สวัสดีค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวของหวาน ที่หน้าตาน่าทานมาก ๆ นั่นก็คือของหวานบัวลอยฟักทอง โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้จักกันใช่ชื่อของบัวลอยไข่หวาน ที่จะปั้นบัวลอยเป็นลูกกลม ๆ มีมะพร้าวอ่อน ๆ และมีไข่ข้างใน แต่บัวลอยที่ผู้เขียนหัดทำสูตรนี้ จะมีการปั้นบัวลอยเป็นรูปฟักทองด้วยค่ะ โดยสีที่ใช้ในการปั้นบัวลอยฟักทอง สีเหลืองนำมาจากเนื้อฟักทองนึ่ง และสีเขียวที่ใช้ทำเป็นก้านและใบทำมาจากสีของใบเตยค่ะ แป้งข้าวเหนียวที่บดกับน้ำใบเตย (ซ้าย) และฟักทอง (ขวา) เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย ส่วนผสมบัวลอยมีดังนี้ 1. ฟักทอง 450 กรัม 2. แป้งข้าวเหนียว 350 กรัม 3. น้ำตาลมะพร้าว 80 กรัม 4. น้ำตาลทรายขาว 45 กรัม 5. น้ำใบเตย 40 กรัม 6. หัวกะทิผสมกับหางกะทิ 400 กรัม 7.ใบเตย 3 มัด 8. เกลือ 3/4 ช้อนชา เมื่อเตรียมส่วนผสมเสร็จแล้วขั้นตอนการทำมีดังนี้ 1. นำฟักทองมานั่งจนเหลืองสุก (ประมาณ 20 นาที) เมื่อสุกแล้วให้นำไปบดให้ละเอียด (บดตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่เลยนะคะ) 2. นำแป้งข้าวเหนียว 250 กรัม ผสมลงไปในฟักทองที่เตรียมไว้แล้วนวดให้เข้ากันจนเนื้อเนียน 3. ในส่วนของสีเขียวเพื่อทำก้าน ให้นำแป้งข้าวเหนียว 100 กรัมผสมกับน้ำใบเตย และนวดให้เข้ากันจนเนื้อเนียน 4. จากนั้นนำแป้งก้อนสีเหลืองมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ และใช้ไม้จิ้มฟันกดเป็นร่อง ๆ เพื่อให้ดูเหมือนฟักทอง 5. ส่วนสีเขียวก็นำมาปั้นเป็นก้านและใบ 6. เมื่อปั้นเสร็จแล้ว นำไปต้มน้ำร้อนจนสุก (สังเกตจากการที่เห็นบัวลอยฟักทองลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ) 7. เมื่อเสร็จแล้วให้ตักออกไปแช่ในน้ำเย็น 8. นำน้ำกะทิตั้งไฟผสมกับน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลมะพร้าว และน้ำใบเตย คนให้เข้ากัน 9. นำบัวลอยที่เตรียมไว้ใส่ในกะทิ เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ ภาพการต้มกะทิ (ซ้าย) และบัวลอยในน้ำกะทิ (ขวา) บัวลอยในน้ำกะทิที่พร้อมรับประทาน ในการทำครั้งนี้สำหรับผู้เขียนเป็นการทำครั้งแรก ผู้เขียนให้คะแนนตัวเอง 4 เต็ม 5 เพราะรสชาติไม่หวานเกินไป และก็ออกมาเป็นบัวลอยน่ากิน และหักคะแนนในส่วนของการปั้นที่ยังไม่สวยเท่าที่คิด และน้ำกะทิก็ออกเป็นสีเขียวของใบเตยมากเกินไป และสำหรับใครที่ชอบมีเนื้อมะพร้าวก็สามารถขูดเนื้อมะพร้าวใส่เพิ่มให้น่ากินได้ ก็จะกลายเป็นบัวลอยฟักทองมะพร้าวอ่อน ถ้าผู้อ่านเห็นแล้วอยากกินบ้างลองเอาไปทำตามดูได้นะคะ ที่มาภาพถ่ายทั้งหมดโดยนักเขียน : จิรภรณ์ ยะคำแจ้