ก็สวัสดีเพื่อนทุกคนด้วยนะครับ ซึ่งผมตั้งใจวางแผนอยากจะไป คำชะโนด วังนาคินทร์ ในที่สุดวันที่ผมเฝ้าคอยเป็นเดือนนั้นก็มาถึงจนได้ ซึ่งผมเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา มายัง จ..อุดรธานี ระยะทางประมาณ 379 กิโลเมตร วันที่ 28 มกราคม 2563 เพื่อมากราบไว้ ปู่ศรีสุทโธ และ ย่าศรีประทุมมา และเยี่ยมชมสถานที่ที่ผมเคยเห็นแต่ในรูปภาพซึ่งไม่คิดเลยว่าจะได้มาเห็นด้วยตาตัวเองซึ่งก่อนที่เราจะเข้าไปกราบไว้เนี่ยก็ สิ่งที่ผมได้ทำการซื้อมาเลยก็คือ บายศรีพญานาค ซึ่งผมซื้อตามทางที่ชาวบ้านตั้งขายได้หรือจะมาซื้อที่ คำชะโนด เลยก็ได้ครับ ส่วน หมากพลู นั้นผมซื้อที่ คำชะโนด ซึ่งจะหาซื้อได้ตอนที่เราหาที่จอดรถเพราะจะมีคนวิ่งตามรถเราแล้วมาขายให้ถือว่าสะดวกดีครับไม่ต้องไปเดินหา ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN เมื่อเราเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นทางเข้าที่สวยงามมาก ๆ (อย่าลืมถอดรองเท้าไปวางไว้ที่ที่เจ้าหน้าที่เค้าจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วยนะครับและถอดหมวกบังแดดออกด้วย) เลยหลังจากที่เดินเราไปได้นิดหน่อยแล้วก็สัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นี้เลยก็ว่าได้ซึ่ง คำว่า คำชะโนด นั้นก็ได้ชื่อมาจาก ต้นชะโนดเพราะมีต้นชะโนดเยอะมาก ๆ นั่นเองครับจากที่ผมได้ศึกษาข้อมูลมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดป้ายบอกรายละเอียดว่ามีต้นชะโนดประมาณ 1,865 ต้นด้วยกัน และมีต้นไม้แปลก ๆ อีกมากมายเลยครับ ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN หลังจากที่ผมได้เดินเข้าไปเรื่อย ๆ แล้วก็จะพบกับศาลเอาไหว้กราบไหว้ ซึ่งจะมีศาลใหญ่อยู่ตรงกลางครับ พอเข้าไปแล้วอากาศค่อนข้างเย็นสบายมาก ๆ เลยครับ เมื่อมองขึ้นไปข้างบนท้องฟ้าก็จะเห็นต้นชะโนดเยอะและสูงมาก ๆ ซึ่งปกคลุมพื้นที่แทบหมดไม่ให้มีแสงแดดส่องลงมาถึงพื้นเลย และตอนนี้ทาง คำชะโนด เจ้าหน้าที่เพราะไม่ให้จุดธูปจุดเทียนแล้วนะครับถือว่าดีมาก ๆ เลยเพราะทำให้ไม่มีกลิ่นไปทั่วพื้นที่ ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN หลังจากที่ผมได้กราบไหว้เสร็จแล้วนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยว แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่กันแบบไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว แต่ไม่ได้ได้เยอะจนแออัดนะครับ หลังจากนั้นก็ได้ไปเดินดู ต้นมะเดื่อยักษ์ ที่ใหญ่และสวยงามจริง ๆ ซึ่งก็มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ไปนั่งหาดูเลขกันเยอะพอสมควรเลยส่วนตัวผมนั้นดูไม่เป็นครับเลยได้แต่ชมความงามเท่านั้น ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN ส่วนต่อไปนั้นจะเป็นในส่วนของ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งผมก็ฟังมาอีกทีว่า เป็นทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลและเมืองมนุษย์โลกนั่นเอง ซึ่งแต่ก่อนนั้นสามารถโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำได้แต่ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่เค้าห้ามโยนเหรียญลงไปเด็ดขาดเลยครับ ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าตอนนั้นได้ทำการสูบน้ำออกแล้วน้ำเหรียญขึ้นมาซึ่งมีจำนวนเยอะมากจนไม่สามารถเก็บขึ้นมาหมดได้ แล้วก็จะมีป้านติดบอกได้ว่า ห้ามโยนเหรียญลงบ่อน้ำเพราะจะทำให้สกปรกและเป็นการปิดทางขึ้นลงของพญานาคนั่นเอง อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN จุดต่อซึ่งจะอยู่ใกล้ ๆ กันเลยก็คือ ฆ้อง ขนาดใหญ่ซึ่งเอาไว้ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ลูบเป็นสิริมงคล บางคนลูบแล้วก็มีเสียง ซึ่งก็มีความเชื่อว่าถ้าคนไหนลูบแล้วมีเสียงถือว่าคนนั้นมีบุญ แต่ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ส่วนหลักการทางวิทยาศาสตร์มันคือการนำมือที่มีความชื่นหรือเปียกนิด ๆ ไปถูเพื่อให้เกิดการเสียดสีและเกิดเสียงขึ้นมา เหมือน ๆ กับการนำน้ำใส่แก้วแล้วเอานิ้วมือลูบไปรอบ ๆ ปากแก้วก็จะมีเสียงออกมา ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN และสุดท้ายนี้เมื่อได้ทำการกราบไหว้ และ เดินชมสถานที่อันสวยงามที่ผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนแล้ว ก็เริ่มเกิดอาการหิวอย่างมากเลย ซึ่งก็จะมีร้านอาหารอยู่เยื้อง ๆ หน้าทางข้ามไป คำชะโนด ซึ่งจะมีหลายร้านค้าเลยครับผมได้ไปส่งปลาเผาและส้มตำข้าวเหนียวมากินบอกเลยว่าอร่อยมากราคาไม่เเพงอย่างที่คิด ปลาตัวละ 180 บาท ตัวใหญ่มาก ๆ ส้มตำ 50 บาท รสชาติใช้ได้ครับ ซึ่งผมสังเกตุหลาย ๆ คนแล้วหลังกินข้าวเสร็จก็จะไปหาเดินดูล๊อตเตอรี่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันเลยครับ ภาพโดยนักเขียน : ZAG TEEN ก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยนะครับผมสำหรับกรเดินทางมากราบไหว้ ปู่ศรีสุทโธ และ ย่าศรีประทุมมา และมาเยี่ยมชมความงดงามของ คำชะโนด ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่เคยมาผมแนะนำเลยครับว่าควรต้องมาสักครั้งในชีวิต สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับแล้วเจอกันใหม่สวัสดีครับ