ภาพปกโดยผู้เขียนเราต่างเคยได้ยินจนแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาว่า “ความสำเร็จมันคือสูตรสำเร็จ” ในทางกลับกัน เราก็เคยได้ยินแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกันว่า “ความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จ” เช่นนี้ จึงทำให้เราหรืออย่างน้อยก็ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า “ข้อสรุปไหนเป็นข้อสรุปที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลกันแน่?” เอาเป็นว่าเราค่อยไปคุยกันประเด็นนี้หลังจากที่อ่านจบนะครับ อย่างไรก็ตาม แทนที่จะให้คำตอบต่อข้อสงสัยข้างต้น David Niven กลับบอกในเคล็ดลับที่ 32 จาก 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จ ว่า การพึงสังเกตแบบแผน ก็เป็นแนวทางหนึ่งสำหรับการประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน“‘อะไรคือลักษณะร่วมที่สำคัญของความสำเร็จ’ โดยเฉพาะความสำเร็จทางปัญญาในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือในศาสตร์แขนงอื่น ๆ” คำถามเชิงท้าทายสติปัญญาที่ถูกถามโดย David Niven ซึ่งหากเราพอจะมีประสบการณ์หรือผ่านร้อนผ่านหนาวมาบ้างแล้วพอสมควร เราก็อาจจะรู้ว่า “นักคิดที่ยิ่งใหญ่จากศาสตร์เหล่านั้น ล้วนมักจะมีความสังเกตและให้ความสำคัญกับแบบแผนอยู่เสมอ”หากกล่าวกันตามตรง นักคิดเหล่านั้นมักจะเห็นแบบแผนที่คนอื่นคาดไม่ถึงหรือเป็นแบบแผนที่ไม่มีใครให้ความสนใจ โดยเขาเหล่านั้นมักให้ความสำคัญและสังเกตว่า “สิ่งใดที่เกิดขึ้นพร้อมกัน” จากนั้นพวกเขาก็จะพิจารณาความหมายที่อยู่ภายใต้แบบแผนนั้น ๆ อย่างเป็นระบบและถี่ถ้วน เช่นนี้ David Niven จึงตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า “จงใช้เวลาในการพิจารณาแบบแผนต่าง ๆ ในโลกใบนี้ที่คุณไม่เคยคำนึงถึงมาก่อน”ขอบคุณภาพจาก Flat Icons ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียน“‘ฉันไม่สนใจว่าคุณทำอะไร แต่คุณต้องเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ ทำงานอย่างไร ไม่ใช่เพียงแค่คิดว่าคุณกําลังทำอะไร แต่คุณจะต้องคิดถึงสิ่งที่คุณไม่ได้ทำด้วย’ ธุรกิจของผมมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งปฏิกูล แม้มันดูไม่น่าดึงดูดสักเท่าไร แต่มันก็มีความสำคัญ สิ่งที่เรายังพยายามไม่มากพอก็คือ การหาวิธีการทางธรรมชาติในการลดของเสียเหล่านี้” นี่คือสาเหตุว่าทําไม George Blaurock เจ้าของฟาร์มนิเวศน์ในแคลิฟอร์เนียและเจ้าของบริษัทจัดการของเสียเชิงพาณิชย์ ถึงทำการวิจัยเกี่ยวกับ “Vermistabilization” หรือกระบวนการการแปลงของเสียให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์โดยใช้หนอน ซึ่ง George ได้ทำการควบคุมให้หนอนกว่า 160 ล้านตัวกัดกินของเสียภายในสวนทุก ๆ วัน และเปลี่ยนของเสียเหล่านั้นให้กลายเป็นสารอาหารแก่ดินขอบคุณภาพจาก Flat Icons ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียน“วิธีการนี้เป็นวิธีการกําจัดของเสียสีเขียวได้อย่างแท้จริงเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คนเรามักจะหาวิธีจัดการกับหญ้าในสนามหญ้า สวนหรือสนามกอล์ฟที่นับวันมีแต่จะโตขึ้น เราสามารถนําสิ่งที่เขาทิ้งมารีไซเคิลได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์” เขากล่าวมากไปกว่านั้น George ยังได้เปรียบเทียบความอยากของเสียที่ไม่สิ้นสุดของบรรดาหนอนเอาไว้ว่า “‘เทียบได้กับการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของเครื่องจักร’ แม้เราสามารถที่จะสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถคิดคํานวณได้กว่าพันล้านครั้งในหนึ่งวินาที แต่เมื่อถามถึงการกําจัดสิ่งปฏิกูลสีเขียวแล้วนั้น กลับไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนที่จะสามารถให้คำตอบแก่เราได้ แต่กระนั้น เราก็จําเป็นที่จะต้องกําจัดของเสียเหล่านี้ แล้วเราทั้งหลายต่างก็พยายามที่จะค้นหาวิธีที่ดีกว่า และถ้าหากคุณสามารถทำได้ คุณไม่ได้เพียงแต่ช่วยโลกของเราเอาไว้เท่านั้น แต่คุณยังจะกลายเป็นเศรษฐีในข้อตกลงทางการค้าอีกด้วย”ขอบคุณภาพจาก Flat Icons ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียนอันนี้ต้องโน้ตความสำเร็จทางด้านวิชาการไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับวิชาใด ต่างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการถอดรหัสความคิดที่มีความซับซ้อนและเข้าใจถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ มากไปกว่านั้น จากการทดลองทั้งในสาขาภาษาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ยังบอกกับเราอีกว่า หน่วยโครงสร้างพื้นฐานของการเรียนรู้ก็คือ “การสังเกตแบบแผนด้วยตนเอง” นั่นเองขอบคุณภาพจาก Flat Icons ใน flaticon.com; แก้ไขโดยผู้เขียนคุยกันหลังอ่านเสร็จข้อสรุปไหนเป็นข้อสรุปที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลกันแน่? ระหว่างความสำเร็จมันคือสูตรสำเร็จและความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จ สำหรับการจะหาคำตอบดังกล่าว หากคุณได้อ่านบทความ EP.28 ที่ผมอภิปรายไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าโอกาสนั้นมีทั้งแบบที่เราสามารถสร้างโอกาสเองได้ และแบบที่คนอื่นหยิบยื่นให้ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีแนวทางนำไปสู่ความสำเร็จที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมที่เหมือนกันบางประการ นั่นคือ เราเชื่อในแบบใด? ดังนั้น สำหรับผมแล้วจึงเห็นว่า การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ความมีระเบียบวินัยและการลงมือปฏิบัติอย่างยอดเยี่ยมเป็นแนวทางแห่งความสำเร็จมันที่เป็นสูตรสำเร็จ ขณะที่การแก้ปัญหาระหว่างทาง การหาแรงผลักดันให้เรามุ่งสู่เป้าหมาย หรือวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างเป็นความหมายที่แฝงอยู่ของคำว่าความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จ มากไปกว่านั้น แทนที่จะเลือกเชื่อแนวคิดใดแนวคิดหนึ่ง เรากลับสามารถเลือกเชื่อทั้งสองแนวคิดได้ เช่นเดียวกันกับความเชื่อในเรื่องโอกาสที่กล่าวถึงในบทความ EP.28อีกประเด็นหนึ่ง คุณคงอยากจะเถียงผมในประเด็นของความคิดสร้างสรรค์ในขณะที่เรายึดติดกับแบบแผนมากจนเกินไป แต่ใจเย็นนะครับ!!! หากคุณไม่ได้อยู่ในสาย Designer, Artist, Content Creators หรืออะไรต่อมิอะไรที่ชวนปวดประสาทเหล่านั้น สำหรับผู้เริ่มต้นหรือกำลังจะเริ่มหรือกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเริ่มหรือไม่นั้น แม้ไม่อาจจะใช้คำว่าแนะนำ แต่ผมขอแนะนำว่าควรเริ่มจากการสังเกตหรือการศึกษาจากสิ่งที่เขาเหล่านั้นเคยทำแล้วประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว และที่สำคัญควรดูด้วยว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาล้มเหลว อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาสำเร็จ เช่นนั้นก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่เสียหายอะไร ซ้ำยังช่วยลดทอนความท้อที่เกิดขึ้นและแรงต้านที่มีต่อตนเองด้วยนะครับ เพราะแทนที่เราจะไม่ลองผิดอยู่ตั้งนาน แต่บางอย่างได้สอนมนุษย์เราว่าการลองถูกก็เป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ Robin Sharma กล่าวว่า “การเรียนรู้เป็นผลลัพธ์ของการทวนซ้ำ นั่นคือ การทวนซ้ำช่วยให้แนวคิดใหม่สามารถก่อเป็นความเชื่อใหม่ได้อย่างรวดเร็ว” และนั่นเอง เมื่อคุณประสบกับความล้มเหลวหรือความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทาง คุณอาจลองมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่คุณเคยสังเกตมาแล้ว มันอาจทำให้คุณเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นก็ได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้บุคคลที่คุณสังเกตในการทำให้เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จ และอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาล้มเหลว เมื่อนั้นเองคุณยังจะพบอีกว่า “ทำไมเขาเหล่านั้นจึงไม่สำเร็จเท่าที่ควรจะเป็นตามความคิดของคุณ” นี่เอง จะนำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกตกผลึกด้วยความรอบคอบและความมีเหตุมีผลที่แท้จริงสำหรับตัวคุณเอง อย่างไรก็ตาม แม้แต่ G.K. Chesterton ยังกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเตือน มากกว่าได้รับการสอน” ดังนั้น ผมจึงอยากทำตามคำแนะนำดังกล่าวโดยบอกว่า “อย่ายึดติดกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้มากนักนะครับ”ติดตามผลงานอื่นPodcast 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จ โดย David NivenMy Inspire StoryCreditชื่อหนังสือ: 100 เคล็ดลับยกระดับความสำเร็จผู้เขียน: David Nivenผู้แปล: อิศรา ราชตราชูชื่อเรื่องต้นฉบับ: 100 Simple Secrets of Successful Peopleสำนักพิมพ์ต้นฉบับ: Harper Collins