มาเยือนเมืองสุรินทร์ต้องไปที่นี่ ตอน ศาลหลักเมืองสุรินทร์ ภาพประกอบโดย ฮานะ เสาหลักเมือง หมายถึง เสาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ส่วนใหญ่จะทำจากไม้ชัยพฤกษ์ และจุดที่มีเสาหลักเมืองจะถือเป็นใจกลางเมือง เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพ ดวงจิต ดวงวิญญาณ ผู้ปกปักพิทักษ์รักษาบ้านเมือง แล้วบทความนี้ ฮานะ ก็พาท่านผู้อ่านมาชมศาลหลักเมือง ประจำจังหวัดสุรินทร์ค่ะภาพประกอบโดย ฮานะ ศาลหลังเมืองของจังหวัดสุรินทร์เป็นสถานที่กราบไหว้บูชามานานกว่า 100 ปีแล้วค่ะ ถูกสร้างเสริมเติมแต่งบูรณาการมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีลักษณะเช่นในภาพค่ะ ภาพประกอบโดยฮานะ เสาหลักเมืองของจังหวัดสุรินทร์ ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ สูง 3 เมตร วัดโดยรอบได้ 1 เมตร แกะสลักตกแต่งโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม พุทธศักราช 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และได้ทรงพระราชดำรัสว่า “ การสร้างเสาหลักเมืองนี้ดี เป็นหลักแห่งความสามัคคี ขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความสามัคคีกันสร้างความเจริญให้ก้าวหน้า และขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความร่มเย็นเป็นสุข ” ภาพประกอบโดย ฮานะ นายสงวน สาริตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้อันเชิญเสาหลักเมืองมายังจังหวัดสุรินทร์ มีการแห่รอบเมืองและอันเชิญเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2517 ได้ประกอบพิธียกเสาหลักเมืองและมีพิธีฉลองสมโภช ศาลหลักเมืองจึงเป็นสัญลักษณ์ที่พึ่งทางจิตใจของชาวสุรินทร์ที่ได้รับการเคารพกราบไหว้เรื่อยมาภาพประกอบโดยฮานะ จุดนี้เป็นจุดบอกเล่ารายละเอียดความเป็นมาของศาลหลักเมืองสุรินทร์ เพื่อน ๆ ที่มาสามารอ่านเพิ่มเติมได้จากจุดนี้ค่ะ ( แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจ )ภาพประกอบโดย ฮานะ ประโยคที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. ๙ ได้ทรงดำรัสไว้ค่ะภาพประกอบโดย ฮานะ อ่านเพิ่มเติมได้เลยค่ะภาพประกอบโดย ฮานะ สมัยก่อนมีเรื่องเล่ามหัศจรรย์ด้วยนะคะ เหมือนกับว่าพื้นถนนคอนกรีนบริเวณศาลหลักเมืองมีรอยแตกร้าว ชาวบ้านเลยพากันขุดพื้นถนนตรงที่แตกนั้นดูค่ะ แล้วเจอของโบราณต่าง ๆ รวมถึงพระพุทธรูปด้วย จึงได้นำมาบูชาไว้ที่ศาลหลักเมือง ภาพประกอบโดย ฮานะ ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวหรือนักเสี่ยงดวงมาใช้บริการกราบไหว้ตลอดนะคะ โดยเฉพาะช่วงก่อนวันหวยออก คนเราอยู่ได้ด้วยความเชื่อ โดยเชื่อว่าสักวันรางวัลที่ 1 จะเป็นของเรา ( ฮานะล้อเล่นนะ ขำขำ) ภาพประกอบโดย ฮานะ การเดินทางมาที่นี่หาไม่ยากนะคะ เพราะตั้งอยู่บนถนนเส้นหลัก หาง่าย ถ้ามาจากศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ วิ่งตรงมาทางทิศตะวันตกก็เจอค่ะ เปิดให้เข้ากราบไหว้ ขอพรชื่นชม สถาปัตยกรรมทุกวันค่ะ ฟรีไม่มีค่าบริการภาพประกอบโดย ฮานะ ถ้ามาเพื่อถ่ายรูปมาได้ตลอด แต่ถ้าต้องการเข้ากราบไหว้ขอพรด้านในจุดตั้งเสาหลักเมือง จะเปิดให้เข้ากราบช่วง 06.00 - 18.00 น. แต่ถ้าชวงเทศกาลวันไหว้ต่าง ๆ เปิดถึง 21.00 น . เลยค่ะภาพประกอบโดย ฮานะ ด้านในจุดตั้งเสาหลักเมืองเป็นแบบในภาพนะคะ มีความสวยงามแบบโบราณภาพประกอบโดย ฮานะ แนะนำนิดหนึ่งนะคะ สำหรับท่านใดที่ต้องการมากราบไหว้และขับรถยนต์มา ถ้ามาในช่วง 15.00 - 17.00 น. ของวันจันทร์ถึงศุกร์ จะหาที่จอดยากนิดหน่อย เพราะศาลหลักเมืองอยู่ติดโรงเรียนอนุบาล เวลาดั่งกล่าวเป็นเวลาเลิกเรียนรถจะติดค่ะ ภาพประกอบโดย ฮานะภาพประกอบโดย ฮานะ แล้วถ้าเพื่อน ๆ มากราบไหว้เสร็จแล้วหิวถนนเส้นนี้ก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้านเลยนะคะ ร่วมทั้งที่พักด้วย สำหรับที่พักราคาก็ไม่แพงนะคะ 200 - 300 บาท ต่อคืน เท่านั้น แถมอยู่ห่างจากศาลหลักเมืองเพียง 50 เมตร ห่างจากตลาดไนท์พลาซ่าเพียง 500 เมตร ภาพประกอบโดย ฮานะ โรงแรม MM หรือ เมมโมเรีย แห่งนี้มีมานาน สภาพของโรงแรมตามราคาค่ะ มีบริการคาราโอเกะ อาบ อบ นวด โต๊ะพลู อยู่ด้านหลังโรงแรม อ้อ....ถ้ามาพักอย่าแบกกระเป๋าหนัก ๆ ขึ้นไปนะคะ โรงแรมแห่งนี้มีลิฟต์ค่ะ แต่ใช้ไม่ได้ แล้วน้ำบางห้องไหลบางห้องไม่ไหลนะ อ่านแล้วไม่น่าเข้าพักใช่ไหม คือแค่บางห้องค่ะ ฮาฮาฮา ถ้าชอบประหยัดไม่คิดมาก ก็เข้าพักได้เลย 200 - 300 บาท ต่อคืน เท่านั้น ส่วนร้านอาหารที่นี้มีหลายร้านเลยไว้โอกาสหน้าจะมาแนะนำนะคะ บทความนี้ต้องไปแล้ว ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ค่ะ สวัสดีค่ะ