ภาพปกโดยผู้เขียนบทความนี้เป็นบทความที่ 34 นั่นหมายความว่าเป็นเคล็ดลับที่ 34 ใน 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จ ที่เขียนโดย David Niven ซึ่งเคล็ดลับนี้ว่าด้วยการตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม และการวางแผนที่สามารถนำไปใช้ได้ แต่เดี๋ยวนะ! คุณว่ามีอะไรแปลก ๆ ไหม? เล่ากันมาถึง 34 เคล็ดลับแล้ว ทำไมถึงเพิ่งคุยเรื่องการตั้งเป้าหมาย? เอาเป็นว่าไว้คุยกันต่อหลังอ่านเสร็จนะครับDavid Niven เริ่มต้นด้วยคำถามว่า “คุณต้องการอะไร? คุณจะต้องทำสิ่งใดเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่คุณต้องการ? อะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ? ขั้นตอนต่อไปที่คุณจะต้องย่างก้าวไปคืออะไร?” ซึ่งเมื่ออ่านคำถามข้างต้นจบแล้ว ได้คำตอบให้กับตัวเองชัดเจนไหมครับ? หรือเอาเข้าจริง เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราต้องการอะไร ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องถามถึงวิธีการให้ได้มา ไม่ต้องถามถึงจุดแข็งจุดอ่อน และไม่ต้องถามถึงขั้นตอนต่อไปในการย่างก้าวอะไรให้มากมายนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อคำตอบสำหรับหลาย ๆ คำถามยังไม่ชัดเจน David Niven จึงบอกกับเราว่า “จงลืมแนวความคิดที่ไม่ชัดเจน และข้อวินิจฉัยที่ไม่มีความแน่นอนเหล่านั้นไปเสีย แล้วกลับมาดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร”ขอบคุณภาพจาก Maxim Basinski Premium ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียนหากว่ากันตามตรงอีกเช่นกัน จะเห็นว่า เราทุกคนต่างก็มีแผนการต่าง ๆ อยู่มากมายด้วยกันทั้งสิ้น และยังมีชุดความคิดต่าง ๆ มาให้เลือกสรรอย่างไม่มีสิ้นสุดอีกด้วย (และปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งก็มากจนเกินไป) ทว่าน้อยคนนักที่จะเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นแบบแผน เพื่อสร้างอนาคตขึ้นมาจริง ๆ โดยเหตุที่เป็นเช่นนั้น David Niven ได้กล่าวเอาไว้ว่า “เพราะเราไม่ค่อยที่จะคำนึงถึงความเจริญก้าวหน้าที่อยู่เหนือแนวความคิดและข้อวินิจฉัยต่าง ๆ และแน่นอนว่าเราไม่มีทางที่จะนําตัวของเราไปประเมินกับแนวความคิดและข้อวินิจฉัยได้ เนื่องจากแนวความคิดและข้อวินิจฉัยเหล่านี้มีความเป็นนามธรรมเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาได้ ดังนั้น เราจึงไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเรากําลังสร้างความก้าวหน้า หรือสิ่งใดที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จงกำหนดเป้าหมาย และกำหนดแบบแผนที่จะนำคุณไปสู่เป้าหมาย”ขอบคุณภาพจาก Maxim Basinski Premium ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียนNancy เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทขนาดเล็กต่าง ๆ ซึ่งงานของเธอก็คือการช่วยวางแผนอนาคตให้กับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเธอได้พบปะบรรดาลูกค้าเดือนละครั้ง เพื่อที่จะพูดคุยถึงสภาพการณ์ของธุรกิจของพวกเขาในปัจจุบัน และแนวทางของธุรกิจในอนาคตส่วนมากเธอมักพบว่า “เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจำนวนหลายรายใช้เวลาไปกับการจัดการปัญหาที่ละเรื่อง แทนที่จะเอาเวลาไปบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ทำให้เจ้าของธุรกิจเหล่านี้ไม่มีเวลาที่จะคิด ไม่มีเวลาสำหรับความก้าวหน้า แต่มีเพียงเวลาที่จะทำในสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเท่านั้น”มากไปกว่านั้น Nancy ยังพบอุปสรรคที่น่ากลัวที่สุดสำหรับพวกเขาเหล่านั้น