อื่นๆ

มันเป็นใคร??

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
มันเป็นใคร??

มันเป็นอีกหนึ่งวัน ที่แสนจะเหนื่อยล้า เป็นอีกหนึ่งวัน ที่รู้สึกเพลียร่างกาย และผมต้องการการพักผ่อนอย่างเร่งด่วน สามทุ่มแล้ว ผมเพิ่งออกจากออฟฟิศ ซึ่งโดยปกติแล้ว ผมควรจะได้กลับบ้านตั้งแต่สองทุ่ม แต่หากไม่ติดว่าต้องสะสางงานที่ค้างคาในออฟฟิศให้เสร็จทันเวลา ป่านนี้ผมคงนอนหลับปุ๋ยสบายใจไปบนเตียงแล้วเรียบร้อย ผมรีบขับรถมอเตอร์ไซค์คันสีดำคู่ใจ ออกจากออฟฟิศ มุ่งตรงไปยังบ้าน ที่ห่างไกลออกไปจากออฟฟิศยี่สิบกว่ากิโลเมตร ใจหนึ่งผมก็กลัวว่าจะหลับในเสียก่อน ที่จะถึงบ้าน ผมจึงแวะร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ซื้อกาแฟมาดื่มสักหนึ่งแก้วพอให้หายง่วง  แล้วฝืนใจขับรถต่อไป หวังจะให้ถึงบ้านโดยเร็ว แสงไฟหน้ารถที่สาดส่องไปบนถนน ยังพอมีแสงรำไรจากเสาไฟข้างทาง ที่ส่องมาเป็นระยะๆ ผมมองเห็นหมาดำตัวหนึ่งกำลังจะวิ่งตัดหน้ารถเพราะไล่กวดหมาอีกตัวที่อยู่ริมฝั่งถนน  ผมกำเบรคและเลี้ยวหลบอย่างชำนิชำนาญ เหอะ.....แค่นี้ ไม่ได้แอ้มกูหรอก แม้จะง่วง แต่สติสัมปชัญญะ ยังอยู่ครบ

Advertisement

Advertisement

ใช้เวลาเพียงแค่เกือบครึ่งชั่วโมง ผมก็พาตัวเองมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่สีชมพู ซึ่งเป็นบ้านของแม่ ผมเองแม้จะเป็นหนุ่มวัยผู้ใหญ่ โตพอที่จะหาเงินด้วยตัวเอง แต่ก็ยังอาศัยบ้านของแม่ พักเป็นที่ซุกหัวนอน และถือโอกาสช่วยกันดูแลเอาใจใส่แม่ไปในตัวด้วย ทันทีที่ผมเปิดประตูบานเลื่อนที่บัดนี้ ล้อเลื่อนฝืดเพราะสนิมที่จับ ทำให้เกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ท่ามกลางความเงียบสงัดของกลางดึก และเสียงหรีดหริ่งเรไรตามธรรมชาติที่ส่งเสียงร้องระงม หน้าบ้านเปิดหลอดไฟไว้เพียงหลอดเดียว นอกตัวบ้านนั้นมืดมิดเพราะบ้านหลังนี้ เป็นบ้านจัดสรรที่ไม่ค่อยมีคนมาอาศัยอยู่มากนัก ด้วยเหตุผลที่ว่ามันค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แต่นั่นก็ทำให้บรรยากาศที่นี่ สงบเงียบที่สุดเช่นเดียวกัน

แมวตัวผู้ตัวโตสีส้มกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาต้อนรับที่หน้าบ้านพร้อมส่งเสียงร้องเมี้ยวๆ คงแอบหนีเที่ยวอีกล่ะสิท่า.....มันมีชื่อว่า "นำโชค" นับตั้งแต่ผมกับแม่ย้ายบ้านจากตัวเมืองมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ผมก็พามันมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย มันเป็นแมวที่แม่รักมาก และผมก็เช่นเดียวกัน ผมไขกุญแจเข้าบ้าน เปิดประตู และก้าวเท้าเข้าบ้านเหมือนอย่างที่เคยเป็นในทุกวัน เพียงแต่วันนี้มันดึกมากกว่าปกติ เจ้านำโชคแอบเผลอตามเข้ามาในบ้าน บ้านทั้งบ้านเงียบสงัด แม่กับน้องสาว คงเข้านอนแล้ว เหลือผมเพียงผู้เดียวที่ยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางความมืดในบ้าน กับเจ้าแมวส้มคู่ใจ ผมสาวเท้าขึ้นบันไดบ้านโดยไม่เปิดไฟ เพราะเคยชินกับการเดินในยามค่ำคืนในบ้านเสียแล้ว และแล้วก็มาถึง ห้องส่วนตัวของผมเอง

