อื่นๆ

ของรับขวัญจากเธอคนนั้น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ของรับขวัญจากเธอคนนั้น

ตอนที่แม่คลอดน้องออกมาแล้วฉันและครอบครัวก็ไปเฝ้าแม่กับน้องรอรับกลับบ้านทั้งคู่ พวกเรายังแซวกันเล่นอยู่เลยว่าน้องเกิดวันไม่ดี เกิดวันศุกร์ที่ 13 พอดีและแม่เองก็ไม่ได้เครียดอะไรเพราะเรานับถือพุทธจึงไม่ได้มีความเชื่อตรงนั้น

คนเฒ่าคนแก่ตั้งแต่โบราณบ้านของฉันนั้นห้ามอย่างเด็ดขาดว่าห้ามชมเด็กเกิดใหม่ว่าน่ารัก น่าทะนุถนอม น่าเอ็นดูเพราะกลัวว่าผีจะมาแย่งน้องไป

พวกเราก็ฟังไว้เฉยๆแต่ดูเหมือนผู้ใหญ่จะเคร่งกับเรื่องนี้มากๆ ไม่ว่าจะเด็กทารกหรือเด็กที่กำลังโต นาทีนั้นฉันเห่อน้องมากกว่าคิดถึงเรื่องนี้ เราคอยเฝ้ามาแวะเวียนดูน้องเสมอ น้องเราตอนนั้นตัวยังแดงๆเล็กๆอยู่เลย ดูแล้วอยากจะหอมเอามากๆแต่โดนแม่ด่าทุกครั้งเวลาที่เรามาเล่นใกล้น้อง พวกญาติๆเพื่อนบ้านพากันมารับขวัญน้องชายกันเต็มบ้านถมยังมีของให้เวลารับขวัญหลานด้วย เรียกได้ว่าตอนนั้นของของน้องเต็มบ้านเลยทีเดียว

Advertisement

Advertisement

“ซุมนี้บ่พากันไปอาบน้ำอย่ามาใกล้น้องหลาย” แม่เองก็กลัวว่าน้องจะติดเชื้อโรคแบคทีเรียจากเราที่เพิ่งไปวิ่งเล่นมาเหนื่อยๆ ฉันเองก็ได้แต่ทำหน้าขัดใจที่ไม่ได้เล่นกับน้องแต่ก็เข้าใจว่าเด็กบอบบางแค่ไหน ยิ่งก่อนน้องจะเกิดมาก็ต้องลุ้นผ่านความเป็นความตายมา น้ำหนักตอนคลอดนิดเดียวน้อยกว่าฉันตอนเกิดมากทีเดียวแม่จึงดูแลมากเป็นพิเศษ เรียกว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลย

“หนูเล่นกับน้องแป๊บเดียวไม่ได้เหรอ” ฉันเองก็ขอต่อรองกับแม่อีกหน่อย เห็นน้องตัวเล็กๆแล้วมันเขี้ยวบอกไม่ถูกจริงๆ

“บ่ๆ อย่ามายุ่งกับน้องแม่แห่งแต่หนหวยอยู่” แม่ดุเราไม่ดังนักเพราะน้องกำลังจะนอน ฉันจึงจำยอมถอยออกไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากจะกวนแม่นัก ช่วงหลายวันมานี้แม่จะดูเหนื่อยล้ากว่าที่เคยเป็นบางทีก็นอนหลับกลางอากาศเลยก็มี

ก็คงไม่แปลกสำหรับพ่อแม่ทุกคนที่ต้องตื่นมาดูลูกกลางดึกทุกคืน

Advertisement

Advertisement

ตกดึกคืนนั้นฉันต้องสะดุ้งตื่นพร้อมกับคนอื่นๆในบ้าน ลุกขึ้นมาอย่างงัวเงียตามเสียงร้องของน้องชายที่ขยันร้องไห้ลั่นบ้านทุกคืนเหลือเกิน

วันนั้นจำได้ว่าพ่อกับแม่วิ่งวุ่นกันมากเพราะน้องร้องไม่หยุด แม่ทั้งกอด ทั้งอุ้มปลอบประโลมแต่ก็ยังร้อง ไอ้เราก็เปิดไฟดูจนสว่างทั่วบ้านเพราะเริ่มตาสว่าง ยายและแม่พากันทั้งชงนมทั้งเปลี่ยนผ้าให้น้องแต่ผลก็คือยังเหมือนเดิม น้องร้องไม่หยุด

น้องสาวของฉันเองก็มาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วจู่ๆก็พูดขึ้นมาพร้อมทั้งชี้ไปยังหลังของน้องชาย ซึ่งนั่นทำให้แม่และยายตกใจแทบบ้า

“แม่รอยอะไรอ่ะ คือช้ำแท้”

