ย้อนไปเมื่อไกลโพ้น...ในช่วงที่ดิฉันยังเป็นเด็ก ขอนแก่นยังเป็นเมืองที่เงียบสงบ ถนนมิตรภาพ ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญของจังหวัดเรายังเป็นถนนสองเลนที่ไม่ค่อยมีรถราสัญจรผ่านนัก ถึงขนาดที่ว่าแกงค์เด็กๆของดิฉันสามารถออกไปยืนตีแบดมินตันกลางถนนมิตรภาพได้จนจบเกมส์ นานๆถึงจะมีรถยนต์วิ่งผ่านมาให้พวกเราต้องถอยหลบออกมายืนรอข้างสนามสักที ผิดกับปัจจุบันนี้ที่ถนนมิตรภาพกว้างอย่างกับสนามฟุตบอล แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆแล้วก็คงไม่มีใครอยากก้าวเดินลงไปเสี่ยงชีวิตบนถนนสายนี้เป็นแน่ และแล้วด้วยระยะทางแห่งความเจริญก็ค่อยๆถูกทำให้สั้นลงๆ ร้านรวงที่ปรากฏภาพในโฆษณาโทรทัศน์เริ่มทยอยกันเปิดสาขาในห้างเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของเรา ใครได้ลิ้มลองย่อมบ่งบอกว่าเป็นคนเก๋ เป็นคนมีระดับ เพราะราคาอาหารแต่ละอย่างแตกต่างจากอาหารทั่วๆไปที่วางขายในท้องถิ่นของเรามาก ดิฉันจะได้สัมผัสอารยธรรมต่างชาติก็ต่อเมื่อน้าสาวผู้มีฐานะดีเดินทางมาเยี่ยมจากต่างอำเภอ หรือในโอกาสที่เพื่อนๆในกลุ่มเลี้ยงฉลองวันเกิดเท่านั้น พิซซ่า คือ หนึ่งในอาหารที่ดิฉันโปรดปราณเป็นพิเศษ แต่ด้วยราคาที่แพงแสนแพง นานๆถึงจะมีโอกาสได้กินซักครั้ง เมื่อฐานะทางบ้านเริ่มปลอดโปร่งดิฉันจึงได้เริ่มซื้อวัตถุดิบในการทำพิซซ่ามาทำกินเองกับแม่ เราสองคนจึงได้เรียนรู้ว่า... เพราะวัตถุดิบมันแพงนี้เอง ราคามันถึงได้แพง 55555 กินที่ร้านก็ราคาพอๆกับทำกินเอง แถมยังไม่ต้องเหนื่อยด้วย แต่การทำพิซซ่ากินเองทำให้เราเรื่องมากแค่ไหนก็ได้ ไม่ชอบอะไรก็ไม่ต้องใส่ ไม่ต้องเกรงใจใคร ดิฉันและแม่ชอบพิซซ่าแป้งบางกรอบ เราไม่ชอบซอสมันๆเลี่ยนๆ เราจึงใส่ซอสมะเขือเทศที่ทำเอง หรือใส่ซอสพริกในการทำพิซซ่า จากนั้นก็กระหน่ำใส่ผักที่เราชอบลงไป เมื่อตอนเรียนอยู่ต่างประเทศพิซซ่าที่ทำกินเป็นประจำคือพิซซ่าหน้าแองโชวี่ พูดง่ายๆบ้านๆ ก็คือหน้าปลาร้านี่แหละ ด้วยความที่เรื่องมากกับพิซซ่าเป็นพิเศษ เราจึงลดปริมาณในการกินพิซซ่าตามร้านต่างๆลง แล้วทำกินเองเป็นส่วนใหญ่ แต่แล้ววันนึงบุพกรรมก็ทำให้เราได้พบร้านพิซซ่าที่ดีงามในสามพิภพร้านนี้! ตอนแรกเราก็เดินผ่านๆ แต่พออ่านป้ายชื่อร้าน เห็นวัตถุดิบและการปรุงพิซซ่าของน้องเจ้าของร้านแล้ว เราแทบหยุดหายใจ..... "หือ.....น้องเอากำไรจากตรงไหนคะเนี้ย" นั้นคือคำถามแรกที่เราถามน้อง น้องยิ้มแย้มแล้วเล่าเรื่องราวความเป็นมาของพิซซ่าแป้งข้าวพื้นบ้านของน้องว่า น้องทำแป้งเอง ทำซอสเอง ทดลองปรับสูตรไปมาจนได้เป็นแป้งพิซซ่าสีม่วงอ่อนมุ้งมิ้ง และวัตถุดิบแต่ละอย่างก็เป็นของดีมีคุณภาพทั้งนั้น แต่น้องตั้งราคาขายพิซซ่าอยู่ที่ ถาดเล็ก40 บาท และถาดใหญ่ 60 บาท เท่านั้น! เราถึงได้ถามน้องออกไปว่าน้องเอากำไรจากตรงไหนคะ แค่บรรจุภัณฑ์ของน้องก็ตกไปชิ้นละหลายบาทแล้ว