"ดู เล เล" ชื่อแปลว่าอะไรเราไม่รู้มาก่อนเลย วันนึงนั่งเบื่อ ๆ ลองเสิร์ชหาที่เที่ยวไปเรื่อย ๆ แล้วขึ้นชื่อนี้ขึ้นมา แบบเฮ้ยยย คือไรอ่ะ?? มีด้วยเหรอ ทำการกดเข้าไปดู อยู่ที่ไหนของเชียงใหม่นะ เป็นงง !!! อ.กัลยาณิวัฒนา .... ตรงไหนเนี่ย งงไปอีก มันทำให้เรารู้สึกอยากค้นหาสถานที่แห่งนี้แล้วสินะ ทำการหาข้อมูลสิ ลุยยย!! (จากที่หาข้อมูลมา อ.กัลยาณิวัฒนา แยกออกมาจาก อ.แม่แจ่ม และเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2552 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานชื่ออำเภอที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่นั้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยขอพระราชทาน ว่า "อำเภอกัลยาณิวัฒนา" แทนชื่อเดิมที่ใช้ว่า "วัดจันทร์") ข้อมูลอ้างอิงจากวิกิพีเดีย... ข้อมูลแน่นไปอีกกก แต่ถ้าพูดถึง "วัดจันทร์" ทุกคนคงคุ้นหูกันใช่ไหมหละ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไป ดู เล เล ในครั้งนี้ มันเป็นเหมือนกับการไปพักผ่อน ด้วยกติกาของเจ้าของบ้าน ที่ไม่ทำให้อึดอัดเกินไป เราเลยตัดสินใจไปในทันที และไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่นี่นักร้องดัง ๆ ไปร้องเพลง จัดงานดนตรีกันเยอะมาก และไม่เคยทราบมาก่อน ว่าจะใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดัง ๆ คือเรื่อง "สุขสันต์วันโสด" 555 และการจองเขาว่าจองยาก !!! ว่าซั่นนน ไหนฉันลองทักเฟซไปจองซิ ปรากฎว่า...ว่างคร้าบบบ จองทันทีโอนเงินทันใด สายพร้อมเพย์ไม่คุยให้เสียเวลา แต่... มีเหตุให้ต้องเลื่อนวันเดินทาง ก็ทักไปหาเจ้าของอีกครั้ง ซึ่งคือ พี่โอห์ม ใจดีมากกกฮะ อยากเห็นตัวจริงละสิ เลื่อนเข้าพักให้แต่โดยดี และบอกว่าเราไม่ต้องกังวลนะ ถึงแกจะมาคนเดียว รับรองมีเพื่อนแน่นอน ว๊าววว ออกเดินทางสิ พร้อมกันยังฮะทุกคนนน ลุยยย ขอตัดภาพไปที่สถานีขนส่งช้างเผือก เพื่อต่อรถโดยสารไปที่ ดู เล เล เลยละกันนะ ที่นี่สถานีช้างเผือก ... ไหนหล่ะรถที่จะไปวัดจันทร์ นี่ไง...ค่าเสียหาย 160 บาท เดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง (นานมากกก) แต่บอกไว้เลยค่ะว่าระหว่างทาง คุ้มมากกก สวยมาก รอบเวลาออกตอนเช้า มี 2 เที่ยว คือ ประมาณ 9 โมง และ 11 โมง เท่านั้น ระหว่างทาง ซึ่งบอกเลยว่าไม่มีเบื่อ ถึงแล้วจ้าาา ดู เล เล คุณแม่พี่โอห์มน่ารักมากต้อนรับเราอย่างดี เมื่อมาถึงให้เราเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ และลงมาทานอาหารว่าง นั่นก็คือ กล้วยป่า ซึ่งฉันไม่เคยกินมาก่อน นี่บ้านอีกหลัง คนละหลังกับที่เราพัก น่าจะเป็นบ้านพี่โอห์ม บ้านนี้มีลูกชาย 3 คน พี่โอห์ม พี่อั้ม