"สุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม" การเดินทางโดยรถสาธารณะ ในปัจจุบันมีผู้คนใช้บริการเยอะ เพราะราคาถูกกว่าการเดินทางโดยรถส่วนตัว แถมยังมีความสะดวกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน รถสาธารณะบางประเภทก็มีจะพ่อค้าแม่ค้าขึ้นไปขายอาหาร หรือขายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่รถจอด แสดงถึงความฉลาดในทางการตลาดของพ่อค้าแม่ค้าที่ว่า ผู้คนที่ใช้บริการรถสาธารณะไม่สามารถหยุดรถได้ตามเวลาที่ตนเองต้องการ แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบของผู้ให้บริการ จากที่จะไปซื้อที่ร้านประจำถาวร พ่อค้าแม่ค้าเลยนำขึ้นมาขายบนรถสาธารณะแทนเลย ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้บริการรถสาธารณะเป็นอย่างมาก... สำหรับวันนี้ผมเลยจะพาทุกคนไปดูเมนูอาหารที่คาดว่าหลายคนเคยทานกันอย่างแน่นอนครับ และเชื่ออีกว่าหลายคนไม่เคยซื้อในที่สถานที่ที่ผมจะพาทุกคนไปชมอย่างแน่นอนครับ ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าเป็นอาหารชนิดใด ขายที่ไหน มีอะไรเด่นกว่าที่อื่นอย่างไร งั้นเราไปชมกันเลยครับ... ในเดือนตุลาคมผมมีโอกาศได้ไปที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้บริการรถไฟขบวน 421 ท้องถิ่น จากลำปลายมาศ ไปสถานีรถไฟสุรินทร์ในตั๋วราคา 16 บาทซึ่งถูกมากเลยครับใช้เวลาในการเดินทางแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ ระหว่างเดินทางก็ได้พบปะกับผู้คนที่เดินทางเหมือนกับผม เยอะแยะมากมาย และสิ่งที่สะดุดตาผมมากที่สุดคือ บนรถไฟมีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายอาหารด้วย ซึ่งเป็นประสบการณ์ในการนั่งรถไฟที่ดีเลยละครับ เราไปดูกันครับว่า สิ่งที่ผมเห็นพ่อค้าแม่ค้า ขายกันคืออะไร? สำหรับอาหารที่พ่อค้าแม่ค้าขายบนรถไฟนี้คือ ข้าวเหนียวไก่ย่างนั่นเองครับ ถือได้ว่าเป็นอาหารอีกเมนูที่เหมาะต่อนักเดินทางมากเลยครับ เพราะสะดวกต่อการนั่งทานบนรถไฟ ราคาไก่ย่างเริ่มตั้งแต่ ไม้ละ 10 บาท ครับ ข้าวเหนียวก็ห่อละ 5 บาทครับ ถือว่าถูกและอร่อยมากเลยครับ สำหรับจุดเด่น หรือเรียกได้ว่าเป็นสเน่ห์ของพ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟเลยก็คือ การถือตระกร้าใส่สินค้าแล้วเดินขายกลับไป กลับมาทั้งขบวน น้ำเสียงและภาษาที่พ่อค้าแม่ขาย เปล่งออกมาก็ไพเราะและเป็นเอกลักษณ์มากครับ (ไก่จ้าไก่ ไก่ไหมไก่ ด้วยน้ำเสียงและภาษาของแม่ค้า มันเป็นความทรงจำที่ดีมากครับ) นอกจากพูดจาไพเราะแล้ว พ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟนี้ยังมีความเป็นกันเองมากเลยครับ ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่จะอดอุดหนุนข้าวเหนียวไก่ย่างพ่อค้า แม่ค้า ไม่ได้เลยครับ สำหรับข้าวเหนียวแม่ค้าบอกว่าเป็นข้าวที่ที่บ้านปลูกเองครับ ถ้านำมานึ่งแล้วขายแบบนี้จะเพิ่มราคาให้กับข้าวมากกว่าการขายแบบข้าวเปลือกครับ ได้กินทั้งอาหารแบบเดิมแต่ในที่ที่แปลกใหม่ แถมยังได้กินอาหารจากชาวนาโดยตรงด้วย ถือว่าเป็นการเดินทางที่ดีมากเลยครับ ลืมบอกไปครับว่ารถไฟที่ผมขึ้นมีทั้งหมด 3 ตู้ เลยมีแค่ไก่ย่างกับข้าวเหนียวขาย ผมคิดว่ารถไฟที่มีหลายตู้ขบวนยาว ๆ น่าจะมีสินค้า ขายเยอะกว่านี้นะครับ ยังไงถ้าใครได้เดินทางไปที่ไหน แล้วสามารถนั่งรถไฟไปได้ก็อยากให้ลองนั่งรถไฟกันดูนะครับ เพราะท่านจะได้ประสบการณ์ในการเดินทางดี ๆ ที่ผมได้กับการเดินทางแบบครั้งนี้ครับ...