นอกจากภาพยนต์ไทบ้านเดอะซีรีส์จะให้ความบันเทิงความสนุกแก่ผู้ชมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้จนอดไม่ได้ที่จะแบ่งบัน นั่นคือการเผยให้เห็นถึงความต่างทางวัฒนธรรม ระหว่างคนเมืองและคนไทบ้าน ตามสัญญะและการสื่อความต่าง ๆ ในตัวภาพยนตร์ ซึ่งเราแทบไม่รู้สึกตัวเลยขณะชมครับและในบทความนี้จะพาทุกท่านเจาะเข้าไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตามการตีความและมุมมองของจิราจอม แต่เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถในการอ่านบทความมากขึ้น กระผมของแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รับชม ภาพยนต์ ไทบ้านเดอะซีรีย์ (2017) ผ่านทางทรูไอดีก่อนนะครับ 1.ความรักของจาลอดเรื่องมีอยู่ว่า จาลอดชื่นชอบสาวงามแท้ ๆ อยู่สองคน ซึ่งก็คือ คุณหมอปลาวาฬ และ คุณครูแก้วตอนแรกจาลอดไม่กล้าจีบคุณหมอปลาวาฬเนื่องจาก เขาคิดว่าตัวเองมีฐานะต่ำเกินไปที่จะจีบหมอ จึงต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งง่ายที่สุดก็คือการเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้กลายเป็นเสื้อเชิ้ต ปลอมตัวเองว่าเป็นครู เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองส่วนลักษณะของการจีบคุณหมอปลาวาฬ จะเป็นการพาไปเที่ยวไปดูหนังเข้าพิพิธพันธ์แบบคนในเมือง แต่เขาไม่ได้เปลี่ยนตนเองภายในซึ่งมีความเป็นธรรมชาติอยู่ เป็นสัญญะที่สะท้อนว่าคนไทบ้านอย่างจาลอด เปลี่ยนภายนอกอย่างไร อยู่ที่ไหนก็ยังเป็นคนไทบ้าน ส่วนลักษณะการจีบคุณหมอบ่งบอกถึงการให้ค่าและราคากับคนเรียนสูงอย่างคุณหมอจาลอดสื่อแทนตัวเองด้วยการใช้เครื่องมือให้ความหมายต่าง ๆ (เสื้อผ้า) สร้างความสัมพันธ์ให้อยู่ในฐานะเท่าเทียมกันกับคุณหมอปลาวาฬ เสมือนเพื่อนคุยเล่นได้ ความสัมพันธ์ของจาลอดกับหมอปลาวาฬจึงเพิ่มรวดเร็วกว่าครูแก้ว และเป็นหมอปลาวาฬที่รักจาลอดอย่างแสดงออกชัดเจนกว่าในตัวภาพยนต์ส่วนลักษณะการจีบคุณครูแก้วของจาลอด เขาได้แสดงออกมาจากธรรมชาติของเขาเต็มร้อย ด้วยฐานะอันแท้จริงของเขา เขาพาสาวไปเที่ยวตลาดนัด พาไปตกปลาที่คูแปลงนา เขาเริ่มต้นจากการเป็นคนทำความสะอาดบ้านให้ครูแก้ว และก็เป็นภารโรงที่โรงเรียนของครูแก้ว ดังนั้นการเอาชนะใจครูแก้วจึงต่างจากการเอาชนะใจคุณหมอปลาวาฬ จาลอดต้องใช้ความพยายามมากกว่าเนื่องจากฐานะที่ด้อยกว่าในการรับรู้ของอีกฝ่ายครูแก้วเป็นผู้หญิงที่เจ้าลอดต้องเอาใจแบบขั้นสุด ตัวละครนี้ยังมีความเป็นเด็กผู้หญิงที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่มาก แตกต่างจากหมอปลาวาฬซึ่งมีลักษณะของการปรับตัวและพึ่งตัวเองมากกว่าครูแก้ว สุดท้ายแล้วจาลอดจึงเลือกครูแก้ว ซึ่งเป็นผู้หญิงที่รักจาลอดน้อยกว่าคุณหมอปลาวาฬถอดรหัสจากการจีบและการลงเอยกับคุณครูแก้ว