หากความตายยืนรอให้เห็นอยู่เบื้องหน้า คุณจะทำเช่นไร จะใช้ชีวิตที่เหลือไม่มากนี้อย่างไร สามารถยิ้มหน้ากระจกได้กว้างเท่าเดิมหรือไม่ คำถามนี้เกิดขึ้นในใจหลังจากได้รู้จักชื่อและผลงานของชายคนนี้ - Ryuichi Sakamoto (ริวอิจิ ซากาโมโตะ) ริวอิจิ ซากาโมโตะ เป็นนักประพันธ์เพลงชาวญี่ปุ่น ผู้หยุดรับงานแต่งเพลง 1 ปี ดูแลตัวเองทุกวิธีอย่างดี หลังทราบผลวินิจฉัยจากแพทย์ว่าตนเป็นมะเร็งลำคอระยะที่สาม ในปี 2014 ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่รักอีกครั้งในฐานะผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ The Revenant โดยผู้กำกับ อเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู-REVENANT = A PERSON WHO HAS RETURNED, ESPECIALLY SUPPOSEDLY FROM THE DEAD-จากที่เกริ่นถึงพระเอกของบทความนี้กับคำแปลศัพท์ข้างต้น เรารับรู้ถึงความเชื่อมโยงบางอย่าง ในที่นี้ไม่ได้กำลังบอกว่ามีใครตายจากโลกใบนี้ไป หากแต่เป็นความรู้สึกถึงการตั้งใจลงมือทำบางสิ่งที่อาจเป็นวาระสุดท้ายที่สามารถสร้างไว้ให้กับโลกนี้ได้ริวอิจิ ซากาโมโตะ กลับมาเล่นเปียโนทุกวันอย่างเคยและเริ่มทำงานอีกครั้ง แม้สิ่งที่ทำจะส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่กระนั้นความหวังที่จะสร้างสรรค์ผลงานฝากเอาไว้บนโลกอย่างไม่อายใครก็เป็นความตั้งใจอันแรงกล้า และเขาคงทำใจได้ยากลำบาก หากต้องหยุดทำสิ่งที่รักตลอดไป สิ่งสำคัญที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือ งานและเสียงดนตรี ระหว่างนั้นริวอิจิ ซากาโมโตะ ได้ค้นพบเปียโนผุพังจากเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น ด้วยสภาพบอบช้ำจากภัยธรรมชาติ ขั้นว่ามองด้วยสายตาเปล่าอย่างไม่อ้างอิงทฤษฎี เปียโนหลังนี้อ่อนแอเกินกว่าจะส่งเสียงที่งดงามออกมาได้ แต่ทว่าซากาโมโตะไม่ได้มองด้วยสายตาเช่นนั้น มนุษย์ที่คาบเส้นความตายและผุพังจากโรคมะเร็งร้ายเช่นเขา กลับมองเห็นความไพเราะจับหัวใจมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าจะสามารถอยู่ดำรงชีพได้อีกมากน้อยแค่ไหน ทั้งโรคที่ต้องรักษา เขายังรอดชีวิตมาได้ เปียโนก็ยังรอดมาจนถึงเขาได้ ความงามเกิดขึ้นได้ง่ายอย่างไม่เคยคาดคิด แม้เพียงเสียงโน๊ตหนึ่งตัวจากเปียโนผุพังสะบักสะบอม ก็ปลดล็อคความสุขในใจได้ไม่น้อยหน้าเปียโนสมบูรณ์แบบหลังอื่น จริงอยู่ เปียโนตัวนี้อาจจะเสียงเพี้ยนเพราะแช่น้ำมานาน แต่อาจเป็นเพราะมนุษย์เองที่คิดว่านั่นคือเสียงที่ผิดเพี้ยน ในทางกลับกับมันอาจเป็นเสียงที่แท้จริงแล้วจากธรรมชาติในส่วนผลงานเพลงอื่น ๆ ที่ตามมาในปี 2017 อย่าง อัลบั้ม async แนวเพลงอิเล็กทรอนิกละเมียดละไมแฝงอารมณ์ลึกลับซับซ้อน และแน่นอนต้องมีซาวด์น่าฉงนในแต่ละเพลงส่วนในปี 