อื่นๆ

พระอุ้มหมา แม่ชีอุ้มแมว

2.4k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
พระอุ้มหมา แม่ชีอุ้มแมว

ในคืนวันพระใหญ่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ที่บ้านหลังหนึ่งในชนบทของศรีสะเกษ เป็นบ้านที่อยู่ห่างจากถนนสายหลักไม่มากนักและมีถนนคอนกรีตเป็นทางเข้า ที่นี่เป็นคุ้มหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีไม่ถึง 10 หลัง เป็นบ้านของฉันเองและเพิ่งเสร็จจากงานศพของคุณตาที่เพิ่งเผาไปเมื่อวานและเก็บกระดูกทำบุญไปเมื่อเช้านี้  คืนนี้เด็ก ๆ ในคุ้มมานอนที่บ้านของฉันกันเกือบทุกคน  ( เหมือนมานอนเป็นเพื่อนให้ความอบอุ่นและเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของฉันที่ต้องสูญเสียผู้ใหญ่ของบ้านไปอย่างกระทันหัน แกเป็นคนดีมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อและรักเด็ก เด็ก ๆ ทุกคนก็รักแกเช่นกัน )

เอาล่ะเข้าเรื่องเลยละกัน... ช่วงนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม พี่สาวของฉันได้ชวนเพื่อน ๆ ลงไปทอดข้าวเกรียบกินกัน ขณะที่เรากำลังทอดข้าวเกรียบก็มีคนนึงพูดเรื่องผีขึ้นมาและทุกคนก็เงียบฟัง น้ำเสียงที่เล่าอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไปฟังแล้วใจเต้นระทึกตึกตักบวกกับความมืดของชนบทที่มีไฟแค่แสงสลัว ๆ ในบ้านและเสียงจิ้งหรีด กบ เขียดที่ร้องระงงในค่ำคืนวันพระ บรรยากาศมันช่างเหมาะแก่การเล่าเรื่องผีจริง ๆ " เขาว่ากันว่าถ้าเจอพระอุ้มหมา แม่ชีอุ้มแมวเดินผ่านในตอนกลางคืนห้ามทักท้วงและให้ทำเป็นไม่เห็น เขาบอกว่าถ้าใครสนใจแล้วเผลอสบตากับใครสักคน คนคนนั้นจะโดนมนต์สะกดและต้องกลายเป็นพวกนั้น รู้ไหมว่า ??? ถ้าแมวดำหรือหมาดำที่ถูกอุ้มอยู่นั้นจ้องมองเราจะเกิดอะไรขึ้น .... มันก็จะกระโจนใส่เราและกัดคอเราดูดเลือดจนตายยยย !!! " หลังสุดเสียงคนเล่าก็มีเสียงดัง ตุ้บบบ!!!! ขลุกขลัก ๆ ที่หลังคาครัวที่เรากำลังทอดข้าวเกรียบอยู่ ทุกคนรีบวิ่งหนีขึ้นบ้านอย่างไม่คิดชีวิตและไม่สนใจใคร ฉันวิ่งขึ้นบ้านเป็นคนสุดท้าย ฉันรีบปิดประตูบ้านและลงกลอนเรียบร้อย หลังจากนั้นเรามานั่งกินข้าวเกรียบกันสักพักแล้วทุกคนก็ต่างเข้านอนกัน พวกเรานอนเรียงกันในห้องโถงของบ้าน ทุกคนหลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ฉันกับน้องชายนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมา เมี้ยวหง่าวววว เมี้ยวหง่าวววว!!? มันเป็นเสียงแมวร้องที่ฟังยามดึกแล้วรู้สึกชวนขนลุกมาก ๆ และพร้อมกันนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเหมือนคนเดินลากเท้าไปกับถนนคอนกรีต แกรกกกก แกรกกก !!! ค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ ฉัน...ผู้ซึ่งไม่เคยมีความอดทนกับความสงสัยและน้อง...ผู้ซึ่งไม่เคยห้ามปรามพี่ ด้วยความสงสัยฉันจึงชวนน้องไปดูกัน เราเดินไปที่หน้าต่างแล้วสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล่าก็ปรากฏอยู่ภายหน้าของฉันและน้อง หมาดำและแมวดำถูกพระและแม่ชีอุ้มเหมือนอย่างที่ฟังกันเมื่อตอนก่อนหน้า แมวและหมาตัวสีดำสนิทดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงวาว พระและแม่ชีมีตาเป็นขุมโบ๋ ฟันดูแหลมคมเหมือรฟันฉลามมีคราบเลือดเปรอะเต็มตัวไปหมด พระอุ้มหมาแม่ชีอุ้มแมว !!!! ฉันกับน้องอุทานขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ ทันใดนั้นทุกสิ่งตรงหน้าเราก็หันมาห้องเราและวิ่งกรูกันเข้ามาทางเรา แมวดำตัวนั้นกระโจนเข้ามาเกือบจะถึงตัวเรา ปั้งงงง !!! เสียงหน้าต่างถูกปิดลงอย่างรวดเร็วและฉิวเฉียด ฉันและน้องล็อคกลอนหน้าต่างและกลับไปที่นอนด้วยอาการที่ตัวสั่นอย่างกับเจ้าเข้าเลยทีเดียว พวกเราถึงกับจับไข้หัวโกร๋นกันเลยในคืนนั้น ไม่มีใครรู้ในคืนนั้น พวกเรากลัวเกินที่จะเล่าให้ใครฟัง

Advertisement

Advertisement

รุ่งเช้าวันต่อมา แม่เห็นอาการฉันและน้องไม่ค่อยดีท่านก็เลยพาไปวัดให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้ พระท่านบอกว่าหากได้ยินเสียงอะไรกลางค่ำกลางคืนก็อย่าไปคิดสงสัยใคร่รู้ เรื่องบางเรื่องไม่ใช่สิ่งที่เราควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ดึกดื่นเที่ยงคืนเห็นอะไรก็ห้ามทักห้ามท้วง ถ้าได้ยินเสียงเรียกชื่อเราในตอนกลางคืนหรือมีคนมาเคาะประตูทั้ง ๆ ที่คนที่บ้านอยู่กันครบก็ห้ามเปิด ห้ามขานรับโดยเด็ดขาด!!!!

สิ่งลี้ลับไม่ใช่เรื่องที่จะเจอกันได้ง่าย ๆ ในทุกวันหรือทุกคน ไม่มีการพิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน บางคนอาจจะไม่เชื่อเพราะอาจจะยังไม่เคยเจอ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคนไหนที่ได้เจอแล้วรับรองได้เลยว่าความเชื่อของคุณจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน อย่างที่เขาว่ากันว่า " ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ " หรือ  " ไม่เจอกับตัวก็คงไม่เชื่อ " อะไรทำนองนั้นล่ะค่ะ

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์