ถึงเวลาแล้วที่จะได้ไปพักผ่อนสักที หลังจากเข้าค่ายมาหลายวัน ผมได้ไปเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพ ที่อุทยานผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ค่ายที่ผมว่าเป็นค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำนักศึกษา ไม่หลายครั้งนักที่จะมีโอกาสได้ไปค่ายแบบนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ออกค่ายบ่อยมาก แต่ค่ายนี้ แตกต่างจากค่ายอื่นมาก เพราะเป็นค่ายที่จัดอยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากจะมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังทำให้มีความเพลินเพลินจากการเข้าค่ายอีกด้วย หลังจากเข้าค่ายเสร็จผมก็ได้มีโอกาสแวะขึ้นไปชม อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ของจังหวัดศรีสะเกษ ไม่มีใครไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ เพราะในช่วงหน้าหนาว ใครก็อยากไปสถานที่แห่งนี้ หลายคนคงจะรู้จัก ทะเลหมอก ที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ชื่อเริ่มแรกว่าผามออีแดงนั้น ผมได้ยินประวัติคร่าว ๆ ว่า มีคุณครูคนหนึ่ง ชื่อว่า แดง คุณครูคนนี้อยู่ประมาณวัยกลางคน ท่านได้ไปเที่ยวที่หน้าผาแห่งนี้ ในระหว่างการเดินทางกลับ ท่านก็เกิดอุบัติเหตุ จากการกลับ ที่บริเวณทางลงของผามอแดง และคนในระแวกนั้น จะเห็นร่างของครูแดง มาปรากฏตัวอยู่บ่อย ๆ ก็เลยตั้งชื่อผานี้ว่า ผามออีแดง สถานที่แห่งนี้เป็นอุทยาน ตั้งอยู่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคอีสานของเรานี่เอง เป็นจังหวัดที่มีอารยธรรมที่สวยงาม ระยะห่างจากตัวเมืองศรีสะเกษ ถึง ผามออีแดง มีความไกลพอสมควร ระยะทางประมาณ 80 - 90 กิโลเมตร เพราะตั้งอยู่ติดชายแดนเพื่อนบ้านประเทศกัมพูชา ผาแห่งนี้มีความเป็นมาที่หลากหลาย มีความสวยงามของธรรมชาติอย่างมาก ใครที่หาสถานที่ท่องเที่ยวดีดี ก็ควรมาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เพราะเป็นสถานที่ ที่มีความสวยงาม บรรยากาศดี วิวดีเป็นอย่างมาก ทำให้ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน วันนั้นผมเดินทางขึ้นไปที่ผามออีแดงหลังจากเข้าค่ายเสร็จ ผมได้ไปเข้าค่ายที่เขตอุทยาน แต่อยู่ด้านล่างของอุทยาน อยู่ตรงจำหน่ายบัตรเลย ด้านล่างจะมีที่พักอาศัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาค้างคืน ทางสโมสรของผม เลยอยากไปทำค่ายพัฒนาศักยภาพตรงนั้น เลยขออนุญาตที่จะไปทำค่ายตรงนั้น เพราะเคยทำมาหลายปีแล้ว และตรงนั้นก็อนุญาตให้ทำค่าย โดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดสถานที่ และผมเคยมาเข้าค่ายที่ อุทยานผามออีแดงเป็นครั้งแรก วันสุดท้าย หลังจากกลับบ้าน ทางค่ายของผมก็ได้พาชาวค่าย ไปเยี่ยมชมความสวยงามทางธรรมชาติ ของผามออีแดงนี้ บรรยากาศการขึ้นไป เต็มไปด้วยผู้คนอย่างมากที่มารอขึ้นไปชมหมอกที่ผามออีแดง ทางอุทยานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมา เวลา 05.30 น. ประมาณ 04.00 น. กว่า ๆ ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยมาแล้ว ผมนอนอยู่ที่ค่าย จะได้ยินเสียงรถประจำเลย โดยมีนักท่องเที่ยวอย่างหลากหลายที่มารอขึ้น ผามออีแดง ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะเป็นทริปรถมอเตอร์ไซค์ จะมีนักท่องเที่ยวที่ขี่มอเตอร์ไซค์มากันเป็นกลุ่ม แต่ทางอุทยานก็มีนโยบายอย่างชัดเจน ว่ารถคันไหนที่มีการตกแต่งรถดัดแปลงไปจากเดิม จะไม่อนุญาตให้นำขึ้น ผามออีแดง มีการตรวจอย่างเคร่งครัด แต่ในวันนั้น ทางค่ายของผมได้รับสิทธิพิเศษในการขึ้นไป โดยจะขึ้นไปตอนเวลา 05.00 น. ซึ่งพิเศษมาก ๆ เพราะขึ้นไปก่อนนักท่องเที่ยวอีก ระยะทางขึ้นไปประมาณ 7 กิโลเมตร ถือว่าไกลมาก ๆ ทางขึ้นไป ผมไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ดู เพราะตอนนั้นผมอยู่ในรถ และตอนนั้นมันมืดมาก ๆ ถ้าถ่ายมา ทุกคนอาจไม่เห็นภาพหรอก เลยไม่ได้ถ่ายภาพทางขึ้นมาให้ทุกคนได้ดูกัน ทางขึ้นจะมีความคดโค้ง สองข้างทางเต็มไปด้วยป่า มีความสวยงามและสงบของป่าภูเขา พอขึ้นมาถึงผามออีแดงแล้ว พี่ ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานก็จะ อธิบายเขตพื้นที่ให้ฟัง จริง ๆ แล้วเขตอุทานของผามออีแดงจะมีอยู่ 3 อำเภอ 2 จังหวัด คือ อำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเนื้อที่หลายหมื่นไร่ และมีประวัติความเป็นมาต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟัง แต่มันเยอะมาก ๆ ผมจำได้ไม่หมด แต่ก็จำได้อยู่พอคร่าว ๆ ปกตินักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับฟังบรรยายพิเศษ แต่ค่ายผมเป็น เป็นแขกพิเศษ เลยได้รับฟังบรรยาย หลังจากฟังบรรยายเสร็จ ก็ไปดูภาพวิวเลย มีความสวยงามอย่างมาก พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น เป็นท้องฟ้าที่มีแสงรำไร ผมรออย่างใจจดใจจ่อ ตอนนั้นที่ผมไปเป็นฤดูหนาว มีความต่างประเทศสุด ๆ เพราะอากาศหนาวมากเด้อ เป็นการเข้าค่ายที่ได้มาเที่ยวชม ธรรมชาติด้วย สนุกสุด ๆ บรรยากาศก็สวยงามมาก พอพระอาทิตย์ขึ้น ตอนที่ผมไปไม่ค่อยเห็นทะเลหมอกสักเท่าไหร่ เพราะมันใกล้จะหมดช่วงของทะเลหมอกแล้ว จะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณผามออีแดง จะมีแนวกั้นที่ชัดเจน เพื่อป้องกันอันตราย กลัวเกิดอุบัติเหตุ จึงมีการป้องกันอย่างเข้มงวด ถ้าคุณได้มาที่นี่แล้ว คุณจะเจอเพื่อนของคุณ ... ไม่ใช่ คุณจะเจอเจ้าถิ่น นั้นก็คือ เจ้าลิงจ๋อ จะเห็นลิงหลายตัวเลย ที่มาต้อนรับนักท่องเที่ยว บางตัวก็มาหยอกล้อกัน ดูตัวนี้สิ เขามาเพื่อเป็นนางแบบจริง ๆ เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมาก ลิงจะเยอะมาก ๆ มารอขออาหารจากคน แต่ทางอุทยานก็ติดป้ายอย่างชัดเจนว่า ห้ามให้อาหารสัตว์ แต่ด้วยความหิวของเจ้าลิง ถ้าเราเผลอ เจ้าลิงอาจมาแย่งขนมไปจากมือเราได้ ลิงที่นี่มีความซนอย่างมาก เพื่อนผมถือถุงขนมอยู่ เจ้าลิงก็มาแย่งถุงขนมจากมือของเพื่อนผม น่ารักมาก ๆ ตอนนั้น ทำให้สนุกเฮฮาไม่น้อย ถือว่าเป็นรสชาติในการมาเที่ยวครั้งนี้ นอกจากวิวสวย ๆ ที่สามารถมองไปเห็นบ้านเรือนของประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีโบราณสถานที่สวยงามให้เราได้ชม ที่แห่งนี้เรียกว่า สถูปคู่ เป็นสถูปหินโบราณตั้งอยู่คู่กัน เลยตั้งชื่อโบราณสถานนี้ว่าสถูปคู่ มีความสวยงามเป็นอย่างมาก มีความเก่าแก่และงดงาม ระยะทางจากผามออีกแดง เดินมาประมาณ 700 เมตร อยู่ทางด้านล่างของผา สามารถไปสักการะบูชาสถูปคู่นี้ได้ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล ด้านล่างของหน้าผา ยังมีภาพสลักหินนูนต่ำอีกด้วย เป็นภาพคล้ายคนในสมัยก่อน เป็นภาพผู้ชายสอง หญิงหนึ่ง ที่มีความเก่าแก่และงดงาม ทำให้เราอยากทราบถึงความเป็นมาของรูปภาพนี้มาก เราสามารถลงไปดูภาพนี้ได้ จะมีบันไดไม้เป็นทาง เพื่อที่จะให้เราลงไปดู มีความสวยงามของภาพวาดมาก ๆ แต่บันไดที่ลงไปดู มีความเก่านิดหนึ่ง ตอนผมไปดู ผมลื่นล้มตรงบันได แต่ไม่เป็นอะไรมาก เพราะบันไดมีความเปียกและทำให้ผมลื่น ตอนนั้นคนเยอะมาก ๆ ทำให้ผมต้องเดินอย่างระวังมากกว่าเดิม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีความสวยงามมาก ทำให้ผ่อนคลายหลังจากผมได้เข้าค่ายเสร็จ นอกจากนี้ยังมีตลาดขายของกิน ของฝากต่าง ๆ มากมาย ที่มีราคาถูก ใครที่อยู่ใกล้ ๆ หรือใครที่อยากมาเที่ยว ก็สามารถมาได้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังมาก ในจังหวัดศรีสะเกษ ผมอยากให้ทุกคนได้มาลองพบเจอประสบการณ์แบบนี้ รับรองว่าฟินสุด ๆ คุณจะจดจำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีภาพวิวที่สวย มีสถูปคู่สำหรับสักการะ และเห็นถึงภาพประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ของภาพสลักนูนต่ำ สถานที่แห่งนี้น่ามาเยี่ยมชมมาก ๆ ใครที่มาแล้วก็ถ่ายรูปมาอวดกันด้วยนะครับ ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่ตั้ง : ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110 เวลาในการเข้าชม : เปิดบริการทุกวัน 05.00 - 16.30 น. ค่าบริการ เด็กและผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างชาติเด็ก 200 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400บาท รถจักรยาน 10 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถ 4 ล้อ 30 บาท รถ 6 ล้อ 100 บาท รถ 8-10 ล้อ 200 บาท บทความและรูปภาพโดย : hitERlist เจ้าของบทความ