ประโยชน์ของมะตูมแขกผมว่าชาวอีสานบ้านนอกทั่ว ๆ ไป มักไม่คุ้นเคยกับต้นไม้ชนิดอย่างตามในภาพนี้นี้สักเท่าไหร่ เพราะต้นกำเนิดของพันธุ์ไม้นี้จริง ๆ มันมีถิ่นกำเนิดอยู่แถว ๆ อเมริกาใต้ ต่อมามีการนำพันธ์ไม้นี้ไปปลูกอย่างแพร่หลายในเขตุตะวันออกกลางที่เป็นที่อยู่ของแขก และต่อมาคนไทยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนอีสานที่ไปทำงานในประเทศหรือในแถบถิ่นแถวนั้น ได้นำต้นไม้พันธ์นี้มาปลูกในประเทศไทย และเรียกชื่อเป็นสัญชาติไทยตามรสชาติของมัน ที่ให้รสชาติคล้าย ๆ ใบมะตูมบ้านเรา ว่า”ต้นมะตูมแขก” ฮา แต่ดู ๆ แล้วผมว่ามันไม่เหมือแขกสักนิด ชื่อสามัญจริง ๆ ของมันคือ Brazilian Pepper-tree หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schinus terebinthifoliusชาวอีสานที่เป็นนักนิยมกินลาบกินก้อยผมว่าคงจะเคย ๆ เห็นใบไม้อย่างตามในภาพนี้หรือพบเห็นบ่อย ๆ เมื่อเวลาเข้าไปกินลาบ ก้อย ซกเล็ก ในร้านลาบของคนอีสาน มันมักถูกนำมาวางเรียงในจานผักรวมกับผักอื่น ๆ เสมอเพื่อกิกับลาบก้อย เช่น ผักเม็ก ผักกะเดา หรือผักกาดฮีน(ผักกาดที่มีกลิ่นฉุน ๆ) รสชาติของใบมะตูมแขกนี้จะออกฝาด ๆ หอม ๆ คล้ายใบมะตูมบ้านเรา แต่เนื้อใบจะกรอบ เคี้ยวกรอบแกรบ ๆ สามารถนำไปรับประทานได้ทั้งใบอ่อนใบแก่ กินกับลาบกับป่นปลานี้อร่อยนัก แถมปลูกง่ายโตไวอีกต่างหากต้นมะตูมแขกนี้เป็นไม้ขนาดกลางครับ กิ่งก้านลำต้นทนแล้งได้ดีและสามารถแตกกิ่งก้านได้ในทุกฤดู ใบมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ แก้โรคชักกระตุก และมีสารต่อต้านเซลล์มะเร็งว่างั้น เรียกว่ามีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกายนอกจากทำให้เราอร่อยกับลาบกับก้อยแล้วมะตูมแขกนี้ผมชอบมาก อย่างต้นนี้ที่ผมเห็นเพียงต้นเดียวในหมู่บ้าน เวลามีงานบุญหรือมีการกินลาบ ต้นมะตูมแขกต้นนี้ถือว่าสร้างความอร่อยให้กับเหล่านักกินลาบได้เอร็ดอร่อยทีเดียว ใบหอม ๆ กรอบ ๆ ของมันแกล้มลาบก้อยนี้อร่อยจริงเชียว เรียกว่ากิ่งเดียวนี้เหลือกินไปเลย ตามร้านลาบนี้มีแทบทุกร้าน จนบางครั้งผมเองก็นึกสงสัยว่า ใบนี้มันใบอะไร จนวันนี้ได้มาเจอต้นมันจริง ๆ เห็นแล้วอยากกินลาบครับท่านผู้ชม “มะตูมแขก”เรื่องและภาพโดยผู้เขียน J A I W