ต้นแมงลัก เครื่องปรุงคู่ครัวคนอีสานฟังชื่อเรื่องแล้วดูเหมือนจะจำเพาะไปนะครับ แบบ”คู่ครัวคนอีสาน” แต่จริง ๆ ในแทบทุกภาคล้วนแต่นิยมบริโภคพืชชนิดนี้ทั้งนั้น แต่ที่เน้นว่าคนอีสานนี้ ก็เพราะว่าคนอีสานบ้านผมมักปลูกต้นแมงลักนี้ไว้ประจำบ้านเสมอ ๆ ครับ เพราะมันมีความจำเป็นมากในการทำอาหารหลาย ๆ ประเภท ยิ่งบ้านนอกที่ไม่มีตลาดสดเลยยิ่งต้องปลูกต้นแมงลักนี้ไว้ประจำบ้าน เพราะอาหารส่วนใหญ่ประเภทต้มยำทำแกงนี้ ขาดใบแมงลักนี้มันจะโหรงเหรงไร้รสชาติไปเลย และแน่นอนว่าการปลูกติดสวนไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับต้นแมงลักนี้วิธีปลูกก็แสนง่ายครับ เมล็ดแมงลักนี้มีขายตามร้ายขายของทั่ว ๆ ไป ซื้อมาแล้วโรย ๆ ลงในแปลงปลูกที่เตรียมดินไว้ อาจจะใช้กระถางเล็ก ๆ ก็ได้ รดน้ำทุก ๆ วันจนเบี้ยที่เพาะนั้นโตและแข็งแรงพอ จากนั้นจึงนำเบี้ยไปปักลงในกระถางปลูกอีกที หรือจะทำเป็นหนานหรือเป็นแปลงอย่างตามภาพนี้เลยก็ได้ โดยปักต้นห่าง ๆ กัน เพื่อว่ามันแตกต้นแล้วมันจะได้ไม่หงำกัน ฮา (หงำ ภาษาอีสานแปลว่า แย่งการเจริญเติบโตของกันและกัน)ใบแมงลักนี้จำเป็นต้องใส่ในการปรุงอาหารหลายชนิดครับ เช่นแกงอ่อมนี้ขาดไม่ได้เลย จะแกงอ่อมเนื้อ แกงอ่อมไก่บ้าน แกงปลาใส่ฟัก แกงปลาใส่หน่อไม้ดอง แทบทุกอย่างแกงเลย ใบแมงลักนี้จะช่วยเสริมให้รสชาติของแกงให้มีความเอร็ดอร่อย มีกลิ่นหอม ๆ ถ้าขาดใบแมงลักนี้ แกงนั้นรับรองจะไม่อร่อยเลย หรือจะกินสด ๆ ก็ได้สำหรับใบต้นแมงลักนี้ เช่นกินกับขนมจีนน้ำยา เด็ดเอายอดอ่อน ๆ มากินกับขนมจีนน้ำยาคู่กับพริกทอด พริกสด ผักดอง ตามร้ายขายขนมจีนจะมีผักนี้เสมอ กินกับขนมจีนนี้อย่างยอดเลยนอกจากใบ เมื่อต้นแมงลักแก่และลงเมล็ด เมล็ดของมันนี้อย่างอร่อยเลยครับ การทำขนมหวาน คนขายบางเจ้ามักนำเอาเมล็ดแมงลักนี้มาเป็นส่วนประกอบเสมอ โดยการเอาเมล็ดแมงลักไปแช่น้ำก่อน เมื่อมันอิ่มน้ำเมล็ดแมงลักแช่น้ำจะคล้าย ๆ เม็ดสาคู เติมร่วมกับส่วนประกอบของของหวานอื่น ๆ เติมน้ำหวาน เติมกะทิสด ซด โอ้โห อร่อยอย่าบอกใครเชียวสมัยผมเป็นเด็กน้อย เด็ก ๆ น้อยคนจะรู้ว่า เมล็ดแมงลักนี้กินได้ เวลามันยืนต้นแก่ในหน้าแล้ง ๆ อย่างผมกับพวกคือพี่สาวนี้รู้ดี และรู้ว่ามันอร่อย เห็นต้นแมงลักนี้ที่ไหนก็พากันไปถอนมาทั้งต้นเลย นำดอกแก่ ๆ ของมันกอง ๆ รวมกันในผ้าขาวม้า จากนั้นขยำ ๆ จนดอกจนใบแห้ง ๆ ของมันเป็นผงให้เมล็ดมันหลุดจากฝักแก่ของมัน จากนั้นจึงใช้มือเก็บกวาดส่วนที่ไม่ใช่เมล็ดมันออก เหลือแต่พวกเป็นฝุ่น ๆ จึงนำเมล็ดแมงลักและตะกอนพวกนั้นลงไปลอยในน้ำในถังน้ำ ส่วนที่ไม่ใช่เมล็ดมันจะลอยเหนือน้ำ จากนั้นเราจึงใช้มือกวาดออกด้วยการตะแคงครุถังรินน้ำออก จนเหลือแต่เมล็ดแมงลักล้วน ๆ จากนั้นจึงนำไปแช่ในน้ำสะอาด พอมันอิ่มน้ำเป็นเม็ดสาคู เราจึงตักใสถ้วยซดกินโดยไม่ต้องเติมอะไรอีกเลย เป็นไงล่ะการกินของผมสมัยเด็ก ๆ มันอร่อยจริง ๆ นะที่ผมจำได้ต้นและใบ เมล็ดแมงลักนี้ นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารแล้ว มันยังมีสรรพคุณเป็นยาด้วยนะครับ และจัดอยู่ในพืชสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งด้วย มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยลดอาการไข้ ป้องกันโรคในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ลดอาการลำไส้อักเสบ ช่วยลดอาการแสบท้อง ฯลฯ อีกหลายอย่าง เรียกว่า มีทั้งประโยชน์ต่อร่างกายแถมอร่อยอีกด้วยครับท่านผู้ชม เรื่องและภาพโดยผู้เขียน J A I W