บ่ายสองครึ่งถึงบ่ายสามของทุก ๆ วัน ผู้เขียนจะเตรียมตัวเพื่อออกไปกวาดลานวัดการกวาดลานวัดเป็น 1 ใน กิจของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ผู้เขียนปฏิบัติเป็นประจำทุกวันในระหว่างจำพรรษา ในระหว่างที่กวาดลานวัดไปนั้น เกิดความสงสัยจึงถามหลวงพี่รูปหนึ่งว่า“หลวงพี่ครับ ผมเข้าใจว่าการกวาดลานวัดเป็น 1 ในกิจของสงฆ์ครับแต่ผมสงสัยว่า ในขณะที่เรากวาดไปเรื่อยๆนั้น ขณะเดียวกันจำนวนต้นไม้ที่มีอยู่ก็ยังคงเท่าเดิม และแน่นอนว่าใบไม้จักต้องร่วงหล่นลงมาอีกเช่นเดิมเป็นแน่แท้ครับ”ภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง “ครับหลวงพี่ การกวาดลานวัด ทำให้เราได้ฝึกการมีสติรู้ในสิ่งที่เราทำ ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และยังเป็นการฝึกสมาธิต่อสิ่งที่กำลังทำอีกด้วย” หลังจากที่ผมได้ฟังคำตอบนั้นจากหลวงพี่ที่ผมได้ถามไป ทุก ๆ วันที่กวาดลานวัดผมได้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองและมองไปรอบ ๆ... ใช่ครับ ผมมีสติและสมาธิมากขึ้น จดจ่อและตระหนักรู้กับสิ่งที่ทำตลอดเวลาที่กวาดลานวัดและแน่นอน ถ้าเราไม่มีสติและสมาธิในขณะที่กำลังกวาดลานวัดภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เราจะทราบได้อย่างไรว่า เรากวาดบริเวณไหนไปแล้วบ้าง บริเวณไหนที่ยังไม่ได้กวาด และจะวางแผนตลอดจนการบริหารจัดการกิจการงานในการกวาดลานวัดอย่างไรให้สำเร็จอีกด้วย ถ้าขาดสติและสมาธิระหว่างการกวาดลานวัด การงานในการกวาดลานวัดจะไม่สำเร็จเป็นแน่แท้ และจะเกิดความสับสนต่อบริเวณที่กวาด ตลอดจนรบกวนพระภิกษุรูปอื่นที่กำลังกวาดลานวัดอย่างมีสติและสมาธิอีกด้วย หลังจากกวาดลานวัดเสร็จแล้ว หากลองนึกย้อนกลับไป ถ้ามองพื้นวัดตอนยังไม่กวาดและมองพื้นวัดหลังจากที่กวาดลานวัดเสร็จแล้ว ความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับ เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร ? . . . น่าคิด ภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากลองมองเทียบกับฆราวาส ก็คงเป็นเรื่องของงานบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ขัดห้องน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าทุกๆบ้านต้องทำ และลองสังเกตตนเองดูว่า ระหว่างที่ทำมีสติและสมาธิมากน้อยเพียงใด และหลังจากการทำกิจการงานเหล่านั้นสำเร็จลุล่วงไปแล้วนั้น รู้สึกอย่างไร สบายใจมากขึ้นหรือไม่อย่างไร .. ?