อื่นๆ
เจอผีในค่ายทหาร
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องไปเข้าค่ายลูกเสือในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ต้องขอเท้าความไปในช่วงก่อนที่เหล่าลูกเสือจะไปเข้าค่าย เมื่อสองวันก่อนอาจารย์ผู้กำกับลูกเสือได้คุยกันเรื่องการหาสถานที่เข้าค่ายลูกเสือเนตรนารีในครั้งนี้ อาจารย์บางคนนำเสนอให้เข้าค่ายกันที่โรงเรียนไปเลย ส่วนบางคนก็นำเสนอว่าให้ไปเข้าค่ายที่ต่างจังหวัด แต่มีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่งที่นำเสนอแนวความคิดที่ต่างออกไป แล้วเกิดถูกใจอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าผู้กำกับลูกเสือเข้า หัวข้อนั้นคือการให้ลูกเสือไปเข้าค่ายที่ค่ายทหารใกล้โรงเรียน เพราะมันทั้งถูก แถมยังได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกเสืออีกด้วย ส่วนเนตรนารีให้เข้าค่ายกันโรงเรียนตามปกติที่ทำทุกปี และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้อาจารย์ผู้กำกับตอบตกลงและได้ประกาศให้กับเหล่านักเรียนลูกเสือได้ฟัง เมื่อเหล่านักเรียนได้ยินดังนั้นก็กระโดดโลดเต้นดีใจกันยกใหญ่ เพราะจะได้ลองไปเข้าค่ายในสถานที่ใหม่ แต่ก็มีบางคนที่ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน
Advertisement
Advertisement
เวลาผ่านไปจนกระทั่งมาถึงวันที่ต้องออกเดินทาง ถึงแม้จะบอกว่าค่ายทหารนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียน แต่ระยะทางมันก็ไม่ได้ใกล้อย่างที่คิดนัก วันนั้นเหล่าลูกเสือเกือบหกสิบคน ก็ต้องขึ้นรถบัสไปยังสถานที่เป้าหมาย ภายในรถจะมีครูฝึกทหารคอยคุมอยู่ด้วย จึงทำให้นักเรียนคุยกันเสียงดังไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนแหกกฎ แอบคุยเล่นกับเพื่อนอยู่บ้าง เมื่อมาถึงเป้าหมาย เหล่าลูกเสือเดินลงมาจากรถบัส ภาพที่เห็นคือค่ายทหารในสภาพที่ค่อนข้างเก่าพอสมควร สนามหญ้าลานฝึกเต็มไปด้วยหญ้าที่แก่ตายเป็นจำนวนมาก ราวกับว่าไม่มีคนดูแลมาก่อน โรงฝึกหรือโรงนอนก็เต็มไปด้วยฝุ่น เมื่ออาจารย์ผู้กำกับเห็นดังนั้นจึงได้เดินไปสอบถามข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาที่ทำงานอยู่ที่นี่ ปรากฏว่าที่จริงแล้วที่นี่เป็นค่ายทหารเก่าที่กำลังปิดตัวลง เนื่องด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงต้องย้ายไปที่ใหม่ ซึ่งอยู่ภายในตัวจังหวัด
Advertisement
Advertisement
Photo by simonwijers on Pixabay
ตอนแรกเหล่าอาจารย์ก็กำลังจะตัดสินใจที่จะไม่ทำการเข้าค่ายกันที่นี่ แต่มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่แย้งขึ้นมาว่า "ไหนๆ ก็ขอเขาแล้ว จ่ายเงินเขาแล้ว เข้าค่ายที่นี่เลยจะเป็นอะไรไป จะได้ไม่เสียเวลา" เมื่อเหล่าอาจารย์ได้ยินดังนั้นก็ตอบเห็นด้วยไปตามกัน ในวันนี้เหล่าลูกเสือทั้งหกสิบคนจึงต้องทำการเข้าค่ายที่นี่ ทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้น