แต่นี่น้องก็ตั้งราคาเหมือนขายเอาความสุขใจ ทำธุรกิจเอาผลบุญ ประกอบกิจการเพื่อเอากุศลยังไงอย่างงั้น น้องกลัวว่าคนทั่วไปจะคิดว่าพิซซ่าของน้องราคาแพงและไม่เข้ามาอุดหนุน ดิฉันผู้รู้ราคาวัตถุดิบเป็นอย่างดีถึงกับอยากพุ่งเข้าไปกอดให้กำลังใจน้อง กลัวน้องจะแบกรับความเหน็ดเหนื่อยนี้อยู่ได้ไม่นาน ในวันนั้นดิฉันและเพื่อนสนิทเลยอุดหนุนพิซซ่ากันไปหลายถาด บอกตามตรงว่าแค่เห็นแป้งเห็นวัตถุดิบ ก็รู้แล้วว่าพิซซ่าของน้องต้องมีรสชาติละมุนละไม ถูกอกถูกใจสาวกพิซซ่าแน่นอน เป็นการซื้อของกินที่โคตรกินใจ โคตรซึ้งในน้ำใจคุณน้องแม่ค้า น้องมีใจรักจริงๆนะ ไม่งั้นไม่ใส่ใจทุกร้ายละเอียดแบบนี้แน่ๆ ฮือ....... อยากบอกน้องมากๆว่า ขึ้นราคาก็ได้นะ มาเล่าถึงความดีงามของพิซซ่ากัน แป้งพิซซ่าของน้องเป็นแบบบางเหนียวนุ่ม ถ้าอยากกินบางกรอบแนะนำให้ซื้อกลับไปให้ถึงบ้านแล้วไปอบต่อเอง อยากกินกรอบแค่ไหนก็กรอบได้ตามใจปรารถนาเลยจ้ะ... ซอสที่ใช้เป็นซอสที่น้องปรุงขึ้นมาเอง รสชาติมันจัดจ้านเข้มข้นอร่อยดี แบบเฮ้ย!...อะไรอะ! ทำได้ไงอะ! เก่งจัง พอดี๊....พอดี... รสกลมกล่อมมากเว่อร์ไม่ต้องกลัวเค็มไตวาย ไม่เปรี้ยวโดด ไม่หวานแปลก แล้วซอสน้องทำมาสดใหม่ทุกสัปดาห์นะ คือครั้งแรกที่กินอะ พอซอสมันเข้าปากไปภาพตอนที่เรายืนชิมซอสมะเขือเทศจากกระทะอยู่ในครัวก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที มันสัมผัสได้ถึงความสดความหวานของมะเขือเทศจริงๆ ทำจากใจจริงๆเหมือนทำกินเองอะ กล่าวถึงหน้าพิซซ่าของน้องเป็นหน้ามังสวิรัส นี่คือถูกใจมากเพราะดิฉันเป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก และมีแม่ผู้ไม่กินเนื้อสัตว์ใดๆ การพบพิซซ่าหน้าผักราคามิตรภาพคือเรื่องดีชองชีวิตจริงๆค่ะ แล้วน้องเลือกสรรผักมาได้แบบลงตัวพอดิบพอดีมีความกลมกล่อมละมุนมาก..... แล้วน้องใช้มอสซาเรลล่าซีสแท้ๆ พิซซ่าของน้องจึงหอมซีสตลบอบอวลแบบจริงจังมากๆ ยิ่งเวลาหยิบพิซซ่าขึ้นมากินแต่ละที ซีสก็ยืดยาว....เป็นทาง มันถูกเรื่องถูกราวสมกับการเกิดมาเป็นพิซซ่าจริงๆ ถ้าความสุขจากการตกหลุมรักมันชุ่มชื่นหัวใจยังไง ความสุขจากการได้กินพิซซ่านี้ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นอกจากความใส่ใจในสินค้าและบริการแล้ว น้องยังเป็นแม่ค้าผู้อ่อนโยนมากๆอะ ความตั้งใจและความสุขจากการที่ได้ทำสิ่งที่รัก มันฉายออกมาอย่างชัดเจนในแววตาและทุกคำตอบที่จริงใจของน้องจริงๆ ถ้าใครได้พูดคุยกับน้องก็จะรู้สึกได้ถึงพลังบวกๆๆๆอันมากมายมหาศาล ที่พุ่งออกมาจากสีหน้าและแววตาของน้องเขาเลยหละค่ะ ใครอยากไปเจอแม่ค้าผู้ทำพิซซ่าด้วยรักและหัวใจ เชิญไปพบน้องได้ที่ตลาดนัดออร์แกนิก ทุกวันอาทิตย์ และวันจันทร์ ณ แฟรี่พลาซ่า เวลาประมาณบ่ายสองโมง จนถึงสามทุ่มนะคะ ไปให้กำลังใจน้องเยอะๆ เราจะได้มีร้านพิซซ่าดีๆอยู่กับเราไปนานๆ เนาะ เย้!