ถ้าพูดถึงความเป็นวิถีแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ใช้ชีวิตแบบไม่ยุ่งยาก หลายคนคงอยากนึกถึงท้องทุ่งนา ลมเย็น ๆ อยู่แบบสโลวไลฟ์ แต่ให้ตายเถอะ ชีวิตจริงมันแทบจะไม่ได้เจอโอกาสที่จะอยู่แบบนั้นเลย เพราะต้องเจอทั้งฝุ่นควัน รถติด และความวุ่นวายในชีวิต ซึ่งเมื่อถึงวันหนึ่งที่อยากจะหนีออกไปที่ไหนสักแห่งในประเทศไทย ที่ที่คนไม่เคยไป ที่ที่คนไม่เคยสัมผัส แบบนั้น จะเป็นอย่างไรกันนะ ?? จ.สุรินทร์ จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน อยู่ติดกับบุรีรัมย์และศรีษะเกษ ... ใช่ บุรีรัมย์ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองในด้านกีฬา และศรีษะเกษ ที่มีมีดินดี ที่ปลูกอะไรก็ได้ผลดิบดีซะเหลือเกิน จ.สุรินทร์เป็นพื้นที่ ที่รายล้อมด้วย จ.ที่เจริญ แต่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก บ้างก็เข้าใจว่าเป็นเกาะ .... เอ่อ ภาคอีสานนะ บ้างก็รู้ว่า สุรินทร์คือเมืองช้าง แต่ก็ถามเชิงกวน ๆ ว่า “แล้วขี่ช้างมาเรียนด้วยป่ะ” เอาเป็นว่า ถ้าขี่ช้างมาเรียนจริงๆ คงต้องตื่นกี่โมง ถึงจะทันเข้าแถวนะ ? แน่นอนว่า สุรินทร์ไม่ได้มีดีแค่ช้าง และหลาย ๆ จังหวัดเอง ก็ไม่ได้มีดีแค่ของพื้นที่ที่ทำให้นึกถึง ที่หมู่บ้านหนองซำ ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านนวัตวิถี ที่ใช้ชีวิตฉบับที่ ทำแม้กระทั่งจะไม่มีนักท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้โชคดีในเรื่องของทรัพยากรดินและน้ำ ซึ่งพื้นที่หมู่บ้านอยู่ติดกับลำชี ทำให้มีน้ำใช้แทบจะทั้งปี เพราะมีแม่น้ำอยู่ใกล้ และมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี แม้จะเจอภัยแล้งหนักแค่ไหน ชาวบ้านหนองซำก็ไม่หวั่น และที่สำคัญชาวบ้านที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจคือ การหาของป่า ในทุกช่วงฤดูของประเทศไทย ไม่มีผลต่อการอดอยากของชาวบ้านที่นี่ หน้าฝนหาเห็ด หน้าร้อนแหย่ไข่มดแดง หน้าหนาวก็เก็บบัว เราจะยกตัวอย่างเรื่องของการแหย่ไข่มดแดงให้ทุกคนอ่านกัน.. ชาวบ้านที่นี่จะนัดรวมตัวกันในช่วงเย็นของบางวันที่อยากมีการสังสรรค์กันในหมู่บ้าน เขาจะมีอุปกรณ์ได้แก่ ไม้ไผ่ที่มีขนาดยาวววววว~ ตะกร้าหวาย ถังใส่น้ำ ผ้ากรอง และขับมอเตอร์ไซต์พ่วงรถเข็น ขับตามกันเป็นคาราวาน โดยจุดหมายปลายทางคือ ท้ายหมู่บ้าน บริเวณดังกว่างอยู่ติดลำห้วย และมีต้นไม้เต็มไปหมด มองไปทางซ้ายเป็นสระบัว มองไปทางขวาเป็นกองฟางที่ถูกทิ้งไว้ให้วัว ควาย หลังการเก็บเกี่ยวข้าว และชายวัยกลางคน วัยประมาณ 50 ปี ที่ยืนแหงนมองอะไรบางอย่างบนต้นไม้ต้นหนึ่ง ... ชาวบ้านเล่าว่า “กิจกรรมนี้เรียกว่า แหย่ไข่มดแดง ซึ่งในช่วงเดือน พฤษภาคม ไข่มดแดงจะเยอะมาก และมีขนาดใหญ่ ให้สังเกตุดูรังมดแดงว่ารังไหนที่ใบไม้เป็นสีน้ำตาล แสดงว่ารังมดแดงนั้นไข่เยอะ “ พวกเขาพากันด้อม ๆ มอง ๆ กันอยู่สักพัก และทำการใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมา แหย่ทะลวงไปที่กลางรัง ทันใดนั้นมดแดงก็พากันกรูออกมาจากรัง และตกลงตะกร้าหวายที่ถูกผูกติดกับไม้ไผ่ จังหวะนั้น ตัวฉันที่ยืนมองก็ยืนกรี๊ดกร๊าดจากความหวาดกลัวของมดแดงว่าจะกระเด็นมาโดนตัวเมื่อไร ชาวบ้านหัวเราะในความเปิ่นของฉัน แต่ก็ไม่วายสอนให้แหย่ไข่มดแดงดูบ้าง อาหารชั้นสูง แน่นอนว่าการแหย่ไข่มดแดง สำหรับบางคนนั้นอาจจะดูแสนธรรมดา บ้างก็บอกว่าแล้วทำไมต้องเหนื่อยไปเเหย่เอง ซื้อตามตลาด กองละ 10 บาทเท่านั้น ก็ถูกของคุณ แต่การที่เราได้ลงมือทำ และสัมผัสมันด้วยตัวเอง มันคือประสบการณ์อย่างหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเอาตรงๆว่า แหย่มา ชาวบ้านยำไข่มดแดงให้กิน ก็ไม่กล้า เพราะตอนเด็กๆ เข้าใจว่า อาหารที่มีมด คืออาหารที่กินไม่ได้ ชาวบ้านตอบกลับว่า “นี่แหละอาหารชั้นสูง แหย่จากต้นไม้สูงๆ ไม่ได้กินน่าเสียดายแย่” ภาพ โดย JJ (ผู้เขียน)