และอีกคนจำชื่อไม่ได้ ฟังคุณแม่เล่าแล้วได้ฟีล เหมือนเรามาบ้านญาติอย่างไงอย่างงั้น ระเบียงวิว มุมสุดฮิต คืนนี้พวกเราจะมาปาร์ตี้กันตรงนี้แหล่ะ จะร่วงไหม มองจากวิวนี้ไป นั่นก็คือบ้านอีก 2 หลัง เดาว่าเมื่อก่อนน่าจะใช้เป็นที่พักให้กับแขก แต่พอเดินไปแล้ว ดูเหมือนยังไม่ได้ปรับปรุง สงสัยเจ้าของให้มาพักที่บ้านหลังเดียวกันหมด แต่วิวดีนะ บอกเลย สักพักพี่โอห์มก็พาเราไป "ดอยไม่มีชื่อ" เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกดิน // นี่มองย้อนกลับไป นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน แสงแดด สะท้อนลงมา ย้ำเตือนหัวใจให้อุ่นครา ... เครดิตภาพนี้ :ถ่ายโดยพี่โอห์มแห่งบ้านดูเลเล ป่ะ กลับบ้านไปทานข้าวของคุณแม่กัน /ภาพอาหารไม่มีนะจ๊ะ ถ่ายไม่ทันทุกคนหิว 555 วันที่เราไปมี 3 กลุ่ม กลุ่มผู้ชาย 4 คน กลุ่มแก๊งเพื่อน ๆ 7 คนได้ และอีกกลุ่มมา 2 คน โอ้ยยย แก๊งเพื่อน ๆ 7 คน พาเราหัวเราะมากมาย สรรหาคำมาพูดให้ตลก นี่เลยคิดว่า การอยู่กับเพื่อน ๆ ที่เคมีเข้ากันได้ มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แท่น แท๊นนน วันที่เราไปโชคดีมากๆๆๆ นั่นก็คือ เราได้เห็นทางช้างเผือก ชนิดแบบว่ามองดูด้วยตาเปล่าก็เห็น ดาวเต็มท้องฟ้ามากมาย ไปครั้งนี้คุ้มมากกก ก.ล้านตัว ทุกอย่างมันดูเพอร์เฟคไปหมด และที่สำคัญพี่โอห์มถ่ายรูปให้เราฟรี ๆ ด้วยนะ ฮือออ ทำไมเป็นพี่ที่ดี น่ารัก อบอุ่น ได้อย่างนี้ ขอบอกเลยว่าใครจะไปที่นี่ คอนเฟิร์มว่า คุ้มค่ามาก หลาย ๆ ท่านอาจมองแค่ว่าก็แค่บ้านหลังนึง จริง ๆ ที่นี่ได้อะไรเยอะมาก ทั้งมิตรภาพ การปล่อยวาง ให้ธรรมชาติได้โอบกอดเรา บ้านหลังนี้อาจจะดูธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เหมือนกับเรามาบ้านญาติ ได้พักผ่อนแบบเต็มที่มาก ๆ และที่สำคัญ หากใครคาดหวังว่าที่พักจะอำนวยความสะดวกให้กับคุณนั้น โปรดอย่าไป เพราะที่นี่เมื่อกินข้าวเสร็จ คุณจะต้องล้างจานเอง ทิ้งขยะตามที่เจ้าของเตรียมไว้ให้ แยกขวดให้ด้วยน้าาา เอาเป็นว่าเหมือนคุณไปบ้านญาติคุณนั่นแหล่ะ อย่าคาดหวัง +++ นะจ๊ะ บอกไว้ก่อน 2 วัน 1 คืนกับที่นี่ เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ สัญญาว่าถ้าว่างจะกลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้งนะคะ ลากันไปกับภาพนี้ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า บ้านแห่งความคิดถึง || กลับมาแล้วยังคิดถึงที่นั่นอยู่เลย ... เครดิตภาพที่ 12 และ 13 : ถ่ายโดยพี่โอห์มแห่งบ้านดูเลเล ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน และเจ้าของที่พักดูเลเล (ภาพจากเจ้าของที่พักดูเลเล ได้รับอนุญาตให้นำมาเผยแพร่ได้)