เชียงใหม่ นอกจากมีร้านรวงสุดชิคแล้ว วัดวาอารามเก่าแก่ยังมีประวัติและความงามที่ไม่เอ๊าท์เลย จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดาผู้มาเยือนทั้งคนไทยและต่างชาติ พากันไปสักการะยังวัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดเจดีย์หลวง ซึ่งอยู่กลางเมืองพอดิบพอดีและเป็นที่ตั้งของเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ แต่ยอดเจดีย์หักโค่นลงมาช่วงเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปี 2088 อีกทั้งภายในวัดยังมีกุฏิหลวงปู่มั่น ซึ่งดึงดูดทั้งคนไทยที่เข้าไปถ่ายรูป และชาวต่างชาติที่ทำท่าพนมมืออย่างเรียบร้อย ความที่วัดเจดีย์หลวงอยู่กลางเมือง บริเวณรอบ ๆ จึงคึกคักมาก คุณลุงคุณป้าเข็นรถทำขนมพื้นเมืองออกมาขายตั้งแต่เช้า บรรยากาศน่ารักดี ไม่ไกลจากวัดเจดีย์หลวง คือวัดพระสิงห์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ในวิหารลายคำ ซึ่งด้านในงดงามมาก มีภาพลายทองบนพื้นแดงเป็นลวดลายต่าง ๆ เต็มวิหาร จากใจกลางเมืองมาหาความร่มครึ้มได้ที่วัดเจ็ดยอด ซึ่งนอกจากไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแล้ว วัดเจ็ดยอดยังมีความสำคัญในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา เนื่องจากเป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก และเป็นครั้งแรกของไทยในปี 2020 หากยังไม่อิ่มกับต้นไม้ ก็ต้องเข้าป่าแล้วละ สิ่งนี้มีที่วัดหลวงขุนวิน อำเภอแม่วาง ซึ่งนอกจากป่าแล้ว ยังอยู่บนเขาด้วย และเส้นทางขึ้นเขาก็ไม่ธรรมดา โดยเราไปกันเป็นกลุ่ม กว่าจะถึงตีนเขาก็ค่ำมืด ทางวัดส่งรถกระบะมารับ แต่เราประเภทธรรมดาโลกไม่จำ เลยขอนั่งรถอีแต๋น ปรากฏว่าจำไม่ลืมตั้งแต่นาทีแรก เพราะรถอีแต๋นใช้ไฟหน้าแบบ "มือถือ" คือทั้งคนนั่งหน้าและคนยืนหลังรถ (ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่ม) ช่วยกันทำหน้าที่ "ไฟหน้า" ด้วยการใช้ไฟฉายแรงสูงส่องทางให้ แต่ไม่ต้องกลัว เพราะคนขับชำนาญทางอย่างดี แล้วก็คืบคลานไปแบบสุดสโลว์ พอไม่ต้องลุ้นกับถนนหนทางแล้ว เราก็หันไปดื่มด่ำกับความมืดสองข้างทาง แล้วแหงนหน้าขึ้นฟ้า โอ้ ความฟินอยู่เบื้องหน้านี่เอง เห็นแล้วอยากเอื้อมมือไปทักทายดวงดาวที่วิบวาวพราวฟ้า (แต่ทำได้แค่มอง) รถไปต่อเรื่อย ๆ จนถึงวัดในที่สุด ก่อนเข้านอนก็อาบน้ำเย็นชื่นใจ เพราะส่งตรงจากลำธารและตาน้ำบนภูเขานี่เอง รุ่งขึ้นเช้า พอแสงแรกแห่งวันลอดหมู่ไม้ลงมา ก็ได้ยินเสียงพระท่านกวาดลานวัด ซึ่งเป็นลานดิน ขณะที่บรรดาผู้มาเยือน พากันออกมาชมความงามของวิหารพระยืน วิหารพระนอน หอพระไตร และเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ ที่อยู่กลางหมู่ไม้และมีกลิ่นอายของอดีตเจืออยู่ วัดหลวงขุนวินเป็นวัดเก่าแก่ มีประวัติย้อนหลังไปเป็นพันปีว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาแถบนี้ แล้วประทับรอยพระบาทไว้ในป่า รอยพระบาทแหว่งไป เพราะแผ่นหินที่ประทับรอยมีขนาดเล็ก ชาวบ้านยังทูลขอพระเกศาธาตุแล้วสร้างเจดีบ์บรรจุไว้ ซึ่งก็คือเจดีย์สีทองกลางวัด สำหรับพระพุทธรูปในวิหารพระยืน และวิหารพระนอนนั้น แกะสลักจากต้นจำปีป่าที่ยืนต้นตาย โดยพระพุทธรูปยืนเป็นปางจงกรมแก้ว ซึมซับความงามท่ามกลางแวดล้อมของธรรมชาติแล้ว ก่อนกลับก็ไปชมป่าด้านหลังศาลาใหญ่ ที่มีต้นไผ่ยักษ์อยู่ด้วย อยากรู้ว่ายักษ์แค่ไหนก็ทาบแขนวัดกับลำไผ่ดูได้เลยจ๊ะ