ใบย่านาง ถือเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกยาก กว่าจะขึ้นเป็นเถาวัลย์ให้ใบที่เขียวสวยงาม นำมาใช้ประโยชน์ได้ก็ต้องเหงื่อตกกันพอดี เพราะว่ากว่าจะงอกออกมาเป็นต้นอ่อนก็ถือว่ายากมาก ๆ ครับ บทความนี้ผมมีวิธีการปลูก ข้อแนะบางประการและการใช้ประโยชน์มาฝากครับ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่สนใจ อาจไม่ได้มีรูปตอนขุดหลุมปลูกนะครับ (บ้านพื้นที่เต็มแล้ว) แต่ก็มีองค์ความรู้จากคนเฒ่า คนแก่ มาบอกเล่าให้บรรดานักอ่านทุกท่านได้อ่านกันครับภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรีวิธีการปลูก หลายคนยังไม่เข้าใจนะครับ ว่าต้องทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าเอาเบี้ยมาเพาะชำนะครับ ต้องเอาเครือของใบย่านางที่มีรากอยู่ด้วยมาฝังดิน แล้วปล่อยยอดโผล่ประมาณฝ่ามือของเรา จากนั้นหาไม้มาทำเป็นค้าง เพื่อให้เครือย่านางที่เจริญเติบโตเกาะขึ้นไปได้ หากปลูกในที่ไกลน้ำจะค่อนข้างติดยากครับ เพราะในช่วงแรกเครือย่านางยังอ่อนแอ เราต้องดูแลเป็นพิเศษภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรีข้อแนะบางประการที่ผมอยากเอามาฝากเกี่ยวกับใบย่านางมี 3 ข้อครับ 1) ควรปลูกใกล้น้ำ หรือพื้นที่ล้างจาน เพราะเศษอาหารและน้ำจะไหลไปเลี้ยงเครือย่านางให้ออกใบสวยงาม เหมาะต่อการเก็บมาประกอบอาหาร ทั้งนี้ไม่ควรปลูกใส่ทางน้ำไหลนะครับ เพราะจำทำให้น้ำไหลไม่สะดวก 2) ไม่ควรรูดใบออกไปหมดทั้งเครือ เพราะใบย่านางก็เหมือนกับคนที่มีชีวิต หากดึงยอด ตัดใบออกทั้งหมดจะทำให้เครือย่านางตายได้ ในวิธีการเก็บควรเก็บเฉพาะใบเขียวเข้ม ซึ่งอยู่ต้น ๆ ของสายเครือ จะให้สีเขียว และเหมาะต่อการนำไปประกอบอาหารครับ 3) ห้ามใช้ต้นไม้เป็นค้างให้เครือย่านาง เนื่องด้วยใบย่านางจะไปคลุมต้นไม้นั้น ๆ อาจทำให้ต้นไม้นั้นตายได้ หรือบางทีการเก็บใบย่านางก็จะยากลำบากขึ้นหากต้นไม้สูงภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรีส่วนการใช้ประโยชน์ โดยส่วนมากหากเป็นคนอีสานจะใช้ประกอบอาหารกันครับ โดยเลือกใบย่านางแก่มาขยี้ในน้ำ และนำไปเป็นน้ำแกงของแกงหน่อไม้ จะให้ความหอม และรสชาติที่เข้มข้นขึ้น นอกจากนี้ทุกคนรู้ไหมครับ ว่าใบย่านางมีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ พร้อมด้วยวิตามินที่จำเป็นกับร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อ่านบทความนี้เสร็จแล้ว ลองสำรวจดูนะครับ ว่าบ้านมีพื้นที่ว่างพอจะปลูกใบย่านางหรือไม่ ถ้ามีพื้นที่พอปลูกไม่นานก็ใช้ประโยชน์ได้แล้วครับภาพถ่ายหน้าปกโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี