Turning thirty ปีนี้ไม่อยากโสด กับความรู้สึกโสดในโหมดใกล้ 30Turning thirty ปีนี้ไม่อยากโสด เขียนโดย ไมค์ เกล แปลโดย ภูมิชาย บุญสินสุข วรรณกรรมแปลจากแพรวสำนักพิมพ์ หนังสือจำนวน 358 หน้า ราคาหลังปก 245 บาทTurning thirty ปีนี้ไม่อยากโสด หนังสือเล่มหนา สนุกและชวนติดตาม เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครชื่อแมท เบ็คฟร์อด ชายชายหนุ่มในอายุ 29 ปีที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัย 30 และในวัยก่อน30ปีที่จะถึงนี้เขาเผชิญความยุ่งยากลำบากใจคือถูกพักงาน เลิกกับแฟน จนต้องกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ชั่วคราว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่พาเขาได้ไปพบกับบรรยากาศเก่า ๆ เพื่อนเก่า การหวนรำลึกความหวังในวัยใกล้สามสิบจึงเกิดขึ้นหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ย้ำถึงช่วงวัย ความรู้สึกนึกคิดของคนในวัยใกล้ 30 ปี ไมค์ เกล หรือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้สร้างตัวละครที่พยายามตั้งคำถามการก้าวข้ามวัย 29 ปี สู่30 ขวบปีด้วยความวิตกกังวล นอกจากพูดถึงช่วงวัยแล้วหนังสือยังถามถึงความรู้สึกที่เป็นความรู้สึกชนิดที่ว่า “เรายังรักกันหรือเปล่า” เมื่อต้องห่างจากแฟนเก่าและกลับมาบ้านเกิดตัวละครเอกยังต้องเจอกับ สาวฮอต เพื่อนเก่าที่เคยแอบชอบ และ เขายังเฝ้าถามตัวเองตลอดว่าถ้าความรักเกิดขึ้นระหว่างเขากับเพื่อนสุดฮอตนี้ ท้ายที่สุดมันจะเป็นอย่างไรขณะที่การบอกเล่าดำเนินไปผ่านตัวละครเอกแมท เรื่องความรู้สึกก็ดูยุ่งยากไม่แพ้กัน ความยุ่งยากเกิดขึ้นจากความสลับซับซ้อนบนความสัมพันธ์ของแมทที่มีต่อแฟนเก่า และสาวอีกคนที่เคยเป็นเพื่อนในวัยมัธยม บางครั้งก็ชวนให้คนอ่านสับสนว่าทำไมความสัมพันธ์มันยากขนาดนี้ แต่บนโลกนี้คงไม่มีความสัมพันธ์ที่เรียกว่าง่ายไปเสียทีเดียว อย่างน้อยการคิดถึงสักคนก็คือความยากที่จะก้าวผ่านไปได้ในแต่ละวันที่ต้องห่างไกลนอกจากคำตอบของหัวใจ และสถานะความสัมพันธ์ที่แมท เฝ้าตั้งคำถามอยู่เนือง ๆ เรื่องมิตรภาพในหนังสือที่เล่าไว้ก็กินใจไม่แพ้กัน เพราะการย้อนกลับไปวันคืนเก่า ๆ ของเขาไม่ใช่แค่ย้อนความคิดถึง แต่เป็นการย้อนกลับไปหา เพื่อให้รู้ว่าเพื่อนแต่ละคนที่พอจะนึกได้ทำอะไรกันอยู่แมทย้อนกลับไปพบกับมิตรภาพเก่า ๆ และเฝ้าหาคำตอบของหัวใจ วัยสามสิบปีก็ใกล้เข้ามา ตัวละครเอกยังชวนให้เราลุ้นว่าในวัยที่จะเข้าสู่ปีที่ 30เกิดอะไรขึ้นบ้าง และพอเข้าสามสิบแล้วเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เขาอาจเปลี่ยนไปมากในความรู้สึก หรือไม่เปลี่ยนอะไรเลย แล้วตกลงเปลี่ยนจริงหรือเปล่า นั่นสิ! แล้วเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อวัย 30 ปีมาถึง?