เปลือกแก้วมังกร ที่มาภาพ: จิรภรณ์ ยะคำแจ้ แก้วมังกร หรือมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hylocereus polyrhizus (Weber) Britt. & Rose จัดอยูาในวงศ์ CACTACEAE แก้วมังกรส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนนิยมนำมารับประทานสดเป็นผลไม้ หรือนำไปทำเป็นของหวานเช่น วุ้นแก้วมังกร น้ำปั่นแก้วมังกร เป็นต้น แต่คนส่วนใหญ่ จะกินแค่ส่วนเนื้อของมันและทิ้งเปลือกแก้วมังกรให้เป็นขยะ ในแก้วมังกรพันธุ์สีแดง จะให้สีแดงทั้งเนื้อและเปลือก หากเราไม่ต้องการให้เปลือกแก้วมังกรเป็นขยะ เราสามารถนำเปลือกแก้วมังกรไปทำเป็นปุ๋ยหมัก หรือนำไปผสมอาหารเพื่อให้สี แทนสีผสมอาหารที่สังเคราะห์จากสารเคมีก็ได้ทั้งนี้พวกเราได้นำมาประยุกต์ใช้ ในการนำมาทำเป็นเครื่องสำอาง แบบปลอดสารเคมี โดยการนำมาทำเป็นลิปติกที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับปาก และให้สีแดงสดใส โดยการนำเปลือกแก้วมังกร มาสับ บด หรือปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับน้ำมันมะพร้าว สัดส่วนที่ใช้คือ น้ำมันมะพร้าว 5 มิลลิลิตร กับน้ำคั้นแก้วมังกร 3 มิลลิลิตร หรือปรับความแดงตามต้องการ หากใส่น้ำคั้นแก้วมังกรมาก ก็จะได้สีแดงที่เข้มมาก ทั้งนี้สีแดงที่ได้จากเปลือกแก้วมังกร จะให้สีแดงที่มากกว่าน้ำคั้นจากดอกกุหลาบ แต่ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนดอกกุหลาบเมื่อผสมน้ำคั้นแก้วมังกรให้เข้ากับน้ำมันมะพร้าวแล้ว ก็ให้นำไปแช่ตู้เย็นที่เป็นช่องแช่แข็งก่อนออกนำมาใช้ เพื่อให้น้ำมันมะพร้าวแข็งตัว เมื่อแข็งตัวแล้ว ก็จะนำออกมาใช้ทาปากได้ เนื่องจากไม่ได้มีส่วนผสมของสารเคมี ลิปสติกนี้จะมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าลิปสติกจากสารเคมี ซึ่งแล้วแต่ความสะอาดของผู้ผลิต ประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือน หรือมากกว่านั้นค่ะ นำแก้วมังกรมาสับและคั้นน้ำ ที่มา: จิรภรณ์ ยะคำแจ้ นำไปผสมกับน้ำมันมะพร้าวให้เข้ากันและนำไปแช่ตู่เย็น ที่มา:จิรภรณ์ ยะคำแจ้ การนำเปลือกแก้วมังกรทำเป็นลิปสติก แม้อายุการใช้งานอาจจะไม่คงทนเหมือนสารเคมี แต่ก็มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และที่สำคัญเป็นการนำขยะที่ไม่ใช้แล้ว (เปลือกเหลือทิ้ง) นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้หากต้องการสีอื่น ก็สามารถคั้นมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวได้ เช่น สีม่วงจากดอกอันชัญ สีชมพูจากดอกกุหลาบ เป็นต้น