เมืองเล็กๆนามว่าลำพูน ทางผ่านไปเชียงใหม่ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมืองนี้มีเส้นทางปั่นจักรยานไว้พระทำบุญตามวัดอารามโบราณรุ่นเก่าสมัยทวารวดี เมืองเก่าลำพูนมีประวัติยาวนานย้อนกลับไปถึงเป็นพันปี เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรหริภุญไชยตามการอ้างในตำนานมูลศาสนาชินกาลมาลีปกรณ์กล่าวถึงเรื่องฤๅษีวาสุเทพเป็นผู้นำของพวกละว้าหรือเมงคบุตร ล่องจากแม่ปิงมาสร้างเมือง ต่อมามีการเชิญพระนางจามเทวีจากเมืองละโว้ พระนางเสด็จมาพร้อมกับช่างต่างๆ แพทย์ บัณฑิต และพระเถระอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ในช่วงพุทธศวตรรษที่ 13 ได้เกิดการผสมผสานกลืนระหว่างชาวละโว้กับชาวละว้าซึ่งเป็นคนพื้นเมือง พร้อมกับเผยแผ่พุทธศาสนาเข้าเมืองจนพัฒนาเป็นอาณาจักรใหญ่ในลุ่มแม่น้ำปิง พวกเราเริ่มเส้นทางที่วัดจามเทวีซึ่งมีเจดีย์เหลี่ยมหรือเจดีย์สุวรรณจังโกฏ ต้นทางของสถาปัตกรรมของอาณาจักรหริภุญไชย บางคนถึงกับเอ่ยว่า “ดูคล้ายกับปิรามิดขั้นบันไดของอียิปต์” ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้ามหันยศและพระเจ้าอนันตยศโอรสของพระนางจามเทวี เพื่อถวายพระเพลิงและบรรจุอัฐิธาตุของพระนางจามเทวี บางตำนานบอกว่าเป็นวัดที่พระนางจามเทวีสละสมบัติออกบวชที่นี้ เจดีย์เหลี่ยมหรือที่เรียกว่า เจดีย์สวุรรณจังโกฏ ก่อด้วยศิลาแลงลดหลั่นขึ้นไปห้าชั้น แต่ละชั้นมีซุ้มจระนำศิลปะทวารวดีตอนปลายด้านละสามซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปปั้นปางประทานอภัยรวม 60 องค์ ใครมาวัดนี้ต้องมาสักการะและชมต้นแบบศิลปกรรมของหริภุญชัย จากนั้นพวกเราก็ปั่นไปตามถนนจามเทวีเข้าวัดวัดมหาวัน วัดโบราณ สร้างขึ้นสมัยพระนางจามเทวีเมื่อแรกเดินทางมาครองเมืองหิริภุญไชย เป็นหนึ่งในวัดสี่มุมเมือง ต่อมาวัดนนี้ถูกปลูกสร้างขึ้นใหม่จนไม่หลงเหลือของเดิม วัดนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างข้าง เพราะเป็นแหล่งที่พบพระรอดและพระรอดหลวงซึ่งเป็นหนึ่งในพระเครื่องเบญจภาค กระจัดกระจายทั่วไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้านในมีศาลาสำหรับเช่าพระรอดอยู่ด้านใน “พระรอด” มีชื่อเรียกหลายชื่อ ทั้งพระพุทธสักขีปฎิมากร หรือพระหินดำ หรือแม่พระรอด ปัจจุบันประดิษฐานอยู่บนแท่นแก้วภายในวิหารหลวงหน้าประธาน พระรอดหลวงเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชร สลักจากหินดำ ปั่นออกมาจากวัดมหาวัน มาเจอกำแพงเมืองเก่าลำพูนที่เหลือจากการรื้อถอนในช่วงปี 2490-2500 แค่ช่วงหนึ่งจากเดิมที่สร้างล้อมรอบเมืองเป็นรูปหอยสังข์ แต่น่าเสียดาปัจจุบันเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ที่หมายถัดมาคือวัดสันป่ายางหลวง ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่วิจิตรสะดุดตาจนต้องแวะชม เดิมชื่อวัดขอมลำโพง มาที่นี้ต้องมาสักการะพระพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย ทำจากหยกเขียวและพระนางจามเทวีที่สลักจากหยกเช่นกัน ตัววิหารมีหลังคา 5 ชั้น มีช่อฟ้า 5 ตัว หมายถึง พระเจ้า 5 พระองค์ ด้านหลังอีก 3หมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา หมายถึงการปฏิบัติของพระพุทธเจ้าเพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพาน หน้า 5 รวมหลัง 3 รวมเป็น 8 หมายถึง ต้องปฏิบัติตามทางสายกลาง คือ มรรค 8 ได้ธรรมมัชฌิมา เรียกได้ว่าทุกมุมทุกซอกของอาคารซ่อนความหมายไว้ทั้งสิ้น ปั่นไปนอกเมืองเพื่อไปยังกู่ช้างกู่ม้า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์บรรจุซากช้างคู่บารมีของพระเจ้ามหันตยศ ชื่อปู่ก่ำงาเขียว ล่ำลือว่าฤทธิ์เดชมาก ส่วนงานำไปเก็บไว้ที่เจดีย์สุวรรณจังโกฎที่วัดจามเทวี ชาวลำพูนนับถือมาก บริเวณเดียวกันมีรูปปั้นช้างขนาดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวลดท้องช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ตัวเจดีย์มีลักษณะเป็นทรงกระบอกปลายมน สันนิษฐานว่าได้อิทธิพลมาจากเจดีย์ในพม่า สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ปิดท้ายทริปด้วยการปั่นวัดพระยืน ปั้นพระสกุลลำพูน นั้นคือ พระรอด พระคง พระลือ เพื่อนำไปบรรจุในเจดีย์ต่อเพื่อใส่กรุของวัด วัดพระยืนเป็นวัดเก่าแก่ที่เคยเป็นที่จำพรรษาของพระเถระผู้ใหญ่จากอาณาจักรสุโขทัยที่มาเผยแพร่พุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในล้านนา สมัยพระเจ้ากือนา ภายในวัดมีเจดีย์ทรงปราสาทที่งดงาม สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลการสร้างมาจากพุกาม ทั้งสี่ด้านของเจดีย์มีซุ้มจระนำขนาดใหญ่ยื่นออกมาเป็นมุมสี่ด้าน ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนสีเหลืองทองสูง 2 เมตร มียอดฉัตรประดับอยู่ด้านบน ขากลับแวะสักการะพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระธาตุคู่เมืองสร้างขึ้นราวพุทธศวรรษที่ 17 มีอายุเกือบพันปี บรรจุพระบรมสาริกธาตุ เป็นเจดีย์ทรงล้านนา หุ้มด้วยทองจังโกทั้งองค์ >>>ใครอยากปั่นจักรยานที่ลำพูนสอบถามข้อมูล และสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนกันยายน 2558 โทร. 0-2642-4426-8 หรือ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0-5327 6140-2