หอยเชอรี่จากการรุกรานของเอเลี่ยนสปีส์ชี่ ที่เข้ามาในประเทศไทย เมื่อหลายหลายปี เข้ามาทำลายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะไร่นาของเกษตรกร ทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหายและนำมาซึ่งการใช้ยาฆ่าแมลงเป็นจำนวนมากทุกวันนี้โดยภูมิปัญญาในการประกอบอาหารของชาวภาคอีสาน ซึ่งกินง่ายอยู่ง่าย สัตว์ทุกชนิดสามารถนำมาประกอบเป็นอาหาร ทำให้สามารถนำสัตว์รุกรานต่างถิ่นชนิดนี่ มาประกอบเข้ากับเมนูอาหารประจำถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมส้มตำป่า ได้มีการนำหอยเชอรี่มาแทนหอยโข่ง ซึ่งหาได้ยากแล้วในปัจจุบัน หรือจะเป็นเมนูหอยจี่ นำย่างในกองไฟ ตำพริก ตะไคร้ เกลือโรยลงไป ก็อร่อยแซ่บโดยไม่ต้องมีน้ำจิ้มเลยค่ะในปัจจุบันนี้หอยเชอรี่เรียกได้ว่าอาจแทบจะไม่มีแล้ว รวมทั้งหอยโข่งเช่นกัน จึงมีการนำหอยเชอรี่มาเลี้ยงเพื่อนำไปขายให้กับแม่ค้าส้มตำ เพราะเมนูส้มตำป่าเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในภาคอีสานหรือจะทำเป็นซุปหอยใส่ใบผักติ้ว วุ้นเส้น ปรุงรสด้วยพริกป่น ข้าวขั้ว น้ำปลาร้า น้ำมะนาว ก็อร่อยได้แล้วค่ะตอนนี้ได้มีเกษตรกรหลายรายได้มีการเลี้ยงหอยเชอรี่เป็นอาชีพเสริม ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องสนใจมาก เพียงมีอาหารและน้ำที่สะอาดให้เขา และยังใช้พื้นที่ไม่มากสามารถเลี้ยงได้ในบ่อปูนซีเมนต์ โดยให้อาหารเป็นจำพวกผักผลไม้เช่นแตงโม ผักไชยาหรือผักผงชูรส กิ่งไม้แห้ง กิ่งเพกา ผักต่าง ๆ ที่หาได้ ออกลูกครั้งละจำนวนมาก แต่จะต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยครั้ง เมื่อสังเกตว่าน้ำเริ่มจะมีอาการเน่า ถ้าไม่เปลี่ยนหอยก็จะตายค่ะเห็นได้ว่าหอยเชอรี่เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน จาการขายตามร้านค้าออนไลน์ https://shopee.co.th/ หรือตามตลาดนัดที่ผู้เขียนเคยไปเดินสำรวจมาถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ เมื่อแกะและต้มแล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 80-120 บาท เลยที่เดียวค่ะจากสัตว์ที่เป็นศัตรูกินต้นข้าว ถ้ารู้จักนำมาใช้ประโยชน์ก็สามารถก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างรายได้ เป็นงานอดิเรก แต่อย่างไรก็ตามต้องรู้จักควบคุมประชากร เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปทำลายระบบนิเวศของพื้นที่นั้น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ ภาพปกโดย: khaofangภาพประกอบโดย: khaofang