สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ประชาสัมพันธ์ชวนชมปรากฎการณ์ "ดาวหางนีโอไวส์" หรือ C/2020 F3 (NEOWISE) ที่จะโคจรผ่านโลกของเราในช่วงระหว่างวันที่ 18-23 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะสามารถเห็นดาวหางดวงนี้ได้ชัดเจนที่สุด ที่สำคัญคือกว่า 6,000 ปี ดาวหางดวงนี้ถึงจะโคจรผ่านมาให้เราได้เห็นอีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ภาพจาก : Shutterstock : Triff สำหรับข้อมูลดาวหางดวงนี้นั้น จะใช้ระยะเวลาวนรอบดวงอาทิตย์ถึง 6,767 ปี ถูกค้นพบจากนาซ่าเมื่อช่วงมีนาคมที่ผ่านมา มีลักษณะเป็นดาวหางคาบยาวที่จะมีหางชัดเจนถึง 2 แฉก หางส่วนบนจะมีความสว่างมากกว่าหางส่วนล่าง ภาพจาก : Unsplash : Diana Mutafova ประเทศไทยก็จะสามารถเห็นดาวหางนีโอไวส์ได้เช่นกัน โดยช่วงแรกจะเป็นช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะสามารถเห็นดาวหางนี้ในช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตำแหน่งใกล้ขอบฟ้ามาก แต่จะเห็นได้ยาก เนื่องจากแสงของดวงอาทิตย์กลบบดบังส่วนใหญ่ แต่ในช่วงหลังวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ จะสามารถเห็นดาวหางดวงนี้ได้ชัดเจนมากขึ้นในช่วงพระอาทิตย์ตกเป็นต้นไป สามารถสังเกตุเห็นได้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ **วันอังคารที่ 21 กรกฎาคมนี้ จะสามารถเห็นดาวหางได้อย่างชัดเจน เนื่องจากไม่มีแสงของพระจันทร์รบกวน ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 23 กรกฎาคมเป็นต้นไป ความสว่างของดาวหางดวงนี้จะค่อย ๆ มองไม่เห็นแล้ว ขอบพระคุณภาพจาก : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ แฮมขอแนะนำสถานที่ที่สามารถชมปรากฎการณ์ดาวหางนีโอไวส์นี้ได้ที่ 4 จุดสังเกตุการณ์ คือ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หอดูดาวภูมิภาคนครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และสงขลา โดยกิจกรรมในงานนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ส่วนเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในละแวกของพื้นที่จัดงานละก็ สามารถชมในพื้นที่โล่งแจ้งไม่มีทัศนียภาพตึกสูงรบกวน ชาวกรุงเทพ ฯ เองก็ขอแนะนำสะพานพระราม 8, ภูเขาทอง, ตึกไบหยก, ตึกมหานคร เป็นต้น ยังไงก็ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดปรากฎการณ์ครั้งสำคัญครั้งนี้ เพราะดาวหางดวงนี้กว่าจะมาให้เราเห็นอีกครั้งก็เกือบ 6,000 ปีเลยทีเดียว หรือปรากฎการณ์ดาวหางครั้งสำคัญที่จะได้เห็นใกล้ ๆ นี้อีกครั้งจะเป็น ดาวหางฮัลเลย์ ภายในปี 2061 หรือเกือบ 41 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว ***ภาพประกอบทั้งหมดมีการซื้ออย่างถูกต้องและส่งหลักฐานให้ทางบรรณาธิการเรียบร้อยค่ะ ***ภาพหน้าปก : Unsplash : Samuel PASTEUR-FOSSE