เรื่องราววันนี้เกิดขึ้นจากการไปดูภาพยนตร์ "ดิวไปด้วยกันนะ" ของคุณมะเดี่ยว ก่อนอื่นต้องแจ้งผู้อ่านก่อนว่า ผู้เขียนบทความก็มี "เพศสภาพ" เดียวกับตัวละครในเรื่อง ใช่แล้ว ผมเป็น "เกย์" (และโสด) ประกอบกับผู้เขียนเป็นคนที่ชอบการแสดงละคร การอ่านวรรณกรรม พอสมควรจึงพยายามเข้าใจและตีความ "สัญญะ" หนังที่ตนเองดูบ่อย (แต่ผมไม่ได้จบการแสดง คณะนิเทศน์อะไรมาเลย ง่าย ๆ คือใช้ประสบการณ์ที่เคยทำละครเวที เคยช่วยรุ่นพี่ทำนั้นแหละครับ) "ทุกพื้นที่มีความรู้สึก" โดยเฉพาะความรู้สึกรักและการถูกรักส่วนตัวผมเชื่อเสมอว่าการแสดงออกซึ่งความรักคือความต้องการพื้นฐานของทุกชีวิตคู่ ทั้งการเดินจับมือ การทานข้าว หรือแม้กระทั่งการมีเซ็กส์ก็ตาม โดยหนังเรื่องนี้พยายามบีบ "พื้นที่ของความรัก" ระหว่างภพกับดิวในทุกแง่มุม ทั้งส่วนความรู้สึกที่นำเอาค่านิยมของสังคมเรื่อง "กะเทยเป็นโรคจิตหรือกะเทยเป็นเพศที่ต้องบำบัด" มาเป็นกรอบที่หนาแน่นมาก แสดงออกในเชิงรูปธรรมผ่านชุมชนปางน้อยที่มีสภาพเป็นชนบทขนาดเล็กที่ "ทุกพื้นที่เป็นสาธารณะ" สัญญะที่ซ่อนอยู่คือ ดิว ย้ายเข้ามาใหม่ เสมือนกับเป็นในสิ่งใหม่ที่ปางน้อยไม่เคยรู้จัก ความเป็นเพศสภาพที่แตกต่างไปจาก กะเทยที่ตุ้งติ้ง แปลเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายเหมือนกัน แต่นั้นก็ยังไม่ทำให้ปางน้อยหนีพ้นภาพจำของกะเทยอยู่ดี จากนั้นหนังก็ยังพยายามบีบมาอีกโดยใช้สถานการณ์แวดล้อม คำพูด สายตาที่มองเหยียด ซึ่งนั้นส่งผลต่อตัว ภพและดิวโดยตรง พวกเขาจึงตอบสนองกระบวนการนั้นด้วยการหลบซ่อน ซ่อนแอบไปเรื่อย ๆ "พื้นที่ความรักของภพและดิว" จึงบีบเล็กลงไปเรื่อย ๆ เหลือเพียงไม่กี่ที่ที่แสดงว่าทั้งคู่ "เคย" รักกัน ทั้ง บนรถมอเตอไซค์ กระดานไม้บนผาแดง หรือแม้แต่ตู้โทรศัพท์ แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านคำพูดของดิว "ที่นี่ไม่ใช่ที่ของดิว""ความรู้สึกปลอดภัยที่จะมีความรัก" แปลเปลี่ยนเป็นความเชื่อที่ฝังในวิญญาณว่า ชายต้องคู่กับหญิง จึงทำให้หลิวถูกทำให้มีตัวตนในคราบของดิว นั้นจึงทำให้การแสดงออกบนพื้นที่ความรักมีความเป็นอิสระมากขึ้น แต่สิ่งเดียวที่ทั้ง 2 ส่วนของหนังพยายามเพิ่มเข้ามาเหมือนกันคือ "ค่านิยมที่ตีกรอบพื้นที่ของความรู้สึก" เอาไว้ ในส่วนแรกภพกับดิวไม่กล้าจะแหพกรอบออกมา จึงทำให้พื้นที่ความรักหดหายไปเหลือแค่ในความทรงจำเท่านั้น แต่ครั้งสุดท้าย หลิวกับภพ ในฐานะครูกับนักเรียนเลือกจะฉีกขนบเดิมของค่านิยม ก้าวออกมาจากพื้นที่เดิมไม่ แม้สุดท้ายจะเป็นจุดจบที่เต็มใจ แต่ก็ทำเพื่อรักษาพื้นที่ความรักของตัวเองไว้แค่นั้นเอง"ทุกความรักต้องการพื้นที่ปลอดภัย" คงจะอธิบายการกระทำที่ชัดเจนของทุกตัวละครได้มากที่สุด ภพ ตัวละครที่น่าสงสารที่สุดสำหรับผม เพราะเป็นตัวละครที่เรียกได้ว่ารองรับทุกความคิดของตัวละครไว้หมด ทั้งการแบกรับแบบยินดีกับความรักของดิว การแบกรับความล้มเหลวของครอบครัวคนจีนที่ตอบสนองภาวะชายเป็นใหญ่ ทำให้ภพไม่อยากเป็นผู้ชายที่ทำร้ายจิตใจแม่แบบพ่อ (อันนี้คิดเอง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นเพราะสาเหตุนี้มั้ง) การแบกรับความรู้สึกแปลกแยกของเพศสภาพ ความรู้สึกผิดที่ทำดิวตาย ความรู้สึกรักแต่ครอบครองไม่ได้ระหว่างเขากับหลิว ความรู้สึกผิดกับอร ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าเข้าใจภพในระดับหนึ่ง เพราะการเปิดตัวว่าชอบผู้ชายมันขัดแย้งกับสภาวะของเพศและร่างกายพอสมควร การจะประกาศตัวต่อพ่อแม่ถึงรสนิยมหรือการแสดงออกถึงความรู้สึกต่อหน้าคนอื่นเป็นไปได้ยากมาก จนบางครั้งเคยคิดว่าความรักสำหรับตัวเองคงจะเป็นความลับไปจนตาย แต่สุดท้ายประสบการณ์ และการโหยหาพื้นที่ความรักก็ผลักดันให้ภพก้าวไปสู่ทางที่ไม่รู้จุดจบ แต่เป็นการแสดงออกซึ่งความรักระหว่างเขากับหลิว (สะท้อนภาพถึงการยอมจำนนต่อค่านิยมชายรักชาย และน้อมรับสภาวะชายคู่กับหญิงอย่างสมบูรณ์)สำหรับผมแล้วภาพยนตร์ดิว ไปด้วยกันนะ คือภาพยนตร์ที่พยายามจุดประกายความหวังให้ทุกความรักกล้าแสดงออกในพื้นที่ของความรู้สึกอย่างเต็มเปี่ยม โหยหาความรักแบบที่เราควรจะได้รับ และกล้ารักในแบบที่เรารักสุดท้าย เพลง "ก่อน" เป็นตัวแทนของความรักที่เพราะและสวยงามมาก เพราะเนื้อเพลงเชื่ออยู่เต็มเปี่ยมว่าทุกคนต่างมีพื้นที่ของความรัก