ค่ายนี้จะมีการค้างแรมด้วยกันทั้งหมด 3 วัน 2 คืน วันแรกจะมีกิจกรรมเดินทางไกลช่วงเช้า และทำอาหารช่วงเย็น จากนั้นช่วงดึกจะเป็นการฝึกเงื่อนต่างๆ การเดินไกลได้เริ่มต้นขึ้นและจบหลงไปภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ช่วงทำอาหารจึงต้องเริ่มเร็วเป็นพิเศษ ก่อนเริ่มเข้าสู่ช่วงทำอาหาร ได้มีการรวมตัวพูดคุยเรื่องของกฎในการใช้สถานที่ มีครูฝึกทหารท่านหนึ่งขึ้นมายืนบนแท่น เเล้วใช้โทรโข่งเก่าๆ ประกาศออกไปว่า ภายในค่ายแห่งนี้ ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด จากนั้นครูฝึกทหารก็พูดกฎไปเรื่อยจนกระทั่งมาสะดุดอยู่ที่ข้อหนึ่ง กฎข้อสุดท้ายคือ เมื่อให้เข้านอนคือต้องเข้านอน ห้ามออกมาข้างนอกเป็นอันขาด ยิ่งถ้าหากเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ใครออกมาจะต้องโดนทำโทษทั้งกอง
Advertisement
Advertisement
ช่วงทำอาหารเริ่มต้นขึ้น ลูกเสือแต่ละกองต่างตั้งใจทำอาหารกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อนำอาหารส่วนหนึ่งที่ตนทำไปส่งอาจารย์และครูฝึก จนในที่สุดก็จบช่วงทำอาหารลง และเข้าสู่ช่วงการเรียนใช้เงื่อนในช่วงดึก นักเรียนลูกเสือทุกคนออกมารวมตัวกันที่หอประชุมกลาง เพื่อเริ่มการเรียนใช้เงื่อน ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งจู่ๆ ก็มีลูกเสือคนหนึ่งแสดงอาการแปลกๆ อาจารย์และครูฝึกเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ ลูกเสือคนนั้นจู่ๆ ก็นิ่งเงียบ หน้ามองไปที่ลานกว้างด้านนอก สีหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก ครูฝึกถามก็ไม่ตอบ จนกระทั่งลูกเสือคนนั้นสลบวูบไป สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับลูกเสือทุกคนเป็นอย่างมาก การเรียนเงื่อนวันนี้จึงถูกสั่งยกเลิกไป ครูฝึกออกมากำชับลูกเสือให้รีบเข้านอนในทันที แล้วห้ามออกมาเด็ดขาด
Photo by StockSnap.io
ลูกเสือทุกคนทำตามคำสั่ง เข้าไปนอนในเต็นท์ที่ตัวเองกางไว้ในโรงฝึก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับลูกเสือที่กำลังเข้านอนอย่างงงๆ เวลาล่วงเลยผ่านไป ครูฝึกได้นำตัวลูกเสือคนที่แสดงอาการแปลกๆ กลับไปนอนในเต็นท์กับเพื่อน เมื่อมาถึงเพื่อนก็รีบเซ้าซี้ให้บอกสาเหตุว่าทำไมถึงแสดงอาการแบบนั้นในช่วงเรียนเงื่อน ขอสมมติว่าเพื่อนคนที่ถามคือ เอ และคนที่แสดงอาการแปลกๆ คือ บี นะครับ บีได้ตอบกลับไปว่า ช่วงที่เขากำลังเรียนเงื่อนอยู่นั้น เขาได้เหลือบไปเห็นเงาดำเงาหนึ่งอยู่ลานกว้างข้างนอก มันตัวสูงเกือบสองเมตร เดินห้อยแขนไปมา จนกระทั่งนายบีได้ลองเพ่งสายตาดูจนได้พบว่า เงานั้นแท้จริงแล้วคือทหาร แต่ไม่ใช่ทหารปกติ เขาดูเหนื่อยล้า ลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด เมื่อนายบีจ้องไปสักพัก จู่ๆ เงานั้นก็หันกลับมามองนายบีบ้าง สิ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้นายบีก็คือ เงาทหารคนนั้นไม่มีลูกตา เมื่อนายบีเห็นดังนั้นจึงแสดงอาการหวาดกลัวออกมา
