ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคและวังบาดาลซึ่งเป็นที่อยู่ของพญานาคมีการเล่าขานกันมานมนานและมากมายหลายอย่าง โดยเชื่อกันว่าพญานาคเป็นผู้ให้กำเนิดน้ำและอยู่ในเมืองบาดาลใต้แม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานาคทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา จนทำให้เป็นที่เคารพเลื่อมใสอย่างมากของผู้คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และภาคเหนือ วัดป่าศรีมงคลรัตนารามตั้งอยู่ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นวัดสายปฎิบัติธรรมกัมมัฏฐานและเป็นวัดหนึ่งที่มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค จึงได้มีการสร้างถ้ำพญานาคจำลองซึ่งภายในถ้ำมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ทำจากหยกขาวเป็นพระประธานและมีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่จำนวนมากที่มีความประณีตงดงาม เมื่อเข้าเขตวัด ถนนสองข้างทางที่มุ่งสู่ตัววัดมีรูปปั้นเศียรพญานาค 5 เศียร ตั้งอยู่เป็นแนวยาว พระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (มีนาคม 2563) อยู่ใกล้ลานจอดรถ รูปปั้นพญานาคอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สร้างไม่เสร็จยังสวยงามขนาดนี้ เมื่อเสร็จแล้วจะงดงามขนาดไหน พญานาคสีสวยสดใสตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ระหว่างทางเดินไปถ้ำพญานาค สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในถ้ำพญานาคคือพระพุทธรูปหยกขาวซึ่งมีพญานาคขนาบสองข้าง และสวยงามจากแสงสะท้อนของแสงไฟประดับ รูปปั้นพญามุจลินท์นาคราชเป็นน้องคนสุดท้องของพญาอนันตนาคราชผู้เป็นใหญ่ในเมืองบาดาล ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นพญานาคที่ขดตัวและแผ่พังพานเพื่อบังลมหนาวและฝนที่ตกตลอด 7 วัน แด่พระพุทธเจ้าขณะกำลังประทับเสวยวิมุตติสุข รูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่จำนวนมากมายภายในถ้ำพญานาค พระนอนภายในถ้ำพญานาค ร้านอาหารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ในอาคารริมน้ำด้านหน้าทางไปถ้ำพญานาค บรรยากาศดีมาก หันหน้าไปตัววัดและมองเห็นต้นไม้ร่มรื่น ด้วยฝีมือการออกแบบถ้ำพญานาคที่มีหินงอกหินย้อยและการปั้นพญานาคในอิริยาบถต่าง ๆ ด้วยความประณีตและละเอียดงดงาม ประกอบกับแสงไฟที่ทำให้ถ้ำดูเหมือนมีมิติ จึงมีผู้กล่าวขานถึงถ้ำพญานาคของวัดป่าศรีมงคลรัตนารามกันปากต่อปาก จนกลายเป็นหนึ่งในจุดเช็คอินของอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ การเดินทางจากตัวอำเภออุทุมพรพิสัยไปวัดป่าศรีมงคลรัตนารามระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงชนบท ศก 3051 ประมาณ 550 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอุทุมพรพิสัย-ปรางค์กู่ ประมาณ 15 กิโลเมตร ผ่านโรงเรียนทุ่งสิมวิทยาคมให้เลี้ยวซ้ายจะมีป้ายบอกทางไปวัด (ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน "ชีพจรลงเท้า")