2018 ซากาโมโตะได้รับเลือกให้ครองตำแหน่ง 2018 Asian Filmmaker of the Year ที่เทศกาลหนังปูซาน ด้วยงานสกอร์หนังระดับโลกตั้งแต่ Merry Christmas, Mr.Lawrence (1983), The Last Emperor จนถึง Little Buddha, The Sheltering Sky, Toni Takitani, The Revenant และ Call Me By Your Nameและหากใครที่ต้องการชมหนังสารคดีเรื่องราวชีวิตทรหดและบันทึกช่วงเวลาที่ซากาโมโตะพักรักษาตัวที่บ้านในนิวยอร์ก ภายใต้ชื่อเรื่องว่า "RYUICHI SAKAMOTO: CODA ดนตรี คีตา ริวอิจิ ซากาโมโตะ" ทาง Documentary Club เปิดช่องทางให้ได้เข้าไปชำระเงินและดูสารคดีคุณภาพอย่างถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย (www.documentaryclubthailand.com) ซึ่ง CODA ทางภาษาดนตรี หมายถึงส่วนเพิ่มเติมในบทประพันธ์เพลง เพิ่มเข้าไปในส่วนท้ายบทเพลงเพื่อสร้างความรู้สึกว่าเพลงนั้นจบแล้ว หนังสารคดีเรื่องนี้ ชวนผู้ชมร่วมเดินทางเพื่อค้นหาและสรรค์สร้างเสียงที่ใช่ไปกับเขา ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการต่อสู้ ยอมรับ รับมือ และเดินไปพร้อมกับโรคร้ายที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอย่างดื้อดึง บางครั้งการทำงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะแสดงออกด้านดนตรี ศิลปะ เขียนหนังสือ หรือการแสดงออกใดก็ตาม เมื่อความเคยชินทั้งขั้นตอนวิธีการ รวมทั้งตรรกะความคิด ทั้งชุดความรู้ที่สะสมมา อาจทำให้ผู้สร้างสรรค์มาถึงจุดที่การก้าวขาต่อไปนั้นทำได้ยากยิ่ง อาจไม่ใช่ทางตัน แต่เป็นความต้องการพัฒนาไปในขั้นที่ดีกว่า ฉะนั้น คำถามบางคำถามเช่น แล้วจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรอาจจะเกิดขึ้น หนังสารคดีเรื่องนี้อาจเป็นหนึ่งคำตอบ ทำให้กลับไปมองว่าวิธีการได้มาซึ่งวัตถุดิบการสร้างสรรค์นั้นอยู่รอบตัว เพียงแต่อาศัยสายตาที่ละเอียดอ่อน ทดลองวางความคุ้นเคยที่มี แล้วใช้มือหยิบจับสัมผัสทดลองด้วยความสนุกและเปิดใจ - นี่คือสิ่งถาโถมเข้ามาในความคิดผู้เขียนทันทีที่หนังจบ (ยิ่งฉากที่ซากาโมโตะเอาถังครอบศีรษะตนเองออกไปฟังเสียงฝนตกนั่นก็ปะทะความรู้สึกเลย)อย่างที่เขากล่าวเอาไว้ " ผมไม่รู้เลยว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี แต่ผมรู้ว่าผมอยากทำเพลงอีก เพลงที่ผมจะฝากฝีมือไว้โดยไม่ต้องอายใคร " ประโยคชวนขนลุก ชวนให้คิดถึงปรัชญาข้อหนึ่ง หากความตายคืบคลานเข้ามา เราจะทำอย่างไรต่อจากนี้ และบทพิสูจน์ที่คนหลายคนได้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์นั้นความตายคือสิ้นสุด แต่ผลงานนั่นต่างหากที่เป็นนิรันดร์ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ Ryuichi Sakamoto ภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4