นายเอได้ยินที่นายบีพูดแล้วก็เกิดความอยากรู้อยากลองขึ้นมา แต่นายบีก็พยายามเตือนว่าอย่าออกไปข้างนอกตอนนี้จะดีกว่า เชื่อครูฝึกและอาจารย์ดีที่สุดแล้ว แต่ถึงจะเตือนยังไงนายเอก็ไม่ฟัง เขาหาจังหวะชวนเพื่อนที่อยู่เต็นท์อื่นออกไปล่าท้าผีที่ลานกว้างด้วยกัน แต่ตอนนี้คงออกไปไม่ได้ เพราะข้างนอกมีครูฝึกคอยเฝ้าเต็มไปหมด ก่อนหน้านี้นายเอได้ยินมาว่า ช่วงห้าทุ่มจะมีประชุมครูฝึกและอาจารย์ เขาเลยตั้งใจหาทางออกไปในช่วงนั้น เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาประชุมของเหล่าครูฝึกและอาจารย์ นายเอ ได้ชักชวนนายซี และนายดี ออกไปล่าท้าผี พวกเขาทั้งสามได้เดินไปที่ลานกว้าง จุดเกิดเหตุที่นายบีพบเห็นผีทหาร เมื่อมาถึงพวกเขากลับพบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแม้เเต่ผีและคน เวลาผ่านไปสักพักจนกระทั่งมีเสียงหมาหอนดังขึ้น บรรยากาศเริ่มดูหลอน แต่นายเอและเพื่อนก็ไม่เจออะไรอยู่ดี แต่แล้วก็มีเสียงครูฝึกดังมาจากด้านหลัง "เฮ้ย พวกเธอมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว" สิ้นเสียงนายเอเเละเพื่อนก็หันหลังขวับทันที แต่สิ่งที่พบกลับไม่มีใครอยู่เลย แล้วเสียงใครเรียกพวกเขากันแน่? นายเอและเพื่อนเมื่อเจอแบบนี้แล้วก็เริ่มรู้สึกสั่นกลัวขึ้นมา มีเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งได้ตะโกนลั่นออกมาว่า "ไหนผี ไม่เห็นมีเลย แน่จริงก็โผล่ออกมาให้เห็นหน่อยสิ" สิ้นเสียงตะโกนจู่ๆ นายเอก็แตะที่หลังเพื่อน แล้วชี้ไปที่ลานกว้างอีกฝั่ง ภาพที่ปรากฏคือ เงาดำจำนวนมากยืนเรียงรายอยู่เกือบร้อยเงา สร้างความกลัวให้กับลูกเสือทั้งสาม เงาดำทั้งหมดได้จ้องมาที่พวกเขา และเดินตรงมาเรื่อยๆ เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ใส่ชุดทหารเปื้อนเลือด บ้างก็แขนขาด บ้างก็ลูกตาไม่มี บ้างก็ขาขาดจนต้องคลานเอา แท้ที่จริงแล้วผีทหารที่ทั้งสามคน และนายบีได้เห็น คือเหล่าทหารที่ตายไปในช่วงสงครามโลกนั่นเอง
รุ่งเช้า ลูกเสือทั้งสามได้ถูกหามมานอนที่ห้องพยาบาล ทุกคนต่างเล่ามาเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเห็นศพทหารเดินได้ที่ลานกว้าง ประสบการณ์ที่ทั้งสามเล่าให้ครูฝึกและอาจารย์ฟัง ทำให้แผนการเข้าค่ายได้ถูกเลื่อนเข้ามา กลายเป็นว่าจากการเข้าค่าย 3 วัน 2 คืน เปลี่ยนมาเป็น 2 วัน 1 คืน เนื่องจากครูฝึกและอาจารย์กลัวว่าการที่ลูกเสือไปทำการท้าทายแบบนี้ อาจส่งผลให้ลูกเสือทั้งค่ายโดนร่างแหไปด้วย เลยต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้น การเข้าค่ายจบลงในช่วงเช้า ลูกเสือทั้งหมดแปลกใจกันเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงเปลี่ยนกำหนดการกะทันหัน ยกเว้นนายบีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หากมีลูกเสือออกไปข้างนอกยามดึก จะต้องโดนผีทหารหลอกจนหัวโกร๋นอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น