โดยเธอกล่าวต่อไปว่า “อุปสรรคที่น่ากลัวที่สุดและยากที่จะก้าวข้ามมันไปได้ของพวกเขาก็คือ ‘การเริ่มต้นกำหนดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม’ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการในระยะยาวของเจ้าของธุรกิจได้ ไม่ใช่ให้เจ้าของธุรกิจจะต้องใช้เวลาทั้งหมดไปกับการตอบสนองความต้องการระยะสั้นของตัวธุรกิจเอง”อันนี้ต้องโน้ตคนที่สร้างเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมจะมีความมั่นใจในการบรรลุซึ่งเป้าหมายมากกว่าคนทั่วไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และ 32 เปอร์เซ็นต์ของคนเหล่านี้ก็จะรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขานั้นอยู่ภายใต้การควบคุมขอบคุณภาพจาก Maxim Basinski Premium ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียนคุยกันหลังอ่านเสร็จทำไมถึงเพิ่งคุยเรื่องการตั้งเป้าหมาย? สำหรับผมแล้ว Niven อาจเห็นว่าควรให้เราลองทำอะไรบางอย่างก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาคุยกันต่อ ใช่ครับ!!! แม้เรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร และรู้ด้วยว่าแผนการที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้นเป็นอย่างไร แต่ในบางครั้งเรากลับสงสัยในแนวทางดังกล่าว แม้กระทั่งเคลือบแคลงในเป้าหมายของเราว่า “มันใช่ไหมวะ?” ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนผมว่า ความเคลือบแคลงสงสัยต่อเป้าหมายและแนวทางนำไปสู่ความสำเร็จนั้นมีผลมาจากอย่างน้อย 2 ปัจจัย กล่าวคือ เรามีมุมมองต่อคุณค่าของความสำเร็จของเราอย่างไร และความชัดเจนของเส้นทางสู่ความสำเร็จของเรานั้นเป็นอย่างไรสำหรับปัจจัยแรก ผมพบว่าระหว่างที่เร่งรีบทำให้ความสำเร็จปรากฎออกมาอย่างเป็นรูปธรรมนั้น หลายครั้งผมเองมักจะลืมคิดถึงคุณค่าของสิ่งที่ตนกำลังตามหา เมื่อผมไม่ได้เห็นหรือลืมไปว่าคุณค่าของสิ่งที่ตามหาคืออะไร ตัวผมหรือแม้กระทั่งคนเราส่วนใหญ่ก็จะเริ่มท้อหรือหาแรงผลักให้เราเดินต่อไปไม่เจอ และอาจเลวร้ายถึงขั้นล้มเลิกที่จะตามเป้าหมายนั้นก็เป็นได้สำหรับปัจจัยที่สอง การกระทำหรือขั้นตอนบางอย่างในเส้นทางของการประสบความสำเร็จ บ่อยครั้งมันจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเป้าหมายที่เราตั้งไว้โดยตรงเลย แต่มันกลับเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้เช่นกัน หากว่ากันตามตรง คนเราส่วนใหญ่มักจะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป แม้พวกเขาจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันสำคัญต่อการประสบความสำเร็จของพวกเขามากแค่ไหนก็ตามผมเข้าใจว่าทุกคนปรารถนาถึงการมีชีวิตที่ดี โดยเฉพาะการมีชีวิตที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลายคนกำลังทำให้เป้าหมายปรากฏออกมาเป็นจริง หลายคนกำลังคิดจะวางแผน และหลายคนกำลังสับสนกับชีวิต อย่างไรก็ตาม เรามักจะเข้าในว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่าวันนี้ ทว่าเรากลับลืมไปว่าวันพรุ่งนี้มันจะดีกว่าได้อย่างไร ในเมื่อวันนี้เรายังไม่ได้อะไรเลย และหากจะว่ากันตามตรงแล้ว คุณเชื่อในเรื่องโชคชะตาไหมครับ?ติดตามผลงานอื่นPodcast 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จ โดย David NivenMy Inspire StoryCreditชื่อหนังสือ: 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จผู้เขียน: David Nivenผู้แปล: อิศรา ราชตราชูชื่อเรื่องต้นฉบับ: 100 Simple Secrets of Successful Peopleสำนักพิมพ์ต้นฉบับ: Harper Collins