(ภาพโดย Deborah Breen Whiting จาก Pixabay) ผักเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด หรือตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ใกล้บ้าน มีราคาถูก และมีประโยชน์มากมาย เช่น เป็นแหล่งสารอาหาร (น้ำ คาร์โบไฮเดรต วิตามิน) ซึ่งมีส่วนในการช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย และไม่เกิดภาวะทุพโภชนาการ เช่น น้ำหนักน้อย ไม่อยากอาหาร ผมร่วง เป็นแผลหายช้า เวียนศีรษะ อ่อนแรง เป็นต้น แต่ประโยชน์อีก 1 อย่าง คือ ผักสามารถช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคได้อย่างมากมาย ดังนั้นวันนี้ผมจึงมาแนะนำผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตามด้านล่างนี้เลยนะครับ (ภาพโดย silviarita จาก Pixabay) กะหล่ำปลี ในกะหล่ำปลีมีสาร กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งขัดขวางการดูดซึมสารไอโอดีน ดังนั้นควรต้มหรือทำอาหารโดยผ่านความร้อนก่อน เพื่อทำลายกอยโตรเจน กะหล่ำปลีจัดอยู่ใน ผักประเภท ก. คือ เป็นผักที่ให้พลังงานต่ำ มีคาร์โบไฮเดตรต่ำ และสรรพคุณคือ ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง แก้ท้องผูก ช่วยขับปัสสาวะ อีกทั้งในกะหล่ำปลีที่ดิบยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย ซึ่งช่วยลดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน และกะหล่ำปลียังหาซื้อในท้องตลาด และห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน (ภาพโดย stanbalik จาก Pixabay) มะระขี้นก ช่วยในการหลั่งสารอินซูลินจากตับอ่อน ซึ่งช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี และมะระขี้นกยังสามารถชะลอความผิดปกติของไตได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง แก้ไอ แก้ไข้ แก้ร้อนใน บรรเทาอาการปวดศีรษะ นอกจากนี้มะระขี้นกยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ และไนอะซิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ มะระขี้นกเป็นผักพื้นบ้านของชาวอีสาน ซึ่งหาได้ทั่วไปและตามท้องตลาด (ภาพโดย Vishnu Vasu จาก Pixabay) ยอบ้าน มีส่วนประกอบคือ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังในการกิน ใบยอยังมีฤทธิ์ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคเกาต์ แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้ไอ แก้ไข้ เป็นต้น ใบยอสามารถหาได้ตามหมู่บ้านในภาคอีสาน(ภาพโดย Einfach-Eve จาก Pixabay) ชะพลู อุดมไปด้วย แคลเซียม เบต้าแคโรทีน สรรพคุณของชะพลูคือ รักษาโรคเบาหวาน โรคหอบหืด แก้บิด ขับเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นต้น ซึ่งชะพลูสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด เช่น ราก (บำรุงธาตุ ขับลม) ใบ (ขับเสมหะ) ลำต้น (ขับเสมหะ) ดอก (แก้บิด) ผล พบมากในภาคอีสาน หาได้ตามบ้านเรือน และท้องตลาด มะเขือพวง สามารถพบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีส่วนช่วยในการขับเสมหะ เจริญอาหาร บำรุงธาตุ สร้างภูมิคุ้มกัน แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดข้อ บำรุงเลือด รักษาเบาหวาน ลดอาการไอ เป็นต้น และอุดมไปด้วย วิตามินบี 1 2 3 6 9 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก แมกนีซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี แมงกานีส หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด (ภาพโดย Najib Zamri จาก Pixabay) ตำลึง พบมากในภาคอีสาน และเป็นผักพื้นบ้านอีกด้วย ซึ่งหาได้ทั่วไปและตามท้องตลาด และสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น (แก้แสบคัน เลือดจาง เลือดออกตามไรฟัน) ใบ (แก้โรคทางตา) เถา (ถอนพิษ) ราก (ดับพิษ) ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด (ภาพโดย naturepost จาก Pixabay) จะเห็นได้ว่าผักแต่ละอย่างนั้นมีประโยชน์มากมายทำให้ร่างกายเรามีสุขภาพร่างกายที่ดี ช่วยป้องกันโรค และบรรเทาอาการเจ็บไข้ได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา เราควรกินผักให้เยอะ ๆ โดยกินผักวันละ 4 ขีด (400 กรัม) เพราะผักมีวิตามิน มีสารอาหารที่สมบูรณ์ มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลร่างกาย และทำให้เราอิ่มไวด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับคนกำลังลดน้ำหนัก แต่การกินผักนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี ดังนั้นเราต้องดูแลสุขภาพร่างกายด้านอื่น ๆ เช่น นอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ออกกำลงกาย 3 วันต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายวันเว้นวัน และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคู่กับการกินผักไปด้วย