หากคุณเคยมาเที่ยว "เมืองโคราช" หรือจังหวัดนครราชสีมาสักครั้งหนึ่ง คุณต้องไม่พลาด ที่จะมากราบไหว้สักการะย่าโม หรือท้าวสุรนารี วีรสตรีผู้ปกป้องเมืองโคราชในอดีต เพื่อเป็นสิริมงคล และหากคุณสังเกตอะไรให้มากกว่านั้น คุณจะพบว่ารอบๆเมืองโคราชนั้น ถูกล้อมรอบไปด้วยประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ วันนี้ผมจะพาทุกท่าน ย้อนเวลาประวัติศาสตร์กลับไปค้นหา ถึงยุคที่กำแพงเมืองเหล่านี้ ยังใช้เป็นป้อมปราการสงคราม ปกป้องตัวเมืองและชาวเมืองให้อยู่รอดปลอดภัยจากสงครามในอดีตมาได้อย่างไร พร้อมแล้วก็ตามผมมา.... ย้อนเวลากลับไปยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ในขณะนั้นสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้ครอบครองหัวเมือง รวบรวมแผ่นดินสยามอย่างมั่นคงในเวลานั้น รวมไปถึงเมืองนครราชสีมา ทรงโปรดเกล้าฯให้ สร้างเมืองนครราชสีมา ให้เป็นเมืองหน้าด่าน คอยป้องกันการรุกรานจากหัวเมืองอื่นที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับอยุธยา กำแพงเมืองและประตูเมืองถูกสร้างอย่างแข็งแกร่งแน่นหนา ยากต่อการบุกประชิดและรุกรานขึ้นในปี พ.ศ.2199 ซึ่งมีนายช่างชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพันธมิตรในขณะนั้น เป็นผู้ออกแบบผังเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคูเมืองล้อมรอบ และมีประตูเมืองพร้อมเชิงเทินสำหรับบัญชาการรบ สี่ประตู สี่ทิศ ได้แก่ประตูชุมพล เป็นประตูเมืองโบราณที่ปัจจุบัน ยังประกอบไปด้วยโครงสร้างเดิมนับตั้งแต่การสร้างในอดีต ประตูชุมพลนี้มีลักษณะเป็นประตูเมืองที่ถูกสร้างขึ้น ในทิศตะวันตกของตัวเมือง ก่อสร้างขึ้นด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐ ฉาบด้วยปูน ด้านบนเป็นหอบัญชาการรบที่สร้างด้วยไม้แก่น มีความแข็งแรงแน่นหนา ในอดีตถือเป็นจุดรวมพลของเหล่าทหาร จึงได้มีชื่อประตูนี้ว่า ประตูชุมพล มีความเชื่อลึกลับเกี่ยวกับประตูแห่งนี้คือ หากชายหรือหญิงใดได้ลอดประตูชุมพลนี้ 1 ครั้ง จะได้กลับมาเมืองโคราชอีกครั้ง หากลอด 2 ครั้ง จะได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโคราช และหากลอดครบ 3 ครั้ง จะได้คู่ครอง เป็นคนโคราช และนั่นก็เป็นความเชื่อของประตูชุมพล ที่หากใครอยากจะลองพิสูจน์ ก็ต้องลองดู ปัจจุบันประตูชุมพลนี้ ถือเป็นใจกลางเมืองของเมืองโคราช เป็นที่ตั้งของอนุเสาวรีย์ท้าวสุรนารี และยังใช้เป็นที่จัดงานกิจกรรมต่างๆของชาวเมืองโคราชอีกด้วยประตูพลแสน ประตูเมืองทางด้านทิศเหนือนี้ เดิมทีพังทลายลงไปหมดแล้ว และถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนครราชสีมา ประตูพลแสนนี้ ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ประตูน้ำ นั่นเป็นเพราะในอดีตนั้น ประตูพลแสนซึ่งมีคูเมืองล้อมรอบ ยังมีฝายสำหรับผันน้ำเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อให้ชาวเมือง ได้อาศัยอุปโภค บริโภค สาเหตุที่ประตูด้านทิศเหนือนี้ ได้ชื่อว่าประตูพลแสน เพราะเป็นการตั้งชื่อประตูเพื่อแสดงแสนยานุภาพ ในทำนองว่า