เดือนมกราคมช่างผ่านไปนานเหลือเกิน อยากออกทริปเดินป่า ก็ไม่มีวันหยุดมากพอที่จะไปนอนค้างคืนได้ ที่เที่ยว ที่เดินป่าในจังหวัดเชียงใหม่มีมากมายแต่ล้วนต้องไปตั้งแคมป์นอนค้างคืนทั้งนั้น แต่ถ้าหากคุณอยู่เชียงใหม่ และไม่ค่อยมีเวลา คงไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่ากิ่วแม่ปานอีกแล้ว (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) การเดินทางไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง เมื่อถึงอำเภอจอมทองจะมีแยกขวา ให้เลี้ยวขวาเข้า ทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 50 กิโลเมตร ก็จะถึงยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ทางเราออกเดินทางจากในตัวเมืองเชียงใหม่ประมานเกือบๆตี5 ขับรถมาทางอำเภอจอมทอง ถึงยอดดอยอินทนนท์เกือบๆ7โมง ใช้เวลาขับรถประมาน2ชั่วโมง ก่อนถึงยอดดอยจะมีด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยานฯ เราต้องชำระที่ด่านแรก และเก็บบัตรไว้แสดงกับเจ้าหน้าที่ที่ด่านที่2ด้วย ค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ – ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท – ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท – รถยนต์ คันละ 30 บาท – รถจักรยานยนต์ คันละ 20 บาท เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ด่าน 2 ที่ขึ้นยอดดอยเปิด 5.00 – 18.00 น. พอไปถึงจะมีลานจอดรถกว้างๆอยู่ มีจุดชมวิวให้ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น 🌥 บริเวณนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารให้ได้เติมพลังกันก่อนที่จะเข้าไปเดินกิ่วแม่ปานกัน (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เปิดให้เข้าชมกันได้ตั้งแต่ 6.00 – 16.00 น. เส้นทางนี้มีระยะทางทั้งหมดประมาน3 กิโลเมตร อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาประมาน 2-3 ชั่วโมง ตรงทางขึ้นจะมีโต๊ะให้ลงทะเบียน ลงชื่อและเวลาที่เราจะขึ้น เจ้าหน้าที่จะเป็นชาวบ้าน เค้าจะจัดไกด์นำทางให้เรากรุ้ปละ1คน มีค่าบริการคนนำทาง200บาทต่อกลุ่ม เมื่ออกเดินทางแล้ว ทางด้านในจะไม่มีร้านค้า ไม่มีห้องน้ำ ควรพกน้ำดื่มติดตัวเข้าไปด้วย ทำธุระของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อย เมื่อพร้อมแล้ว ก็ลุยกันเลย (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เส้นทางการเดินเขาจะมีลักษณะการเดินเป็นวงกลมมาบรรจบกัน ผ่านลักษณะธรรมชาติที่แตกต่างกัน 2 แบบ คือ ป่าดิบเขาและทุ่งหญ้าบนสันเขา ตลอดเส้นทางเราจะผ่านแผ่นป้ายเชคอินจุดต่างๆ มีทั้งหมด21 แผ่นป้าย (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ช่วงแรกจะเป็นการเดินในป่าดิบเขา จะผ่านต้นไม้ร่มรื่นสีเขียว บรรยากาศชื้น ๆ เย็น ๆ ได้ยินเสียงน้ำตก มีมอส เฟิร์นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ต่าง ๆ ถ้าช่วงที่มีความชื้นเยอะจะเห็นหมอกปกคลุมบริเวณพื้นเต็มไปหมด จึงทำให้บริเวณนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อคือป่าเมฆ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เดินไปเรือยๆจนทะลุออกยังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของสันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสงแดดจ้าและสายลมแรงตลอดปี เวลาแดดส่องก็จะเห็นเป็นภูเขาสีทองอร่ามสวยงาม (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) มีจุดแลนด์มาร์กให้แวะถ่ายรูปกับวิวภูเขาข้างล่างจะมองเห็นตัวเมืองอำเภอแม่แจ่ม ช่วงเทศกาลจุดนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ต้องแย่งกันหามุมถ่ายรูปเลยทีเดียว (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ตามสันเขาเราจะพบต้นกุหลาบพันอยู่เรียงรายข้างทาง ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นไม้หายาก ไม่สามารถพบเจอได้ที่อื่นทั่วไป 🌹 (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เดินไปเรื่อยๆจะกลับเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้ง ระหว่างเดินออกจะมีแยกที่ต้องเดินขึ้นไปประมาน50เมตร เป็นจุดชมวิวที่จะเห็นทั้งพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริอยู่ใกล้ๆกัน (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เดินต่อมาจะมีทั้งทางขึ้นและทางลงเดินสลับกัน เดินไปเรื่อยๆจนถึงจุดสิ้นสุดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เราเข้ามานั่นเอง ออกมาแล้วจะมีจุดให้ลงชื่อออก มีช่องเขียนคอมเม้นต่างๆ เพื่อที่ทางอุทยานจะได้นำไปปรับปรุง หรือเราจะเขียนให้กำลังใจก็ได้นะ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) เราใช้เวลาเดินทางไปทั้ง 2ชั่วโมง พอดีไม่ขาดไม่เกิน ถือเป็นการเดินเขาที่สบายๆเดินง่าย บรรยากาศดี การเดินทางมาสะดวก ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่ค่อยมีเวลาก็มาได้ พอได้มาสูดอากาศเติมพลังให้มีแรงกลับไปทำงานกันต่อ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมคือ เดือนธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้ปิดให้บริการเพื่อให้เวลาธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง