เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2388500/ สวัสดี ครับวันนี้พบกันอีกแล้วกับกฎหมายดี ๆ สไตล์ผู้เขียน วันนี้อยากนำเสนอเรื่องใกล้ตัวเรา ๆ ท่าน ๆนี้หละครับเรื่องเหล่านี้ได้เห็น ได้ยินบ่อยมาก เช่น ที่ปรากฏเป็นข่าว “กรณีดีเอสไอสางคดีแชร์ลูกโซ่แม่มะหนี้ “จับกุม น.ส.กอไก่ กุ๊กกุ๊ก หรือ กองกอย เน็ตไอดอล และแม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์ อายุ 28 ปี เท้าแชร์แม่มะหนี้..ที่ชักชวนผู้คนมาลงทุน โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนกว่าร้อยละ 93 จากเงินลงทุน ลูกแชร์ถูกโกงพุ่งสูงไปเฉียด 4,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมส่งสำนวนพร้อมนำตัวแม่มะหนี้กับ 10 แอดมินส่งสำนักอัยการศาลอาญา แผนกคดีพิเศษ 2 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน และข้อหาฉ้อโกงประชาชน” พอจะมองออกไหมครับว่า ผู้เขียนต้องการสื่อถึงเรื่องอะไร...ถูกต้องครับวันนี้เราจะมาดูกันเรื่องความผิดฐานฉ้อโกงครับกำลังฮิตเลยมาดูกันครับว่าในประมวลกฎหมายอาญาวางหลักไว้ว่าอย่างไรบ้างโดยผู้เขียนได้สรุปให้เห็นดังนี้ เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-1294323/ มาตรา 341 1. ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง 2. การหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามหรือ 3. ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ 4. ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 343 1. ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือ 2. ด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน 3. ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 348 ความผิดตามมาตรา 343 เป็นความผิดยอมความไม่ได้ เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2557396/ ทีนี้มาดูกันครับว่า คำว่า ฉ้อโกงคือ อะไรคำว่า ฉ้อโกงหมายถึง ผู้ที่มีเจตนาหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริง เพื่อให้ได้ทรัพย์สินของผู้อื่น (ผู้ที่ตนหลวงลอง) ไปการหลอกลวงอาจใช้อุบายหลอกลวง ใช้เอกสารสัญญา อุบาย หรืออาจพูดจาหว่านล้อมให้หลงเชื่อจนผู้ถูกหลอกลวงยอมมอบทรัพย์สินให้แก่ผู้ฉ้อโกง นี้หละครับคือ ความหมายของคำว่า ฉ้อโกง แต่มีข้อสังเกตนิดหนึ่งครับ ฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาจะมีมาตราหลัก ๆ อยู่ 2 มาตรา ที่ผู้เขียนได้นำเสนอไปเบื้องต้น คือ มาตรา 341 และ 343 จะแตกต่างกันนะครับ มาตรา 341 เป็นฉ้อโกงที่เป็นความผิดอันยอมความได้ เหตุเพราะเป็นการฉ้อโกงบุคคลคนเดียว (บุคคลผู้ถูกฉ้อโกงหรือบุคคลที่สาม) แต่มาตรา 343 เป็นการฉ้อโกงประชาชน หมายถึง คนจำนวนมาก (หลายคน) แบบนี้เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้นะครับ...(ความผิดอันยอมความได้ คือ มีผลกระทบ ต่อผู้ที่ถูกกระทำโดยตรงเท่านั้น และไม่มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม,ความผิดอันยอมความไม่ได้ คือ มีผลกระทบต่อผู้ที่ถูกกระทำโดยตรง และยังมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม)เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-3298455/ มาดูดตัวอย่างประกอบความเข้าใจกันนะครับ เช่น แม่มโน ลงประกาศโฆษณาให้ประชาชนทั่วไปทราบทางอินเตอร์เน็ตว่า หากใครนำเงินมาลงทุนกับตนโดยมีการโอนเข้าบัญชีตนเพื่อนำไปลงทุนซื้อทองคำ และเมื่อได้กำไรจะจ่ายค่าตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 50 คืนให้พร้อมกับเงินต้นทุนที่ลง ต่อมาปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อโอนเงินให้เป็นรวมทั้งสิ้นหลายล้านบาท ต่อมาแม่มโนหนีออกนอกประเทศโดยไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนคืนตามที่ตกลง นางสาวมโนจึงมีความผิดฐานฉ้อโกงตาม มาตรา 343 (เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้) แต่หากเปลี่ยนข้อเท็จจริงว่า แม่มโนหลอกแค่นายฝอยทองแค่คนเดียวถ้าแบบนี้จะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341 (เป็นความผิดอันยอมความได้) นะครับ เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-19176/ เห็นไหมละครับว่าฉ้อโกงคืออะไร แล้วยอมความได้กับยอมความไม่ได้แตกต่างกันอย่างไร ปะ...ไปหาแม่มานีกัน วันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ...สวัสดีครับ