ในท้ายที่สุดไมค์ เกล ก็สามารถสื่อบทสรุปของตัวละครที่เขากล่าวถึงในมุมของเขาได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งถ้าอ่านในมุมของเรามีหลายจุดที่ไม่ยักจะเห็นด้วย แต่คงเป็นจุดเล็ก ๆ เท่านั้น ถ้าเผื่อใจไว้สำหรับในมุมของผู้เขียนสักหน่อยก็ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการเปิดประสบการณ์ร่วมรับในความรู้สึก ย้อนวันวานไปกับตัวละครเพื่อซึมซับความคิดถึง มิตรภาพของเพื่อนฝูงที่ซึมผ่านเข้ามาสู่หัวใจของคนอ่านนอกจากการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ผ่านตัวละครที่ชวนติดตามแล้ว บางถ้อยคำในหนังสือก็กระแทกใจได้ไม่แพ้กัน ผู้เขียนบทความขอยก 10 ข้อความประทับใจในหนังสือ เพื่อแชร์ความประทับใจเหล่านั้นมาไว้ ณ ที่แห่งนี้“ถ้าผมจะหาคำตอบให้กับอะไรสักอย่างละก็สถานที่ที่ดีที่สุดที่จะให้คำตอบผมได้ ก็คือที่บ้านนี่เอง” “ชีวิตไม่ง่าย แต่มันก็คุ้มค่ากับความลำบาก” “ศิลปะแห่งการยอมรับนี่ ผมว่าคงหมายถึงการมีความสุข กับสิ่งที่เรามีอยู่นั่นเอง” “การที่มิตรสหายของเรายอมรับในความสำเร็จที่ดูไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรนั้น เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้เรามีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย” “ไม่ว่าเธอจะแน่ใจในความรักของใครสักคนแค่ไหน การได้ยินได้ฟังกับหูย่อมน่าชื่นใจเสมอ” “เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะพอใจกับมันหรือไม่แค่ไหน และยิ่งคุณอายุมากขึ้น ยิ่งเกิดเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตคุณมากขึ้นตามลำดับ” “ชีวิตของพวกเราทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน เราคงประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งเดียวกัน และเราคงได้อะไรต่อมิอะไรอย่างเท่าเทียมกัน แต่ชีวิตมิได้เป็นเช่นนั้นเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงทั้งนั้น” “พวกเรานั้น ไม่มีใครเลยสักคนที่ยังคงเป็นอย่างที่เราเคยเป็น พวกเราต่างก็เดินไกลออกไปและลึกลงไปในหนทางของเราเอง สิ่งที่เราประสบพบเห็นก็ช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน เราเติบโตและแตกต่างกันอย่างมากมาย จนไม่มีทางที่เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกเลย” “สิ่งที่คุณอยากได้ยินน่ะ น้อยครั้งที่จะเป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ สำหรับคุณ” “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่คนเราต้องทำกันทั้งนั้น เมื่อเราเติบโตขึ้น เราต้องเก็บข้าวเก็บของและเดินต่อไปข้างหน้าเสมอ” หนังสือบางเล่มเปิดออกมาอาจกระแทกใจคุณได้อย่างจัง หรือผ่านมาเพื่อให้ได้เปิดและจบลง แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้เป็นหนังสือเล่มที่น่าเบื่อที่สุด หลังจากนั้นเนิ่นนานหนังสือเล่มนั้นอาจให้อะไรบ้าง เพราะชีวิตเคลื่อนไปข้างหน้า จะทรงคุณค่าเมื่อหวนกลับมามองเสมอ เรื่องบางเรื่องสุดจะเศร้า พอนาน ๆ เข้ามองย้อนกลับมาอาจเป็นเรื่องตลกไปเลยก็ได้ไม่ว่าปีนี้จะอายุเท่าไหร่ ปีหน้าตัวเลขก็ต้องเพิ่มขึ้นอีกปีอยู่ดี 29 ขวบ ไม่ได้น่ารักมากไปกว่ากว่า 30 ,40 หรือ 50 ปีเลยแม้แต่นิดเดียว และ 30 ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเมื่อชีวิตยังมี 31 รออยู่ ว่าแต่อีก30 ปีข้างหน้าเราทำอะไรกันอยู่นะ? หากนักอ่านท่านใดสนใจหนังสือ Turning Thirty ปีนี้ไม่อยากโสด ท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือกลุ่มหนังสือมือสอง และ แอฟพลิเคชัน ช็อปปิ้ง ต่าง ๆ ค่ะเครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียนบทความ