เหตุการณ์โรค Covid-19 เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพก็คงเห็นมีข่าวเยอะแยะมากมายว่า มีคนติดโรคมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานที่ทุกที่สุ่มเสี่ยง เกิดความวิตกกังวลในวงกว้าง และเริ่มแพร่เข้ามาทางจังหวัดอื่น จนควบคุมไม่อยู่ ทุกคนได้รับผลกระทบตั้งแต่ผู้บริหารยันพนักงานจ้างหลายคน คงต้องรอให้เหตุการณ์ดีขึ้นกว่านี้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะกลับเข้าสู่สภาวะเดิม ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels เรามาพูดถึงปัญหา Covid-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันน่าเป็นห่วงมาก หลังจากที่มีข่าวเลื่อนรับปริญญาจากทุกมหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ อย่างเช่นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่รุ่นน้องของเราจะได้รับปริญญาอีกเพียงแค่สองวันเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีข่าวลือออกมาต่าง ๆ นานา ว่าพบผู้ติดเชื้อซึ่งก็ไม่เป็นอันยืนยันแน่ชัด แต่ในขณะนี้มีการยืนยันผู้ติดเชื้อล่าสุด 15 คนและยังมีผู้ที่ต้องสงสัยอีกกว่า 300 คน ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มชะลอตัวมากขึ้น และเริ่มมีมาตรการป้องกันออกมา ภาพจาก Official Fackbook Fanpage ตะวันแดง มหาซน ชาวเชียงใหม่ บริษัทหลายที่ในเชียงใหม่ต้องปิดตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ พนักงานหลายคนถูกเลิกจ้าง หรือไม่ก็ถูกพักงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับเงินเดือน เช่นเราที่ถูกเลิกจ้างเพราะบริษัทขาดรายได้ และรุ่นน้องที่ทำงานสถานบันเทิงถูกพักงาน ถือเป็นปัญหาหนักมากในทุกภาคส่วน คนเริ่มตุนของแล้วบ้าง หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือก็หายากอีกเช่นกัน แม้แต่ 7-11 โลตัส BigC ก็ยังคงหาซื้อยากแม้ว่าจะอยู่โซนนอกเมือง ร้านอาหารบางร้านขายไม่ได้เพราะคนออกมาใช้ชีวิตน้อยลง ตอนเที่ยงร้านอาหารบางร้านเงียบมาก ส่วนตอนกลางคืนแทบจะไม่มีรถผ่านแต่ละเส้นทางในเชียงใหม่โดยเฉพาะในตัวเมือง และหน้ามอแม่โจ้ที่เราอยู่มีผู้ติดเชื้อจึงทำให้ไม่มีใครไปแถวนั้น ทำให้ร้านอาหารหน้ามอขาดรายได้ไปมาก สถานที่สุ่มเสี่ยงถูกสั่งปิดชั่วคราวจนถึง 31 มีนาคม (อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตหากสถานการไม่ดีขึ้น) ทำให้คนที่ทำงานอยู่ปกติตกงานกันเป็นแถว สถานที่ที่ปิดบริการชั่วคราว เช่น ตลาดที่มีคนพลุกพล่าน เช่นถนนคนเดินท่าแพ วัวลาย รวมโชค สถานบังเทิง เช่นตะวันแดง ท่าช้าง ฮอมบาร์และในเขตนอกเมือง (บางที่ปรับตัว Live เช่นท่าช้างและฮอม) ฟิตเนส ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมส์ โรงภาพยนตร์ โซนเด็กในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารให้ซื้อกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น ถือว่าข้อนี้ปรับตัวได้เร็วมาก เรายังไม่ทันได้เตรียมตัวเลยว่าไม่มีให้นั่งทานแล้ว ภาพถ่ายโดย Valeria Boltneva จาก Pexels ถือว่าเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคได้ดี ทุกคนพร้อมใจกันอยู่บ้านเช่นเราที่อยู่มาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ปัญหาเศรษฐกิจคนตกงาน ไม่ว่าจะเป็น พนักงานบริษัท พนักงานตามห้างสรรพสินค้า พนักงานบริการ พนักงานเสิร์ฟ และอีกมากมายยังถือว่าไม่ได้รับการเยียวยาหรือมาตรการใด ๆ จากสถานประกอบการ ก็เป็นเรื่องที่ต้องหาทางเอาตัวรอดในช่วงนี้ เพราะทุกคนก็คงต้องช่วยตัวเอง เพราะเจ้าของกิจการก็สูญเสียรายได้เช่นกัน ภาพจาก ICONFINDER นอกจากสถานการ Covid-19 เชียงใหม่ยังคงมีค่า P.M 2.5 ที่สูงมาก ปัจจุบันมีไฟป่าเยอะ ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งดอยสุเทพ แม่เหียะ ก็เกิดไฟไหม้ทำให้ P.M 2.5 ในวันที่ 25 มี.ค 2563 พุ่งสูงถึง 1000 เราไม่กล้าออกบ้านเลย ทำให้การใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากและมีความเสี่ยงจากหลายช่องทาง เชียงใหม่ตอนนี้เหมือนกับการปิดเมืองไปแล้วครึ่งหนึ่ง ต้องรอดูต่อไปว่าสถานการจะเป็นอย่างไร จะมีมาตรการใด ๆ ออกมาอีก คนที่จะมาเชียงใหม่ก็คงต้องงดเว้นไปก่อน เพราะสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่กลายเป็นสถานที่อันตราย สถานบังเทิงที่คนนอกพื้นที่ตั้งใจมา คาเฟ่ต่าง ๆ ถูกสั่งปิดไปก็เยอะ แต่ที่เชียงใหม่ดีที่ร้านอาหารทุกร้าน ร้านค้าอื่น ๆ มักจะมีเจลล้างมือไว้ให้ใช้ได้เสมอ จึงรู้สึกว่าเวลาออกไปข้างนอกยังพอมีให้ได้ใช้บ้าง อาหารทุกอย่างยังคงไม่ขึ้นราคา การดำเนินชีวิตยังคงปกติอยู่ แต่ก็ยังมีความวิตกกังวลอยู่มากพอสมควร ขอให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปและทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วนะคะ " โควิดก็กลัวตังค์หวิด (เงินไม่พอ) ก็กลัวเช่นกัน " เนื้อหาเป็นประสบการณ์จากตัวนักเขียนที่ได้พบเจอและรับรู้ปัญหาจากรุ่นพี่รุ่นน้อง และคนในครอบครัว ได้เห็นสภาพพื้นที่ของเชียงใหม่ที่คนเคยพลุกพล่าน เงียบสงัดทั้งในตอนเช้าและกลางคืน ถนนที่เคยรถติดโล่งไปหมด จึงอยากแชร์สถานการณ์ในพื้นที่เชียงใหม่ให้ทุกคนได้ทราบกัน ว่าเราก็กำลังเผชิญสภาพแวดล้อมเหมือนเช่นทุกคน แล้วเราจะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ นี้ไปพร้อมกัน และขอให้สถานการณ์ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น สู้ ๆ ค่ะ