เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สวัสดีครับ...ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ท่านทราบหรือไม่ครับว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นนั้นล่าสุดประเทศไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกที่เกิดปัญหานี้มากที่สุดดังนั้นปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชนต่าง ๆ ต่างได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยกำหนดเป็นแนวทางของแต่ละจังหวัด เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้ซักซ้อมแนวทางการตั้งประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยโดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแจ้งซักซ้อมการป้องกัน และลดผลกระทบจากกรณีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ (จังหวัดที่ผู้เขียนอยู่) เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่พบปัญหาในเรื่องเหล่านี้มากกว่าจังหวัดอื่น ๆ เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าทางจังหวัดจึงกำหนดแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามแนวทางดังต่อไปนี้ เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) 1. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดฝึกอบรมส่งเสริมการประกอบอาชีพอื่นทดแทนการหาของป่า ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมอาชีพระยะสั้นให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มีอาชีพหาของป่าซึ่งอาจจ้างเหมาบริการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่ประชาชนในพื้นที่ เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) 2. การจัดหาหน้ากากอนามัย กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามแนวทางหนังสือกระทรวงมหาดไทย (ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปยังแต่ละหมู่บ้านโดยมีการประสานงานให้ฝ่ายปกครอง หมู่บ้านร่วมกันดำเนินการ มีการรณรงให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์ถึงการป้องกันอันตรายโดยเสียตามสายประจำหมู่บ้าน เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) 3. จัดชุดเฝ้าระวังดับไฟป่า (ลาดตระเวน) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้อำนาจตามมาตรา 1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 สั่งใช้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนหรือจิตอาสาภัยพิบัติผ่านการฝึกอบรม สำหรับการสั่งใช้ และการเบิกจ่ายค่าตอบแทน เบี้ยเลี้ยงโดยให้ถือตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เครดิตภาพจาก ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งมีการจัดกำลังคน (เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทางปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อพปร.(อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) ร่วมกันเข้าราดตระเวนป้องกันไฟป่าทั้งกลางวัน และกลางคืน มีการเตรียมการรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ เครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุด ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งหากพบเห็นไฟป่าหรือการกระทำที่ก่อให้เกิดไฟป่าแจ้งสายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร 1362 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือแจ้งมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งได้ 24 ชั่วโมงเช่นกัน