โดยลักษณะการเลือกคู่ของคนไทย มักเลือกคนที่มีฐานะใกล้เคียงกันมากที่สุด และมักเลือกคนที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองปรับตัวมากที่สุด ซึ่งสามารถอธิบายได้ในเหตุการณ์ ที่จาลอดเหมือนจะอกหักเมื่อครูแก้วกลับเมืองไปกับนายตำรวจ ไม่เลือกคนไม่มีปริญญาแบบเขาแต่สุดท้ายเขาก็ได้รับชัยชนะเนื่องจากความทุ่มเทของเขาทั้งหมด ซึ่งทำให้ครูแก้วรับรู้ได้ว่าจาลอดรักเธอมากกว่า โดยตัวหนังต้องการจะสื่อถึง ความเป็นตัวของตัวเอง การให้คนรัก รักเราในแบบที่เราเป็นตามจริง ผู้รับชมจะได้รับความรู้สึกอิ่มเอมเหมือนถูกปลดปล่อยจากค่านิยมของสังคมในปัจจุบัน และย้อนกลับมาดูตัวเองว่าเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนธรรมชาติของเรา จงภูมิใจในความเป็นธรรมชาติของเราที่สามารถเอาชนะใจของผู้อื่นได้ เมื่อพยายามอย่างเต็มที่พร้อมกล้าเสียสละอย่างอื่นเพื่อสิ่งที่เราต้องการ2.ป่องกับการทำนาของเขาเส้นเรื่องนี้ เราจะเห็นถึงการต่อสู้ของคนเมืองที่ต้องเอาชนะใจของคนชนบท(พ่อของป่อง) โดยเป้าหมายหลัก ๆ ของป่องก็คือทำนาให้สำเร็จเพื่อขอเงินพ่อในการเปิดเซเว่น แน่นอนว่าความพยายามของป่องดูเหมือนจะตลกในสายตาของพ่อ แต่ความพยายามของป่องก็มีลักษณะในแง่ของการเป็นคนเมือง ซึ่งเชี่ยวชาญเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ตั้งคำถามหาทางที่สบายที่สุด เขาพยายามจะเอาเครื่องมือ วิธีการใหม่เข้ามาใช้ ด้วยการคิดมากกว่าการลงมือทำ เพราะยังลงมือทำไม่เป็น เขามีวิธีหาความรู้ มีวิชาการ แต่ไม่มีทักษะในการทำนาเลย การปลูกข้าวทำนาจึงดูเหมือนจะล้มเหลว แต่ท้ายที่สุดเขาก็ผลิตข้าวได้ ซึ่งด้วยความรู้ต่าง ๆ ทั้งเรื่องการตลาด การปลูกข้าวไรท์เบอรี่ การทำบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ซึ่งมีราคาแพงกว่าข้าวทั่วไป ทำให้เขาชนะใจพ่อได้เส้นเรื่องของป่องสัญญะมักสอดแทรกมาในรูปของ การใช้เทคโนโลยีมากกว่าการทำมือของนายป่อง และการไม่เข้าใจวิถีของธรรมชาติ แต่การต่อสู้กับการทำนาของป่องแม้จะดูแปลกแยกจากสภาพแวดล้อมและสังคมในตัวหนัง แต่ท้ายสุดป่องก็ยังไม่ได้ทิ้งความเป็นวิถีคนเมืองในตัวตนของเขาเอง เขาสามารถเอาชนะความเป็นชนบทในรูปแบบของเขาเอง ไม่ได้ถูกกลืนกินไปทั้งหมด ก็เช่นเดียวกับที่จาลอดที่เอาชนะใจสาวชาวเมืองโดยที่เขาก็ไม่ได้ถูกกลืนกินทางวัฒนธรรมไปทั้งหมดเช่นกัน ทุกอย่างผสมผสานอยู่ตรงกลางอย่างลงตัว นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ผมชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ3.