งานบุญเดือนเจ็ด ขึ้น 15 ค่ำ ทุกปี "วัฒนธรรมบุญบั้งไฟ" จะเกิดขึ้นแถบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดยโสธรและร้อยเอ็ด อำเภอพนมไพรจะขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัด ตามตำนานเล่าขานของเหล่าคนอีสานจะเรียกกันว่า “พญาแถน กับ พญาคักคาน” จะส่งสัญญาณลักษณ์หากันให้ฝนตกตามฤดูกาล เพราะเป็นช่วงหน้าฝน เก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ จากประสบการณ์ที่เคยได้ไปเที่ยวดูงาน จะมาเล่าให้ฟัง องค์ประกอบภายในงานมีไรบ้าง รวมไปถึงกิจกรรมในงาม กับสาวหน้ามน มีเสน่ห์ กับ “ฝน” จะพาไปดูกันเลย เหตุผลที่ชอบประเพณีบุญบั้งไฟ เพราะตัวเราเป็นคนชอบดูการแสดงและการตกแต่งรถแห่ขบวนมีความสวยงาม มีการใช้ผ้าลายไทยมาตกแต่งหรือของชำรวยอื่นๆมาเป็นองค์ประกอบ พอถึงวันจริงจะมีชายหญิงนั่งคู่กันในรถแห่ขบวน ที่เขาเรียกกันว่า “ผ่าแดง - นางไอ๋” มีนางถือป้ายค่อยเดินนำ และตามด้วยนางรำ ที่จะรำตามทางจนกว่าจะถึงเวทีการตัดสิน รถขบวนจะอยู่ลำดับสุดท้าย จุดเริ่มต้นที่ได้ไปท่องเที่ยว “ประเพณีบุญบั้งไฟ” นั้นมาจากแต่เดิมฝนเป็นภูมิลำเนาร้อยเอ็ด และได้กลับไปต่างจังหวัดเป็นช่วงเวลาประเพณีบุญบั้งไฟในหมู่บ้านพอดี แต่นั้นทำให้ฝนชอบและหวังว่าสักหวังจะมีโอกาสถือป้ายนำขบวนบ้าง และต่อมาได้เที่ยวงานบุญบั้งไฟที่อำเภอ “พนมไพร” ที่ขึ้นชื่อของ “บุญบั้งไฟแสน” ซึ่งจะงดงามมาก มีทั้งงานวัดที่จะจัดก่อนวันงาน พอถึงวันก็จะมีการแห่ขบวนนางรำ รถแห่มายัง “วัดกลาง” จนครบทุกตำบลที่ร่วมกิจกรรมพอร่วมเสร็จจะตัดสินทันทีภายในวันนั้น ตกเย็นก็จะมีคอนเสริต์ดนตรีประจำท้องถิ่น และอีกวันจะเป็นวันจุดบั้งไฟ แข่งขันการนับวินาที กิจกรรมบุญบั้งไฟจะจัดประมาณ 3-10 วัน นอกจากจะมีประเพณีบุญบั้งไฟขึ้นชื่อแล้วที่ เมืองพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ยังมีของกินที่ขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวปุ้นซาว” ที่น่าทาน คนจะหาร้านที่อร่อยสุด แต่นี้มักจะกินขาประจำ อย่าง “ป้าจิต” เวลากลับไปขายในตลาด ปัจจุบันได้เลิกขายไปแล้ว จะมีเจ้าอื่นมาแทน ขายกันหลายเจ้ามากแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะสนใจร้านไหนเป็นพิเศษ ฝนได้เก็บภาพบรรยากาศงานบุญบั้งไฟเมื่อปี 2560-2561 ซึ่งจะรวบรวมมาให้ได้ดูกัน ปีนี้ไม่มีโอกาสได้ไปเพราะติดภาระหน้าที่สำคัญ ปีหน้าจะไปเก็บบรรยากาศอีกครั้งและน่าจะงดงามเหมือนปีที่ผ่านมา อย่าลืมแวะมาดูกันนะ