' อุบลเมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ไฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล ' จากคำขวัญข้างต้น หลายคนคงเดาถูกว่าเป็นคำขวัญของจังหวัดอะไร แน่นอนว่านั่นคือคำขวัญของ ' จังหวัดอุบลราชธานี ' ที่บ่งบอกและแสดงถึงเอกลักษณ์ประจำถิ่น จะเห็นว่าอุบลราชธานีมีสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณีที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่ทริปนี้เราขอเน้นไปที่การเดินทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ โดยมีจุดหมายอยู่ที่ ' โขงเจียม ' อำเภอที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย สถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกันคือ ' น้ำตกลงรูหรือน้ำตกแสงจันทร์ ' ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกแสงจันทร์ แห่งนี้ถือเป็นน้ำตกลงรูแห่งเดียวในประเทศไทย มีความแปลกตรงที่สายน้ำไหลมารวมและตกลงตรงรูสู่เบื้องล่าง กลายเป็นเส้นสายโปรยปราย ละอองของสายน้ำสะท้อนแสงแดดเป็นประกายดุจดั่งแสงจันทร์ตามชื่อ แต่ช่วงเวลาที่เราไปนั้นถือว่าน้ำค่อนข้างน้อย ถ้ามาในตอนที่น้ำเยอะ ๆ น่าจะสวยกว่านี้ ส่วนช่วงเวลาที่น้ำเยอะจะอยู่ราวเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน ของทุกปี ไปต่อกันที่ ' อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ' แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของอุบลราชธานี ' ผาแต้ม ' ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ชายแดนไทย - ลาว ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย นั่นก็คือที่ ' ผาชนะได ' ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานนั่นเอง ที่ผาแต้มยังมีจุดที่น่าสนใจอีกแห่งนั่นคือ ' ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ' ซึ่งนักโบราณคดีค้นพบว่าเป็นภาพที่มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เขียนเพื่อบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคนั้น เส้นทางที่จะไปชมภาพเขียนสีต้องเดินเท้าเข้าไป โดยภาพเขียนสีมีไม่ต่ำกว่า 300 ภาพ ตลอดเส้นทางเดินเท้าเพื่อชมภาพสีนั้น นอกภาพเขียนสีที่เป็นไฮไลท์แล้ว ยังสามารถชื่นชมความงามริมฝั่งแม่น้ำโขงและระบบนิเวศโดยรอบของอุทยานแห่งชาติผาแต้มได้อีกด้วย ออกจากผาแต้มไปกันต่อที่ ' น้ำตกถ้ำเหวสินธุ์ชัย ' ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ภายในบริเวณของวัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย ที่นี่มีความน่าสนใจตรงด้านบนผนังถ้ำคือจุดกำเนิดแหล่งน้ำ ที่ไหลมารวมและตกลงที่หน้าถ้ำของบริเวณวัด เกิดเป็นน้ำตกให้ความชุ่มฉ่ำเย็นสบายแก่ผู้ที่มาทำบุญ ปฎิบัติธรรม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความงดงามของน้ำตกแห่งนี้ด้วยเช่นกัน จบการท่องเที่ยวที่ อ.โขงเจียม คืนนี้เราจองที่พักไว้ภายในเมืองอุบลราชธานี ระหว่างทางกลับเข้าตัวเมือง ผ่าน อ.สิรินธร จึงแวะอีกหนึ่งสถานที่ นั่นคือ ' วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ' หรือที่เรียกกันว่า วัดเรืองแสง วัดนี้มีความโดดเด่นตรงที่จิตรกรรมรูปต้นไม้บริเวณฝาผนังอุโบสถสามารถเรืองแสงได้ในเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปถึงยังไม่มืด เลยไม่เห็นความงดงามของต้นไม้เรืองแสง ซึ่งถ้ามีโอกาสมาเยือนครั้งหน้าคงไม่พลาดอย่างแน่นอน จึงทำได้เพียงชมความงามและเก็บบรรยากาศโดยรอบทดแทน รุ่งเช้าของอีกวัน แวะไปไหว้หลวงปู่ชา ณ วัดหนองป่าพง ที่นี่คือจุดหมายหลักในการมาเที่ยวเมืองอุบล ฯ ครั้งนี้ เนื่องจากเราศรัทธาในหลวงปู่ชา เป็นการส่วนตัว จึงมักแวะเวียนมาเที่ยวที่อุบลราชราชธานีเสมอ ' วัดหนองป่าพง ' เป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของอุบลราชธานี เพราะเป็นวัดที่ พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีลูกศิษย์มากมายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นผู้ก่อตั้งวัด และด้วยจริยวัตรอันงดงามและปฏิปทาของหลวงปู่ชา ทำให้วัดหลวงป่าพงกลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปโดยปริยาย ภายในวัดหนองป่าพง จะร่มรื่นไปด้วยบรรดาแมกไม้ต่าง ๆ และตามต้นไม้ก็จะมีคำสอนของหลวงปู่ชาติดไว้ ให้พุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญที่วัดได้อ่านและเรียนรู้ธรรมะจากคำสอนนั้น แม้หลวงปู่ชา ได้ละสังขารไปนานแล้ว แต่คำสอนของท่านยังอยู่และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจได้ดีเสมอ ส่งท้ายทริปด้วยความสงบทั้งกายและใจที่วัดหนองป่าพง ถือว่าจังหวัดอุบลราชธานีนั้น มีความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวสมดั่งคำขวัญประจำจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ป่าเขา น้ำตก วัดวาอาราม พระนักปฎิบัติที่ปฏิปทางดงาม ผู้คนก็น่ารัก ไม่แปลกที่เรามักจะแวะเวียนมาเที่ยวที่นี่บ่อย ๆ แม้ว่าระยะทางจะไกลสักแค่ไหน แต่เมื่อใจรัก ต่อให้ไกลแค่ไหนก็ไม่เคยเป็นอุปสรรคค่ะ ภาพประกอบทุกภาพโดย : นักเขียน เอมพลิโอ