กระทง 9 ห้อง กับความเชื่อคนอีสาน ว่าด้วยเรื่องความเชื่อของคนแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกัน โดยวันนี้จะยกตัวอย่างความเชื่อของคนอีสานที่มีความหลากหลาย และอาจจะไม่เคยเห็นที่ไหน หรือเคยเห็นแต่ไม่ทราบว่ามันคืออะไร แล้วทำไปเพื่ออะไร วันนี้ผู้เขียนจึงขอนำเสนอเรื่องกระทง 9 ห้อง กับความเชื่อคนอีสาน หลายคนเกิดความสงสัยว่า กระทง 9 ห้อง คืออะไร วันนี้เราจะพามารู้จักกัน กระทง 9 ห้องนั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมี 9 ห้องอย่างแน่นอน โดยทำขึ้นเพื่อใช้ในพิธีสะเดาะเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี เมื่อถึงช่วงของอายุที่เข้าสู่วัยอันตราย การถูกหมอดูทักเรื่องไม่ดี ก็จะทำกระทง 9 ห้องไปทำพิธีตามความเชื่อแต่เดิมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา การทำกระทง 9 ห้อง ในครั้งนี้ได้ความอนุเคราะห์จากคุณยายของนักเขียนเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้ ซึ่งสิ่งที่ต้องมีในกระทง ได้แก่ กาบกล้วยที่ใช้ทำตัวกระทงพร้อมไม้เสียบที่ทำจากไม้ไผ่ ของคาว ของหวาน ของเปรี้ยว ฝ้ายดำ ฝ้ายแดง ข้าวดำ ข้าวแดง หมาก พลู ยาสูบ ใบฝรั่ง กาบกล้วยแกะเป็นรูปคน และรูปพระยา เมื่อได้อุปกรณ์ทุกอย่างครบแล้วก็สามารถลงมือทำได้เลย ขั้นแรกทำตัวกระทงก่อน โดยนำกาบกล้วยมาพับเป็นเก้าห้องไขว้กันไปมา แล้วใช้ไม้ไผ่เป็นตัวยึดไม่ให้หลุดออกจากกัน และเสียบไม้ไผ่ให้เป็นฐานด้านล่างกระทง จากนั้นนำใบตองมารองแต่ละห้องไว้ เพื่อไม่ให้เครื่องต่าง ๆ ที่ใส่ลงไปหล่น ในขั้นนี้จะตัดกาบกล้วยเป็นรูปคน และรูปพระยาด้วย ถ้ารูปพระยาจะนำผ้ามาพันให้เป็นเครื่องนุ่ง โดยมีความเชื่อว่าคนเหล่านี้จะมารับเคราะห์แทนเรา ต่อมาใส่ของคาว เช่น ปลาร้า ปลาแห้ง ปลาย่าง ของหวาน เช่น กล้วย และของเปรี้ยว เช่น มะเฟือง ซึ่งเป็นของที่หาได้ง่าย ทั้งมีความเชื่อว่าสิ่งที่ใส่ลงไปในกระทงจะเป็นสิ่งที่ผีเจ้ากรรมนายเวรได้กิน ขั้นตอนถัดมาเป็นการทำข้าวดำ ข้าวแดง ข้าวดำ ทำได้โดยนำข้าวเจ้ามาคลุกกับคราบมินหม้อ ส่วนข้าวแดงคลุกกับขมิ้น (แดงคนอีสานจะออกเป็นสีเหลือง) สุดท้ายใส่หมาก พลู ยาสูบ พันอย่างละอันใส่กระทงแต่ละห้องให้เหมือนกันทุกห้อง ฝ้ายดำ และฝ้ายแดง เสียบไส้ไม้ไผ่จำนวน 9 อัน แล้วปักลงในกระทงตามมุมให้ครบ ส่วนใบฝรั่งนั้นให้ทำเป็นกรวยสามอัน (ใบฝรั่ง 3 ใบ ต่อกรวย 1 อัน) เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็จะนำไปประกอบพิธี บ้างให้พระทำพิธี บางให้หมอพราหมณ์ทำ แล้วแต่ว่าวั้นนั้นจะสะดวกอย่างไร นอกจากจะมีกระทง 9 ห้องแล้ว ยังมีขันธ์ 5 ด้วย ผู้ทำพิธีจะทำพิธีด้วยการสวดคาถาต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้มีเคราะห์รู้สึกสบายใจขึ้น และรู้สึกแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง หากทำพิธีเสร็จก็จะนำกระทงไปวางตามกำแพงวัดหรือที่เรียกว่า การปล่อยกระทงนั่นเองภาพถ่ายทั้งหมดโดยนักเขียน : อิราณี (จุฑามณี สีผลสมอ)