มือ ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

“เห้ย! ฮอยอิหยังนี่ ฮ่วย…หลังลูกข่อยไปถืกอิหยังมาเดี๋ยวเนี่ย” แม่น้ำตาไหลเป็นห่วงมาก ด้านหลังของน้องรอยช้ำเป็นจ้ำๆเต็มหลังเลยทีเดียว ไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำว่าไปโดนอะไรมา

Advertisement

Advertisement

“บ่แม่นแมงตอดหลานกูติฮึ” ยายบอกแม่พลางอุ้มน้องไว้ในอ้อมอก พวกเราพากันทั้งพลิกดูผ้าดูอะไรแถวนั้นก็ไม่มีแมลงสักตัว ยายเห็นท่าไม่ดีจึงอุ้มหลานพาขึ้นไปนอนด้วยบนห้องพระด้วยกันซึ่งเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากที่น้องหยุดร้องไปเลย

ตั้งแต่นั้นมาหลายคืนยายก็พาน้องไปนอนที่ห้องพระทุกๆคืน แล้วอาการช้ำที่หลังก็หายไปด้วยแต่ก็เป็นใหม่อีกเรื่อยๆ ฉันได้ยินแม่พ่อกับยายคุยเครียดอยู่เรื่องที่น้องเป็นแบบนี้ทุกคืน ยายเหมือนจะรู้ว่าอะไรทำให้น้องเป็นแบบนั้นเพราะช่วงรับขวัญหลานที่น้าโอกับเมียของแกมาเยี่ยม ยายก็เริ่มสะกิดใจตอนนั้น

เมียของน้าโอเคยบอกยายว่าตอนก่อนวันทำบุญรับขวัญหลานก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆหน้าบ้านแต่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย พวกแกก็เลยไปถามว่ามาหาใคร ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าแม่ของเธอรู้จักยายดีแต่มารับขวัญหลานไม่ได้ก็เลยฝากของมาให้ น้าโอก็เลยรับของแทนแถมทำท่าจะถามไถ่แต่ยังไม่ทันได้ถามเลยเธอก็ขอตัวกลับไป

ตอนนั้นแขกมาหาหลายคนยายก็เลยรับฟังแบบผ่านๆไปเท่านั้น พอถึงตอนนี้ยายก็เริ่มเอะใจจึงตัดสินใจให้แม่กับพ่อช่วยกันหาของขวัญที่ผู้หญิงคนนั้นฝากมาให้แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอะไร แม่เลยโทรไปถามน้าโอกับเมียก็ได้ความว่าของที่ผู้หญิงคนนั้นเอามาให้เป็นโมบายรูปดวงดาวดวงจันทร์เทือกๆนั้น

พอได้ยินปุ๊บแม่ก็หันขวับไปมองโมบายที่แขวนอยู่เหนือเปลของน้องทันที แม่จำได้ว่าตอนแรกกำลังจะเปลี่ยนโมบายพอดีแล้วก็เจอโมบายรูปดวงดาวดวงจันทร์หน้าบ้านจึงเอามาแขวนให้น้องถึงมันจะดูเก่าๆแต่ก็สวยอยู่ แล้วคืนนั้นน้องก็ร้องไห้จ้าไม่หยุดเลย

พวกแม่ก็ไม่รอช้ารีบเอาโมบายไปเผาทิ้งเลย สืบไปสืบมาก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธอมาแล้วเธอก็ไปจนเราจนปัญญาจะหาเลยเอาโมบายอันนั้นไปเผาทิ้งแล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม พอไม่รู้จะทำอย่างไรก็พาน้องไปหาหลวงตาที่วัดอีก หลวงตาไม่พูดอะไรนอกจากเงียบแล้วก็อำนวยพรปัดเป่าของชั่วร้ายให้น้องชายฉันใหม่ แม่กับยายก็รอฟังหลวงตาจะพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวน้อง

“ของเผาไปแต่เขาก็ยังอยู่นะ ช่วยเขาหน่อยก็แล้วกันถือว่าเอาบุญ”

เงา ภาพโดย PublicDomainPictures จาก Pixabay

รู้แค่ว่าตอนนั้นหลวงตามองอีกทางซึ่งทางนั้นไม่มีคนเห็นแกส่ายหน้าเบาๆ ฉันเองก็หันไปมองตามก็ไม่เจออะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า

“ต่อไปนี้ก็เป็นลูกของหลวงตาแล้วนะ” ตั้งแต่นั้นมาอาการนี้ของน้องก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเลยจนถึงทุกวันนี้แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแล้วเอาโมบายนั้นมาให้ทำไม บ้านเรามีใครไปมีศัตรูที่ไหนมันก็ยังเป็นปริศนามาจนวันนี้

ขอบคุณภาพจาก

ภาพโดย Tracy Lundgren จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์