อื่นๆ

เล่นซ่อนแอบ ผีบังตา สุดหลอนขย่มขวัญ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เล่นซ่อนแอบ ผีบังตา สุดหลอนขย่มขวัญ

ผีบังตา

สวัสดีครับ​ หลังจากอ่านเรื่องหลอนของคนอื่นมาเยอะ​ ผมขอแชร์ประสบการณ์หลอน​ๆ​ มาให้คนอื่นอ่านบ้างนะครับ​ ดีไม่ดียังไงก็ขออภัยไว้ก่อนนะครับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว​ จำไม่ได้ว่าประมาณกี่ปี​ แต่ตอนนั้นจำได้แม่นว่าผมยังเด็กอยู่​ น่าจะประมาณ​
ป.5 หรือ​ 6 ตัวผมก็เป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึง​ ที่ชอบเล่นแบบลุย​ๆ​ ตามประสาเด็กท้องทุ่ง​ทั่วไป

เย็นวันนึง​ผมและเพื่อน​ๆ​ รวมกันประมาณ​ 6 คน​ ก็เกิด​ๆนึกสนุกขึ้นมา​ อยากจะเล่นซ่อนแอบ เวลานั้นเนี่ยจะเรียกว่ามืดมั้ย​ ก็ไม่มืดนะ​ เรียกว่าโพล้เพล้​น่าจะได้​ แต่... สถานที่ที่จะไปเล่นเนี่ย​ เป็นบ้านร้าง​หลังหนึ่งอยู่ที่ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ลักษณะเป็นบ้านไม้หลังเล็ก​ๆ​ ชั้นเดียว​ มีใต้ถุนบ้าน​ มีสวนอยู่บริเวณโดยรอบ​บ้าน​ เหมาะที่จะเล่นซ่อนแอบมาก​

ผมและเพื่อน​ๆ​ จึงก็เล่นกันไปเรื่อย​ๆ​ ก็ไม่มีอะไร​ จนเมื่อถึงตราผม ซึ่งผมจะต้องเป็นคนไปหาเพื่อน​ๆ​ บ้าง​ ในตอนนี้แหละครับ​ ผมก็หามาได้จนเกือบครบแล้ว​ ขาดเพื่อนอีกคนนึงเท่านั้น​ ซึ่งหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ​ เรียกได้ว่าหาแล้วทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้...พวกเราทุกคนจึงช่วยกันออกหาอีกครั้ง​ เวลาที่หานั้นมีความรู้สึกว่ากันนานมาก​ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ​

Advertisement

Advertisement

แต่มาคิดๆ​ แล้วมีอยู่ที่นึง​ ที่เราไม่กล้าที่จะเข้าไปหา​ ซึ่งนั่นก็คือในบ้าน​ พวกเราจึงตัดสินใจวิ่งกันกลับบ้าน​ไป เพื่อที่จะไปตามผู้ใหญ่ให้มาช่วยตามหา

พอไปถึง... พวกเราจึงรีบบอกผู้ใหญ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ หลังจากนั้น​ พวกเราพร้อมผู้ใหญ่จึงพากันกลับไปช่วยหาเพื่อนอีกรอบนึง​

เมื่อมาถึง...พวกผู้ใหญ่ก็พากันขึ้นไปเปิดดูในบ้าน​ ตามที่พวกเราบอกก่อน​ ซึ่งพวกเราก็คิดว่า​ต้องเจอแน่นอน​ แต่...พอเปิดเข้าไปปุ๊บ​ ด้วยแสงจากไฟฉายที่สาดส่องเข้าไปในบ้าน​ สาดไปซ้าย​ไม่เจอ​ ไปทางขวาก็ไม่เจอทั้ง​ ๆ​ ที่ในบ้านนั้นก็ไม่มีอะไรเลยนะ​ เป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ​ ไม่ได้ใหญ่​ หรือ​ซับซ้อนอะไรมากนัก​ เห็นเพียงแต่ตู้เล็ก​ๆ​ ที่เต็มไปด้วยหยากไย่​ นอกนั้นก็ไม่เห็นอะไรเลย​ นอกจากความว่างเปล่า​ภายในบ้าน​ กับเสียงจิ้งหรีดที่ดังระงมอยู่ด้านนอก​

Advertisement

Advertisement

เมื่อไม่เจอในบ้าน​ พวกผู้ใหญ่​และพวกเรา​ จึงช่วยกันลงไปตามหาบริเวณรอบ​ๆ​ บ้านอีกครั้ง​ ต่างพากันตะโกนเรียกเพื่อนอยู่เป็นเวลานาน​ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ​ จนทุกคนต่างถอดใจ​ เพราะบริเวณรอบ​ๆ​ นั้นมืดมาก....

ในขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันอยู่นั้น​ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงวัยกลางคน​คนนึง​ ผมยาว เธอสวมชุดสีขาว​คล้าย​ๆ​ กับคนถือศีล​ อยู่ใต้ถุนบ้าน​ เธอยืนมองตาเขม็งมาที่พวกเรา​ ผมก็จึงบอกให้เพื่อน​ๆ​ ดูแต่ก็ไม่มีใครเห็น... หลังจากที่พวกผู้ใหญ่หารือกันเสร็จ​ ก็พากันกลับบ้า​นมา​พักผ่อน​ เพื่อที่ว่ารุ่งเช้าเราจะพากันกลับมาหาใหม่

พอรุ่งเช้า...ที่บ้านของผม​ ก็​จะพากันใส่บาตรอยู่เป็นประจำ​ และในขณะที่ผมกำลังนั่งลงไหว้รับพรอยู่นั้น​ ผมจึงอธิษฐานในใจว่า​ "ขอให้เจอเพื่อนด้วยเถิด" ทันใดนั้นเอง​ จู่​ๆ​ หลวงตาท่านก็พูดขึ้นมาว่า​ "อยู่ในบ้านนั่นแหละ​ เค้าทำโทษอยู่​ เดี๋ยวก็ปล่อยออกมา" แล้วก็เดินจากไป

Advertisement

Advertisement

เราสามพ่อแม่ลูกหันมองหน้ากันแล้วคิดว่า​ "ท่านรู้ได้ยังไง" แล้วจึงรีบพากันไปหาพวกผู้ใหญ่​ เพื่อที่จะบอกสิ่งที่ได้รับรู้มาจากหลวงตา​

พอทุกคนรู้ดังนั้นแล้ว​ ต่างก็ออกจัดหาข้าวของ​ เพื่อไปทำการขอขมา​ต่อสถานที่นั้น​ เพื่อให้สิ่งที่สถิตอยู่ในที่นั้นปล่อยตัวเพื่อนของเราออกมา....

ก้าวแรกที่พวกเรากลับไปยังบ้านหลังนั้น​ ผมรู้สึกบางอย่างได้ว่ามันแปลก​ๆ​ เพราะเงียบเหลือเกิน​ ไม่มีแม้กระทั่งลม​ หรือแม้กระทั่งเสียงนกร้อง​ ทั้ง​ๆ​ ที่ในขณะที่มา​ ก็มีลมพัดเย็นมาตลอดทาง​ คล้ายว่าฝนจะตก

จนพอพวกผู้ใหญ่ทำพิธีขอขมาเสร็จ​ ผมก็มองเห็นผู้หญิงคนเมื่อคืนนี้อีกแล้วครับ... ผมตกใจมาก​ แต่คราวนี้เธอทำท่ากวักมือเรียก​ เหมือนจะให้พวกเราเข้าไปในบ้าน​ หรือเพื่อไปทำอะไรสักอย่าง​

ผมจึงรีบบอกพวกผู้ใหญ่​ ให้รีบเข้าไปในบ้านดูว่ามีอะไรมั้ย​ ครั้งนี้พอเปิดประตูไป...สิ่งที่เราเห็นนั้น​ เป็นภาพเพื่อนของผม​ นั่งขัดสมาธิอยู่กลางบ้าน​ ซักพักเพื่อนก็ค่อย​ ๆ​ ลืมตาขึ้นมา​ แล้วถามว่า​ "เกิดอะไรขึ้น" พร้อมบอกด้วยเสียงอ่อย​ๆ​ ว่า​ "หิวน้ำ​ หิวน้ำ" พวกผู้ใหญ่จึงรีบพาตัวเพื่อนผมกลับมายังที่บ้าน​ แล้วก็ซักไซ้ไล่เลียงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​

เค้าเล่าให้ฟังว่า​ "ในขณะที่เค้ากำลังหาที่ซ่อนอยู่นั้น​ ก็มีผู้หญิงคนนึงมากวักมือเรียก​ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย​"

พอมาคิด​ๆ​ ดูตอนนี้​ คงเป็นเพราะว่า​พวกเราคงไปเล่นเสียงดังรบกวนเค้ารึเปล่า​ เพราะมันก็เริ่มจะมืดแล้วด้วย เค้าจึงได้มาทำโทษ​ เหมือนเป็นการเตือนว่าอย่ามาเล่นอะไรเสียงดังที่นี่อีกนะ​ หรืออะไรก็แล้วแต่...แต่ที่แน่​ๆ​ พวกเราก็ไม่กลับไปเล่นที่บ้านหลังนี้อีกเลย...

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์