ไลน์กลุ่มหมู่บ้านจบเส้นเรื่องคร่าว ๆ ฉะนั้นเราไปดูกันเถอะว่าระหว่างดำเนินเรื่องอยู่ มีอะไรบ้างที่น่าพูดถึง ในฉากแรก เราจะได้เห็นความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมกับเทคโนโลยี เมื่อเสียงตามสายยามเช้าได้ประกาศบอกว่า “ตอนนี้หมู่บ้านของเราได้มีไลน์กลุ่มหมู่บ้านแล้ว” ซึ่งประกาศโดยใช้เสียงตามสาย เป็นการเทียบเคียงวิธีการสื่อสารไปในตัว เราสามารถมองได้ว่า Digital Disruption กำลังมีบทบาทและอิทธิพลต่อชนบท ซึ่งส่งผลให้ชาวไทบ้านเริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงวิถีบางอย่างของตัวเองไป แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะทิ้งเสียงตามสายตอนเช้าหรือใช้ไลน์กลุ่มเพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานสร้างวิถีใหม่ได้อย่างลงตัว ตัวหนังได้ทิ้งไว้ให้เราคิดอย่างน่าสนุก4.ห้องน้ำของคนอีสาน เมื่อจาลอดตื่นเช้ามา เขามีความต้องการเข้าห้องน้ำเป็นอย่างมาก แต่ทว่าห้องน้ำบ้านตัวเองเสีย ยายจึงบอกให้เขาไปเข้าบ้านเพื่อน แต่ทว่าห้องน้ำบ้านเพื่อนก็เสีย สุดท้ายลงเอยที่การอาบน้ำด้วยโอ่งและขันอยู่หน้าบ้าน เราจะเห็นว่าคำว่าห้องน้ำของคนอีสานกับคนเมืองต่างกัน การอาบน้ำของผู้ชายอีสานไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมฉาบปูนดูแข็งทื่อ แต่มีฉากหลังอยู่ร่วมกับป่าไม้ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเปิดกว้าง ดั่งต้องการจะบ่งบอกว่า วิถีของไทบ้านไม่จำเป็นต้องปกปิดบังตัวตนมาก มีความสบายและความเป็นธรรมชาติสูง5.การช่วยเหลือเกื้อกูลเมื่อนายป่อง เรียนจบกลับมาจากกรุงเทพฯ เขาขอเงินผู้พ่อที่เป็นผู้ใหญ่บ้านเปิด เซเว่น แต่ทว่าพ่อก็บอกให้ไปทำนาให้ได้ก่อนถึงจะให้เปิด เซเว่น พร้อมทั้งให้เอาอาหารไปให้ยายจ่อยด้วย ฉากนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่าคนชนบทอยู่อย่างช่วยเหลือเกื้อกูล ซึ่งแตกต่างกับโลกของนายป่องซึ่งมีลักษณะของคนเมืองขนานแท้ เรื่องของการทำธุรกิจแข่งขัน รวมทั้งลักษณะของนายป่องก็แสดงออกชัดว่าต้องการจะสื่อถึงภาพของคนเมืองโดยทั่วไป เช่น การพูดจาสุภาพ การไม่แสดงออกเต็มตัวตน ใส่เสื้อเชิ้ตมีปกมีความเรียบร้อยเป็นทางการ พูดภาษากลางเด่นชัดมากจนดูแตกต่าง 6.กีฬาเอาลูกลงหลุมไม่ว่าจะตีกอล์ฟหรือดีดลูกแก้ว เป้าหลักของเกมนั้นคล้ายกัน แต่ชนบทใช้มือเล่น ส่วนคนเมืองใช้อุปกรณ์เล่น สื่อชัดเจนมาก ว่าคนเมืองมักพึ่งพาเทคโนโลยีมากกว่าชนบท แต่ทว่าการสัมผัสโดยตรง จะได้อารมณ์ความรู้สึกของธรรมชาติ ที่ไม่เสริมเติมแต่งมากกว่า เรารู้สึกไม่แข็งทื่อกับการใช้นิ้วมีความอ่อนนุ่ม และผ่อนอ่อนได้ แล้วท่านผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับสัญญะที่อยู่ในภาพยนต์เรื่องนี้ บางท่านอาจจะรู้อยู่แล้ว หรือบางท่านอาจมองข้าม สุดท้ายอย่างไรก็ตามขอให้มีความสนุกกับบทความและภาพยนต์ครับ