักทุกชนิดต้องสุกและอ่อนนุ่ม ไม่มีกาก ผักใบเขียวต้มเปื่อยและไม่มีกากหรือใบเช่นฟักทอง ฟักเขียว มันต้มจนนิ่ม ผลไม้ต้องไม่มีกาก หรือใยต้องบดและกรองเอาเปลือกและใบออก ยกเว้นกล้วยสุก มะละกอสุก มะม่วงสุก ที่ไม่มีใยกินได้เลยไม่ต้องบด ขนมหวานต้องมีลักษณะอ่อนนุ่ม ไม่หวานจัด ย่อยง่ายไม่มีกะทิเข้มข้น เครื่องดื่ม เช่น นม โกโก้ โอวัลติน ฯลฯ น้ำผลไม้ต้องกรอง เมื่อเราต้องดูแลผู้ป่วยหรือ ผู้สูงอายุเราต้องศึกษาลักษณะของอาหารให้ดีเพราะ อาหารเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ อย่าลืมดูแลตัวเองและ คนรอบข้างด้วยนะคะ จะมีสุขภาพที่ดีได้ต้องเริ่มจากการกินนะคะ กินอย่างไรได้อย่างนั้น