อื่นๆ

เสียงไม่หลอน...ซ้อนวิญญาณ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เสียงไม่หลอน...ซ้อนวิญญาณ

เสียงดนตรีไทยดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ามีใครอยู่ใครห้อง เวลานั้นเป็นช่วงเวลาเกือบจะสี่โมงเย็น พวกผมกับพี่ๆกำลังเล่นวอลเลย์วอลอย่างสนุกสนาน เพราะเตรียมทีมไปแข่งกีฬาที่อำเภอ ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทีมของผมเป็นตัวแทนของโรงเรียน ทุกคนในทีมล้วนคาดหวังว่าอยากจะชนะในนัดแรก ทำให้ผมกับทุกคนมาเจอกัน ณ สนาม เวลาหลังเลิกเรียนของทุกๆวัน

ภาพประกอบ

ระหว่างที่ทุกคนตั้งใจซ้อม เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เหลือเพียงแสงแดดอ่อนๆสีแดงอมส้มผสมฟ้า ก้อนเมฆหลายก้อน เคลื่อนที่รวมตัวกันเป็นๆก้อน ก่อนกระจายตัวห่างกันออกไป ระหว่างซ้อมอยู่ๆก็ได้ยินเสียง เป็นเสียงเพลงทำนองดนตรีไทย ทุกคนในสนามหันหน้ามองกันโดยไม่ได้นัดหมาย เป็นเสียงของระนาดผสมกับฉิ่ง ทำให้ผมสงสัยว่าครูประจำห้องดนตรี ยังไม่กลับบ้านหรือเปล่า หรือคุณครูน่าจะซ้อมดนตรีอยู่ก็อาจเป็นได้ ผมจึงเลิกสนใจ แล้วกลับมาเล่นวอลเลย์บอต่อ แต่หลังจากซ้อมไป 30 นาที เสียงดนตรีดังขึ้นอีก ผมได้ยินเป็นเพลงบายศรีสู่ขวัญ ผมพูดกับเพื่อนในทีมว่า ครูยังไม่กลับบ้าน ไปดูคุณครูเล่นดนตรีกันไหม ถือซะว่าพักหายใจชั่วคราว ก่อนกลับมาซ้อมต่อ แล้วเพื่อนในทีมพูดว่า ไปๆ พวกผมพากันเดินไปที่อาคารทันที ระหว่างที่กำลังเดินก้าวขาขึ้นบันได ได้ยินเพลงเปลี่ยนไปเป็นอีกเพลง รู้สึกว่าจะเป็นเพลงมาร์ชประจำโรงเรียน พอได้ยินพวกผมก็ร้องเพลงตามทำนองอย่างเฮฮา ก่อนที่จะเดินไปถึงหน้าห้องดนตรี

Advertisement

Advertisement

พอถึงห้องดนตรี สังเกตว่าประตูปิดอยู่ ถึงกลับซะงัก! เพื่อนอีกคนพูดว่า มีใครอยู่ในห้องไหมครับ พูดสองสามรอบ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เสียงเพลงที่ได้ยินต่อจากเพลงมาร์ช อยู่ๆก็เงียบลงอย่างผิดปกติ ทุกคนเริ่มใจคอเริ่มไม่ดี บางคนกลัวรีบวิ่งหนีทันใด ส่วนผมกับเพื่อนสามคน ยังคงอยู่หน้าห้อง เพื่อนผมใช้มือเคาะประตูสองครั้ง ก่อนพูดว่า ขอนุญาตเข้าไปนะครับ เพื่อนใช้นิ้วกลางค่อยๆเปิดประตูเบาๆ แล้วชะโงกหน้าเข้าไปใน ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เพื่อนรีบปิดประตู ปั้ง! แล้วตะโกนว่า วิ่งสิพวก รออะไร! ต่างคนเริ่มขยับขาไม่ถูก ซ้ายขวาก่อนดี ก่อนวิ่งออกจากหน้าห้องดนตรี ระหว่างวิ่งมาถึงอีกห้อง ก่อนถึงบันได เพลงเริ่มเสียงดังขึ้นอีก เสียงมาอีกแล้ว หัวใจจะวาย ร้องเท้าหลุดไปข้างหนึ่ง เพราะเพื่อนที่วิ่งมาด้วยกัน เผลอเหยียบร้องเท้า ผมไม่เหลียวกลับมามองด้วยซ้ำ มืออีกข้างของผม ดึงชายเสื้อเพื่อน ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเกือบขาด พร้อมสบถคำหยาบสี่ห้าคำ ตอนวิ่งลงบันได ขาพลิกไปข้างหนึ่ง เจ็บไม่เจ็บไม่รู้ วิ่งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ระหว่างวิ่งเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงดังชัดกว่าเดิม ขนลุกไปหมดทั้งตัว คิดในใจแล้วว่า ผีหลอกอีกแล้ว "ในชีวิตนี้เจอแต่ผีมาหลอกมาหลอน ไม่จบไม่สิ้น หลอกแบบนี้ไม่ดี ถ้าจะให้ดี ต้องมาตัวเป็นๆ เข้าใจไหมผี เสียงความคิดที่ดังในหัวผม"

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

ผมวิ่งตามเพื่อนมาคนสุดท้าย ส่วนเพื่อนในทีมวิ่งออกมาก่อนหน้า ไปรออยู่หน้าโรงเรียนแล้ว ผมอยากจะกำพระให้แน่น แต่ลืมไปว่าผมไม่ได้ห้อยพระ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก เดี๋ยวโดนเพื่อนล้อ ตอนนั้นไม่แน่ใจ พวกผมร้องเสียงดังมากแค่ไหน เพราะครูอยู่หน้าอาคารอีกฝั่งตะโกนว่า เสียงดังอะไรกัน เบาๆหน่อย ผมเลยตอบว่าครูว่า พวกผมได้ยินเสียงเพลงดังมาจากห้องดนตรี แต่พอไปดู ไม่มีใครเลยครับ คุณครูตะโกนกลับว่า วิ่งมาเล่าใกล้ๆ ครูฟังไม่ชัด ผมกับเพื่อนรีบตรงไปหา ด้วยความที่ยังตื่นตระหนกตกใจ ผมให้เพื่อนเล่าให้ครูฟังว่าเกิดอะไรขึ้นจนจบ ครูตอบว่าครูอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งนาน ผ่านมาก็หลายรุ่น ยังไม่เคยได้ยินเสียงอะไร นอกจากเสียงพวกเธอหลายคนร้องกันเมื่อสักครู่ เพื่อนผมเลยตอบว่า ครูไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ แต่พวกผมได้ยินผ่านสองหู เห็นสองตาจริงๆ แล้วคุณครูพูดทิ้งท้ายว่า อย่าไปเล่าให้นักเรียนคนอื่นฟัง เอาเป็นว่ารู้ๆกัน และครูก็เข้าใจแล้ว ทำไมถึงเสียงดังกันขนาดนั้น จากนั้นผมกับเพื่อนกล่าวขอโทษที่ส่งเสียงดังรบกวน แล้วยกมือไหว้คุณครู ก่อนที่จะพาแยกย้ายกลับบ้าน

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกๆครั้งที่ไปซ้อมวอลเลย์บอล ทุกคนพยายามเอาหูฟังเสียบ... แต่ก็ไม่มีใคร ได้ยินเสียงดนตรีไทยเลยสักวัน "ราวกับว่าเสียงที่ได้ยิน ไม่เคยเกิดขึ้น"

ภาพประกอบ

-bobec | -educatepark.com
-thehouse.online  | -military.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์