การเดินทางของเราในทริปอีสานครั้งนี้ตั้งต้นที่จ.สกลนคร ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นแบบที่เสื้อแจ๊คเก็ตเอาไม่อยู่ทีเดียว เรารีบเปิดมือถือดูพบว่าอุณหภูมิ 12 องศา!! โชคดีจริงๆ ที่ลมหนาวมาเยือนพอดี ทำให้ทริปนี้เย็นสบายไปหลายวัน เรียกได้ว่าตอนกลางคืนหนาวกว่าเปิดแอร์เสียอีก เราเดินออกจากสนามบิน เพราะตามลายแทงที่ได้มาจะมีรถสองแถวไปท่าแร่วิ่งผ่านหน้าสนามบิน เดินออกมาไม่ไกลก็มีพี่สาวใจดีรับขึ้นรถไปลงหน้าปากทาง ต้องขอบคุณมากๆ เลย รอไม่นานรถก็มา เส้นนี้มีรถสองแถววิ่งไปมาตลอดระหว่างในตัวเมืองกับท่าแร่ ไม่ต้องกลัวว่าจะรอนาน เราลงรถที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติสกลนคร เพื่อมาชมอุทยานบัวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่มีจักรยานให้เช่าขี่เล่นด้วย แต่ไม่รู้ว่าเราไปผิดเวลาหรือฤดูกาล เพราะแทบไม่เจอดอกบัวเลย 😂หลังจากไม่เจอบัวสมใจ ก็ออกมารอรถสองแถวสายเดิมเพื่อไป ท่าแร่จุดแรกที่แวะก็คือ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ โบสถ์แห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี โดยหลังที่ 1 สร้างเมื่อปี 1884 ใช้ชื่อวัดมหาพรหมมีคาแอล หนองหาร สร้างจากไม้ไผ่ ปัจจุบันไม่มีภาพถ่ายหลงเหลือ ต่อมาปี 1901 มีการสร้างโบสถ์หลังที่ 2 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน กระทั่งปี 1965 พระอัครสังฆราชเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ดำริสร้างโบสถ์หลังใหม่ แล้วเสร็จปี 1971 โบสถ์หลังที่ 3 นี้เองคือโบสถ์หลังปัจจุบัน แต่ผ่านการบูรณะมาแล้วสองครั้ง โดยในปี 1994 มีเติมบริเวณหัวให้สูงขึ้น และครั้งทที่ 2 บูรณะเมื่อปี 2013 โดยขยายระเบียงทั้งสองข้างออกไป ที่บ้านท่าแร่มีบ้านเก่าสวยงามหลายหลัง แต่น่าเสียดายที่ปิดตายไม่ได้เปิดให้เข้าชม ถ้าปรับปรุงเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวน่าจะดี จะช่วยให้การเดินชมมีอรรถรสและความหมายมากขึ้น เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ต้องชมบ้างในบริเวณนี้เพราะไม่มีป้ายบอกทางหรือศูนย์ข้อมูลแต่อย่างใด แวะหลบร้อนที่ร้านระเบียงดาว ชั้นสองถ่ายรูปบ้านเก่าฝั่งตรงข้ามได้สวยงาม รสชาติขนมและโกโก้อร่อยใช้ได้ในราคาย่อมเยา ได้เวลานั่งรถสองแถวเข้าตัวเมืองสกลนครแล้ว เพราะตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้ใบใหญ่เลยชักจะหนักแล้ว หลังจากเก็บของก็ออกมากินอาหารเช้าควบเที่ยงกินที่ร้าน วิลลี่ เรสเตอรองท์ ภายในร้านสะอาดสะอ้านเป็นครั้งแรกที่ได้ลองกิน จ๋าหย่อ เนื้อหมูหมักเครื่องเทศทอดกินกับแป้งห่อ เส้นขนมจีนและผักเครื่องเคียง และน้ำจิ้ม วิธีกินคล้ายกับแหนมเนืองแต่รสชาติจ๋าหย่อจะไม่เหมือนกับแหนมเนือง รสชาติอร่อยมาก ขนมจีนทรงเครื่องอิ่มแล้วออกเดินสำรวจเมืองกัน วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร วัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง พระธาตุเชิงชุมมีอายุเก่าแก่กว่า 900 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือ 17 เป็นปราสาทศิลาแลง ฝีมือช่างขอม เจดีย์สีขาวที่ครอบปราสาทหินสร้างเมื่อพุทธศตวรรษที่ 22 ผ่านการบูรณะมาหลายครั้ง ตามตำนานพระคัมภีร์อุรังคธาตุ อดีตพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เสด็จมาประทับรอยพระพุทธบาท ณ ที่แห่งนี้ อนุสาวรีย์พระยาประจันตประเทศธานี อดีตเจ้าเมืองสกลนคร พ.ศ. 2429-2466 เมื่อปี 2456 ได้รับพระราชทานนามสกุลพรหมสาขา และต่อมาได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้ ณ สกลนครต่อท้ายนามสกุล ระหว่างรับราชการเคยคุมทัพไปปราบฮ่อที่เวียงจันทน์และเชียงขวาง วัดศรีชมพู เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งในตัวเมืองสกลนคร สร้างเมื่อปี 2400 โดยพระยาประจันตประเทศธานี อดีตเจ้าเมืองสกลนครนำชาวบ้านสร้างวัด เดิมชื่อวัดศรีธรรมหายโศก แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดศรีชมพู ภายในประดิษฐานพระเจ้าหายโศก พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ พระเนตรเหลือบลงต่ำแสดงความเมตตา จีวรห่มเฉียงเรียบ ชายจีวรตะขาบซิกแซก งดงามมาก มื้อเย็นฝากท้องที่ร้านสะบันงา ปลาส้มทอดมาทั้งตัวในราคา 90 บาทเท่านั้น อร่อยน้อยกว่าปลาส้มทอดที่เคยกินที่กว๊านพะเยา ปลาน้ำโขงผัดฉ่าจานนี้อร่อยมาก ราคา 90 บาทเช่นกัน เมื่อเทียบรสชาติ ปริมาณและเป็นร้านอาหารติดแอร์ด้วย ก็นับว่าคุ้มมากจริงๆ วันที่สองเก็บตกในสกลนครก่อนนั่งรถบัสไปพระธาตุพนม แต่ก่อนออกเดินทางต้องเติมพลังมื้อเช้าก่อน ตอนแรกจะไปร้านดังปากหม้อปารีส แต่เมื่อเดินไปถึงร้านปิดหนึ่งวัน เลยไปลายแทงต่อไป ร้าน เลิศรสไข่กะทะ ไข่กะทะเมนูที่พลาดไม่ได้เมื่อมาอีสาน ข้าวเปียกเส้นใส่หมูยอ วัดถ้ำผาแด่น วัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ในอดีตมีพระเกจิชื่อดังมาจำพรรษาที่นี่ เช่น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตามหน้าผามีประติมากรรมนูนต่ำมากมาย พระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ วัดป่าสุทธาวาส ภายในมีพิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เนื่องจากพระอาจารย์มั่นละสังขารที่วัดป่าแห่งนี้ ภายในมีรูปเหมือนพระอาจารย์มั่นและจัดแสดงเครื่องใช้ของพระอาจารย์มั่น เกจิอาจารย์ที่เป็นที่นับถือของชาวบ้านในดินแดนที่ราบสูงหลังจากนี้เราให้รถไปส่งที่สถานีขนส่งเพื่อต่อรถไปพระธาตุพนมต่อ แต่เราขอไปเล่าต่อในตอนหน้า เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองนครพนมอีกด้วย แล้วพบกันตอนหน้า ภาพประกอบโดย food.travel.addict