เชียงใหม่มีที่เที่ยวประเภทขี่ช้างและล่องแพกันหลายที่ ที่ฉันไปมาแล้วประทับใจมากจะอยู่ที่ อำเภอแม่วาง มีปางช้างและซุ้มล่องแพมากมายหลายเจ้าให้เลือก บรรยากาศโดยทั่วไปร่มรื่น ไม่ร้อนเหมือนแดดแผดเผาตลอดเวลา การเดินทางง่ายสะดวกสบายเป็นถนนลาดยางตลอดเส้น ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่อำเภอสันป่าตอง แล้วเลี้ยวขวาเข้าบ้านกาด เลยตลาดบ้านกาดไปเลี้ยวขวาไปทางอำเภอแม่วางอีกที รวมระยะทางจากเชียงใหม่ถึงแม่วางไม่เกิน 50 กิโล ฉันตัดสินใจเลือกปางช้าง 'ภูตะวัน' จากชื่อที่ฟังแล้วดูหล่อเหลาเหมือนพระเอกในนิยาย และไม่ผิดหวังจริงๆ ที่เลือกที่นี่ นอกจากจะมีช้างให้บริการแล้วที่นี่ยังมีร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักและร่มรื่นให้นั่งชิวดูช้างและแพที่นักท่องเที่ยวอื่นๆ ถ่อแพผ่านมาด้วย หรือหากหิวที่นี่ก็มีอาหารให้สั่งทานซึ่งรสชาดไม่เลวเลยทีเดียว ที่ฉันติดใจมากเป็นน้ำมะพร้าวปั่นดับอากาศร้อนจากภายนอก เขาใช้น้ำมะพร้าวที่เฉาะจากมะพร้าวสดๆ ปั่นกับน้ำแข็งโดยไม่ผสมอะไรเลย ทำให้ได้อารมณ์ของน้ำมะพร้าวเต็ม ๆ น้องช้าง (หรือจะเรียกพี่ช้างดี) ที่นี่น่ารักและเชื่องมาก เราสามารถสัมผัส จับ แตะต้อง กอด ได้เหมือนน้องหมา น้องแมวที่บ้าน แต่ไม่แนะนำให้อุ้มนะคะ ฉันซื้อทัวร์ขี่ช้างเที่ยวรอบรีสอร์ท ขี่ช้างที่นี่ไม่ได้นั่งบนแหย่งไม้ที่หลังช้างเหมือนทั่วไป แต่เราจะได้ขี่ที่คอของช้างเลยค่ะ ประหนึ่งว่าเราเป็นควาญช้างตัวยง แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะควาญช้างตัวจริงจะนั้งประกบข้างหลังเราไปด้วย มั่นใจได้เลยว่าปลดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ช้างจะพาเราเดินขึ้นๆ ลงๆ เลาะริมเขาไปเรื่อยๆ พอถึงริมน้ำเค้าก็จะทิ้งตัวเดินลงตลิ่งไป เรียกเสียงหวีดร้องลั่นป่ากันเลยทีเดียว เค้าจะพาเราเดินข้ามน้ำซึ่งไม่ลึกมาก น้ำลึกไม่ถึงเอว ข้ามไปที่ตลิ่งอีกฟากหนึ่งใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมง พอมาถึงอีกฟากของน้ำ เค้าจะให้เราเล่นกับช้างอย่างใกล้ชิด อาบน้ำให้ช้าง ป้อนอาหาร กอดรัดฟัดเหวี่ยงถ่ายรูปกับช้างจนหนำใจ และเปียกปอนไปทั้งตัว หากเราจะล่องแพด้วย ให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ จะมีรถกระบะมารับเราที่รีสอร์ทแล้วพาเราไปที่จุดปล่อยแพซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปอีกประมาณ 3 กิโล ถ้าเราไม่ได้ขี่ช้างแต่มาเพื่อล่องแพอย่างเดียว สามารถติดต่อเช่าแพได้ที่ซุ้มอาหารทุกซุ้มตลอดข้างทาง ซึ่งแต่ละที่จะติดต่อท่าเรือให้มารับถึงที่เหมือนกัน ท่าเรือที่ใช้ปล่อยแพ จะมีแพจอดเรียงกันเป็นตับเต็มคุ้งน้ำ มีแพบางส่วนถูกวางซ้อนกันอยู่บนฝั่งรอลงน้ำอีกที ไม้ไผ่ยาวประมาณ 4-5 เมตรหลายลำถูกนำมามัดรวมกัน ตรงกลาง มีเก้าอี้ไม้ให้นั่งท่องเที่ยวนั่งยองกันน้ำเปียกก้น แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผล เพราะเมื่อล่องแพถึงปลายทางก็เห็นเปียกกันทุกคน ใน 1 แพนั่งได้ไม่เกิน 4 คน มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนท้องถิ่นเป็นคนถ่อแพให้ หรือหากเราอาจหาญอยากถ่อแพเอง ถึงตรงที่น้ำไม่เชี่ยวมากเค้าจะให้เราถ่อเองได้ ระยะทางล่องแพประมาณ 3-4 กิโลมีทั้งน้ำนิ่งใส และบางช่วงเป็นแก่งหินน้ำเชี่ยวน่าตื่นเต้นมาก บางช่วงผ่านที่ช้างกำลังเดินข้ามน้ำ ก็จะโดนน้องช้างแกล้งพ่นน้ำเข้าใส่ สนุกสนานเฮฮาทั้งคนล่องแพและคนขี่ช้าง ถ้าเราไม่พักค้างคืนที่รีสอร์ท แถวๆ นั้นมีซุ้มเพิงไม้ไผ่เป็นร้านอาหารมากมายให้เราสั่งอาหารมานั่งทานที่ริมน้ำ ทานอาหารไปโบกมือทักชาวแพที่ล่องผ่าน หรือไม่ก็ทักทายช้างที่พานักท่องเที่ยวผ่านมา เป็นการใช้เวลาท่องเที่ยวหนึ่งวันที่คุ้มค่ามาก ห่างจากตัวเมืองไม่มากแต่อากาศที่นี่สดชื่นสุดๆ งบประมาณเที่ยวหนึ่งวันโดยไม่ค้างคืนไม่เกินคนละ 1,500 บาทแน่นอนค่ะ