Advertisement

Advertisement

ผมถอดถุงเท้า โยนกระเป๋าลงบนโต๊ะ ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแผ่หราอย่างเหนื่อยล้า ไม่อยากแม้แต่จะลุกไปเปิดไฟ ไม่แม้แต่จะคิดลุกไปอาบน้ำ ของีบสักหน่อยน่า....แล้วค่อยลุกไปอาบน้ำ.....สุดท้าย กลายเป็นเผลอหลับไปด้วยความเพลีย นานเท่าไหร่ ก็ไม่รู้

สวบสาบสวบสาบ.........เสียงถุงพลาสติกใส่ขวดน้ำจากร้านสะดวกซื้อบนโต๊ะ ที่จู่ๆก็ดังขึ้นมา ปลุกผมขึ้นมาจากนิทรา ผมลืมตาเบิกโพลงอยู่ในความมืดมิดภายในห้องนอนที่ปิดไฟมืด นี่มันดึกเท่าไหร่แล้ว น้ำก็ไม่ได้อาบ แล้วนี่เราหลับไปนานเท่าไหร่แล้วนะ แล้วนั่นมันเสียงอะไรกัน??

เสียงนั้นเงียบหายไปแล้ว แต่ทว่าความรู้สึก เหมือนที่ปลายเตียงจะยวบลง คล้ายกับมีใครมานั่งอยู่ที่ปลายเตียง ผมพยายามไม่สนใจ หลับตา นอนหงาย เอาผ้าห่มคลุมตัว แค่อึดใจเดียวเท่านั้น มันเป็นความรูู้สึกที่สัมผัสได้ว่า มีบางอย่าง กำลังคืบคลานอยู่ใต้ผ้าห่ม มันค่อยๆคืบคลานขึ้นมา น้ำหนักที่ถาโถมลงไป ค่อยๆเพิ่มจากบริเวณต้นขา ไล่มาส่วนกลางลำตัว จนกระทั่งรู้ตัวอีกที น้ำหนักของมันก็มาทับอยู่หน้าอกของผม มันนั่งชันขาเหยียดตัวขึ้น จนผ้าห่มที่ห่มอยู่โป่งขึ้นไป ผมพยายามหลับตา ไม่กล้าเหลือบตามอง ในใจคิดถึงพ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย แต่ทว่าน้ำหนักที่ทับถาโถมลงมาบนหน้าอก ยิ่งทวีคูณขึ้น จนผมเริ่มหายใจไม่ออก

Advertisement

Advertisement

พลันกันนั้น กลิ่นเหม็นสะอิดสะเอียนโชยมาแตะริมจมูกแผ่วเบา มันเป็นกลิ่นเหม็นเน่า ชวนคลื่นใส้อาเจียนอย่างยิ่งยวด ผมเริ่มสวดมนต์พึมพำๆ อะระหังสัมมา..... แต่กลิ่นนั้น ไม่มีวี่แววจะจางหายไป พร้อมกับน้ำหนักที่ถาโถมทับหน้าอกนั้น ยิ่งทำให้ผมหายใจไม่ออกขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ไหวแล้ว!!

มันเป็นใครกัน??? ผมคิดอยู่ในใจ ไม่กล้าเบิกตามองดู แต่เพราะกลิ่นเน่าและน้ำหนักที่โถมทับลงมาบนหน้าอก ทำให้ผมอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมตัดสินใจลืมตาเบิกโพลงในความมืด.......

สิ่งที่เห็น ทำเอาผมแทบขาดสติ ดวงตาคู่นั้น จ้องมองมาที่ตาของผม นัยตามันเบิกโพลงในความมืดดูน่าสยดสยอง มันใกล้มาก ริมฝีปากของมันยังมีเศษซากบางอย่าง ติดอยู่ที่มุมปากขวาของมัน.....มันใกล้มากจนหน้าของมัน แทบจะชนหน้าของผมอยู่แล้ว ร่างของมันทับโถมอยู่บนหน้าอกของผมจนผมหายใจไม่ออก กลิ่นเหม็นเน่าปนเหม็นสาปยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก เสียงของมันครางฮือๆ อยู่ในลำคอ ฟังแล้วชวนขนลุก และแล้วความอดทนของผมก็ขาดผึง ผมรวบรวมสติและความกล้า พูดออกไปด้วยเสียงดัง.........

ผีอำ

"ไอ้นำโชค!!! ไอ้แมวบ้า นั่งทับกูแล้วยังตดใส่หน้ากูอีก ไป๊!!!"

ผมลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือเปิดไฟที่หัวเตียง แมวส้มตัวอ้วนน้ำหนักหลายกิโลที่นั่งทับบนหน้าอกกระโดดเผลอหลบไป พลางร้องเมี้ยว มุมปากของมันยังมีเศษขาแมลงสาบติดอยู่ มันแอบตามเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ.....โธ่ ถึงเวลาต้องไปอาบน้ำเสียที.......

Credit ภาพ : https://petmaya.com/20-sleep-paralysis-exp-arts

Credit ภาพปก : https://www.msn.com/th-th/news/thailand-election-2019/%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B3-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88-aac1kkc/vp-AAC1kKC

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์