อื่นๆ

ที่แห่งนี้เคยเป็นสุสานเด็ก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ที่แห่งนี้เคยเป็นสุสานเด็ก

ตอนเด็กๆ มีใครเคยคุยกับสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นไหน สมัยที่ผมอายุ 5-6 ขวบ ผมได้ไปที่ไร่กับปู่กับย่าที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นเห็นว่าปู่จะปลูกป่ายาง เลยได้เอาผมไปด้วย ตอนนั้นผมยังเด็กมากแต่ย่าบอกว่าผมเลี้ยงง่าย บอกอะไรก็ทำบอกห้ามทำอะไรก็ไม่ทำ ตอนนั้นย่ากับปู่เอาผมนั่งไว้ที่หลังกระบะรถ แล้วปู่กับย่าเดินไปคุยกับคนที่จะมาไถ่ที่ให้ พอกลับมาก็ได้ยินผมคุยกับใครก็ไม่รู้ ย่าบอกว่าคุยเหมือนเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน มีเสียงถามกัน คุยกันและหยอกล้อเล่นกัน

รูปที่หนึ่งย่าเลยมาถามว่าคุยกับใคร ผมก็ชี้ไปที่หลังกระบะ พร้อมบอกว่า "เพื่อน" ตอนนั้นย่าเลยตัดสิ้นใจเรียกปู่และให้พาผมกลับบ้าน แต่ที่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านของปู่ บ้านหลังปัจจุบันที่ผมอยู่คือบ้านย่า พอมาถึงที่บ้านย่าก็ได้ถามว่าเพื่อนอยู่ไหน ตอนนั้นย่าอุ้มผมมานั่งที่ข้างในรถ ผมก็บอกว่าเพื่อนอยู่ข้างหลังรถและย่าก็ถามว่ามีกี่คน ผมก็บอกว่า 5 คน ชาย 3 หญิง 2 ความเชื่อของย่าตอนนั้นคือให้ปู่ขับรถเข้าไปในวัดและค่อยไปออกอีกประตูหนึ่ง และพอถามผมอีกผมก็ได้บอกว่าเพื่อนหายไปแล้ว ย่าเลยปลอบว่า "เอาเพื่อนมาส่งวัด เพื่อนกลับบ้านกับเราไม่ได้" แต่เมื่อตกดึกมา ผมก็ร้องไห้ทั้งคืนเลย โดยที่ย่าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนั้นผมเองก็เด็กมากจนจำอะไรไม่ได้เลย แต่ผมก็เชื่อที่ย่าเล่าให้ฟัง

Advertisement

Advertisement

รูปที่สอง

จนเช้าวันต่อมาปู่กับย่าก็ได้พาผมไปที่วัดและให้หลวงพ่อที่อยู่วัดนั้นผูกสายสิญจน์ให้ และก็ไปที่สวนนั้นอีกกับพระ พระท่านบอกว่าเมื่อก่อนที่แห่งนี้เป็นที่ฝั่งศพเด็ก อาจเป็นไปได้ที่หลาน (ผม) เห็นเด็กมาเล่นด้วย แต่ในขณะที่กำลังทำพิธีอยู่ ผมก็ร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ ย่าเลยเอาสร้อยพระใส่ให้ผม แต่พระบอกว่าผมไม่ได้โดนผีเข้า อาจเป็นเพราะผมคงจะเห็นอะไรที่มันน่ากลัวเกินไป  อาจจะเป็นผมเห็นเด็กเหล่านั้นโดนทำร้าย หรือไม่ก็พวกเขาอาจจะมีหน้าตาที่น่ากลัว

จนย่ากับปู่มีความคิดเห็นตรงกันว่าจะไม่เอาที่ตรงนั้น ปู่เลยตัดสินใจเขาที่แปลงนั้นให้พี่ชายแบะน้องชายปู่ และในวันเดียวกันปู่กับย่าก็พากลับบ้านที่อยู่ขอนแก่นเลย เพราะเกรงว่าผมจะได้รับอันตราย เลยพากลับพอมาถึงบ้านผมก็เป็นเด็กธรรมดา พอย่าถามว่าเห็นเพื่อนตามมาไหม ผมก็บอกว่าไม่ และพอมาถึงบ้านย่าก็ได้ไปบอกพวกลุงป้าแถวบ้านให้มาผูกแขนรับขวัญผม ย่าบอกว่าตอนนั้นผมตัวเล็กสายสิญจน์เต็มแขนเลย

Advertisement

Advertisement

รูปที่สาม

และย่าพึ่งมาเล่าให้ผมฟังตอนที่ปู่เสียชีวิตแล้วว่าเมื่อก่อนผมเห็นผี อาจเป็นเพราะเหตุนี้ผมเลยเห็นเหตุการณ์ประหลาดนี้ได้ "ปริศนาที่สวนหลังบ้าน" (สามารถอ่านได้นะครับ) และเวลามีญาติที่นู้นเสีย หรือไปงานบุญที่จังหวัดนั้น เวลาผมไปผมก็ต้องใส่สร้อยพระไว้ตลอด และถ้าผมใส่สร้อยพระนั้นผมก็จะมองไม่เห็นสิ่งลึกลับ ผมเลยเลือกที่จะไม่ใส่ และใส่เมื่อยามจำเป็นเท่านั้น  เพราะบางทีพวกเขาก็มาดี


ขอบคุณที่อ่านนะครับ ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์