แม้จะยกพลมาทำลายประตูฝั่งนี้ถึงแสนคน ก็ไม่สามารถจะทำลายกำแพงที่แข็งแกร่งแห่งนี้ลงได้ ประตูพลล้าน ประตูเมืองที่ถูกสร้างแทนประตูเมืองเดิมที่พังทลายลงไปตามกาลเวลา ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของเมือง ในอดีตมีความสำคัญคือเป็นปราการหน้าด่านด่านแรก เพราะหมายความว่า หากมีการรุกรานเมืองนครราชสีมา ข้าศึกมักจะบุกมาจากทิศตะวันออกนี้ซะส่วนใหญ่ ดังนั้นแสนยานุภาพและขวัญกำลังใจจึงปรากฏลงในชื่อประตูเมืองนี้ว่า "ประตูพลล้าน" นัยหนึ่งว่า แม้จะยกพลมาสักล้านคน ก็ไม่สามารถเอาชนะประตูเมืองแห่งนี้ไปได้กำแพงเมืองโบราณ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประตูพลแสน และประตูพลล้านเท่าไหร่นัก ยังมีกำแพงเมืองโบราณที่ยังหลงเหลือจากในอดีตให้เราได้เห็น เป็นกำแพงเมืองโบราณที่สูงราวๆ 5 เมตร บนกำแพงเป็นรูปใบเสมาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกำแพงเมืองโคราช ด้านบนเป็นเชิงเทิน ที่คนสามารถขึ้นไปเดินได้อย่างสบายๆ มีรูเจาะไว้สำหรับส่องดูข้าศึก ด้านในกำแพงยังสามารถเดินทะลุถึงกันได้อีกด้วย ในอดีตกำแพงเหล่านี้ จะตั้งอยู่ล้อมรอบตัวเมือง ดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขามไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับประตูไชยณรงค์ ประตูเมืองทางด้านทิศใต้นี้ ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ แทนประตูเมืองเดิมที่พังทลายลงไป ในอดีตบริเวณทิศใต้ของเมือง จะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีลักษณะเป็นหนองน้ำ มีน้ำท่วมขังแทบจะตลอดเวลา ทำให้การเดินทางสัญจรผ่านประตูทางทิศนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ทว่า คนที่ผ่านออกไปประตูนี้ คงเป็นเพียง คนตายเท่านั้น...........เพราะประตูนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ประตูผี" ความสำคัญของประตูเมืองทางด้านทิศใต้นี้คือ การใช้เป็นเส้นทางลำเลียงศพเพื่อออกไปด้านนอกตัวเมือง เพื่อนำไปยังป่าช้า ปัจจุบันถือเป็นย่านที่รถราพลุกพล่านวุ่นวาย ไม่หลงเหลือความน่ากลัวใดๆเหมือนชื่อประตูอีกต่อไปและนี่ก็คือเรื่องเล่าสนุกๆ ของตำนานเมืองโคราช ที่เล่าขานสืบต่อกันมา และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏอยู่ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา หากได้ลองมาเที่ยวที่จังหวัดนครราชสีมา คุณจะได้พบกับร่องรอยอารยธรรมในสมัยโบราณ ที่ยังหลงเหลือไว้ให้เราได้เห็น จงหลับตาใช้จินตานาการมองย้อนไปในอดีต เมืองหน้าด่านแห่งนี้ ในอดีตเคยรุ่งเรืองเฟืองฟู และเป็นหัวเมืองที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น ดินแดนเมืองโคราช เมืองแห่งนี้ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราว ให้ผมได้นำมานำเสนอให้อ่านกัน หากสนใจก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ต้องลาไปแล้ว แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้า สวัสดีครับ...#เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่นCredit ภาพ : Jirawat Suttipittayasak